ดิ้นพล่านให้เห็น? “ปิยบุตร” โกรธแทน “ธนาธร” ฟาด “ดร.อานนท์-ดร.นิว” แฉหัวเกรียนเต็มสนามบิน เจอ สวน คนเกลียดเยอะไม่ต้องทหาร “บุญเกื้อ” โวยลั่น โจทก์หนี ศาลนัด 30 ส.ค. เตรียมขอจำหน่ายคดี “ม่อน อาชีวะ” ถูกเท เพราะปาก
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (19 ส.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น ซัดกันมันหยด! “ปิยบุตร” เดือดเพื่อนสนิท ฟาด “ดร.อานนท์-ดร.นิว” แอบถ่าย ลูกพี่ออกนอกประเทศ เจอสวนกลับสุดเจ็บ!?
โดยระบุว่า สืบเนื่องจากกรณี ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ได้เปิดประเด็นเมื่อ 16 ส.ค. 64 โดยการโพสต์เที่ยวบิน ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่กำลังเตรียมบินออกนอกประเทศ ในวันที่ 18 ส.ค. 64 เวลา 18.30 น.
ต่อมาวานนี้ (18 ส.ค. 64) เวลาประมาณ 17.00 น. ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center ได้มีการเผยแพร่ภาพ ธนาธร พร้อมครอบครัว ที่บริเวณสนามบิน เพื่อเตรียมตัวออกนอกประเทศ ตามที่ ดร.อานนท์ เคยบอกไว้จริง โดยมีรายละเอียดว่า
เพื่อนปิยบุตรส่งมาให้ดูครับ ขณะนี้มีใครบางคนกำลังพาลูกเมียเดินทางออกนอกประเทศครับ ออกจากประเทศไทย เวลา 18.30 น. ไปถึงประเทศสิงคโปร์ เวลา 20.55 น.
#ม็อบ18สิงหา หรือจะสู้ #บินไปเมืองนอก18สิงหา
#ปลุกปั่นลูกชาวบ้านไปม็อบส่วนลูกฉันไปเที่ยว
เขามีสมัครวิ่งเทรลที่ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 23-29 สิงหาคม 2564 ภายใต้ชื่อ JUANG Than
ส่วนจะกลับมาหรือไม่? จะเหมือนกรณีไปดูโอลิมปิกหรือไม่? โปรดติดตามตอนต่อไป
จึงกลายเป็นกระแสใหญ่ในโลกโซเชียล โดยเฉพาะมีการตั้งคำถามว่า นี่เตรียมบินไปแข่งกีฬา หรือ จะหนีออกนอกประเทศ ไม่กลับมาแล้วกันแน่
และวันนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ไม่พอใจอย่างมาก ได้ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ Piyabutr Saengkanokkul ระบุว่า
เมื่อวานดอกเตอร์ไอโอ 2 คน ปล่อยข่าวเที่ยวบินของธนาธร แล้วข้อความนี้ก็ว่อนในกรุ๊ปไลน์ต่างๆ วันนี้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มี “ชายหัวเกรียน” จำนวนมากไปดักรอถ่ายรูปธนาธรเดินทาง บังเอิญว่า ในยุคสมัยนี้มีไม่กี่อาชีพที่ต้องถูกบังคับตัดหัวเกรียนเสียด้วย
ต่อมา ดอกเตอร์ไอโอ 2 คน ก็โพสต์ภาพธนาธรที่สนามบิน แล้วทันใดนั้น ก็มีทวิตเตอร์แปลกๆ อีกหลายบัญชี โพสต์ตาม ข้อความเดียวกัน รูปเดียวกัน อ้างว่า “เพื่อนปิยบุตร” ส่งมา แหม่ บังเอิญว่า ผมไม่มีเพื่อนทำงานอาชีพที่ถูกบังคับให้หัวเกรียนด้วย
คนพวกนี้ เอาข้อมูลการเดินทางส่วนบุคคลออกมาเปิดเผยได้อย่างไร? ข้อมูลมาจากหน่วยงานของรัฐไหน? ละเมิดสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนบุคคลหรือไม่? และ “ชายหัวเกรียน” จำนวนมาก ทำไมต้องไปรอดักถ่ายรูปธนาธรที่สนามบิน? เจ้าหน้าที่รัฐกินภาษีประชาชนมีหน้าที่แบบนี้หรือ? #ไม่เนียนไปเรียนมาใหม่
ต่อมา ดร.อานนท์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง โดยตอกกลับข้อความของ ปิยบุตร ว่า…
“ทำไมไอ้กะปิบูดล้มเจ้ามันถึงต้องใส่ร้ายว่า ทหารหัวเกรียนถ่ายรูปไอ้ตี๋เนรคุณสองแผ่นดินและครอบครัวที่เตรียมหนีไปทำชั่วอะไรที่ต่างประเทศ มันไม่คิดเหรอว่าประชาชนที่สนามบินมีเยอะแยะ และมีคนที่เขาเกลียดคนเลวๆ อย่างพวกมันถ่ายรูปส่งกันให้ว่อน
กะอีแค่เด็กสามกีบไปกินข้าวหรูหราหมาเห่าที่ รร.เอราวัณ คนธรรมดาๆ ชาวบ้านที่นั่งโต๊ะข้างๆ นี่แหละแอบถ่ายส่งมาให้ดู ไม่ได้หัวเกรียนหรอก
โถ่ ไอ้กะปิบูด พูดดัดจริต ประดิษฐ์วาทกรรม นิติธรรมล้มละลาย ขายชาติ”
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ก็ได้โพสต์ประเด็น บุญเกื้อโวยลั่น โจทก์หนี ศาลนัด 30 นี้
โดยระบุว่า จากกรณี ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เตรียมเดินทางไปร่วมแข่งขันวิ่งเทรลรายการ “อัลตร้า เทรล ดู มงต์บลังค์” ที่ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 23-29 สิงหาคมนั้น
นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว ทีมโฆษกพรรคไทยภักดี ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
“สายลับของผมรายงานมาว่า เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พาครอบครัวขึ้นเครื่องไปต่างประเทศเสียแล้ว ผมในฐานะจำเลยของคุณจึงขอเตือนไปถึงนายธนาธรว่า คดีที่คุณฟ้องบุญเกื้อหมิ่นประมาทนั้น จะถึงกำหนดนัดที่โจทก์ต้องมาศาลเพื่อทำการไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 30 สิงหาคมนี้ ซึ่งคุณจะต้องมาศาลด้วยตนเอง
หากตัวโจทก์หนีไปต่างประเทศ ไม่ยอมมาศาลตามนัด ผมในฐานะจำเลยจะร้องขอให้ศาลใช้ดุลพินิจว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ขอให้จำหน่ายคดีนี้ออกจากสารบบความ เพื่อไม่ให้เป็นคดีรกโรงรกศาลต่อไป”
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเปิดเผยด้วยว่า นายธนาธร กับครอบครัว เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ พบว่า มีปัญหาเรื่องมาตรฐานวัคซีนที่ฉีดในไทย ไม่ได้มาตรฐานสวิตเซอร์แลนด์ จึงถูกปฏิเสธเข้าประเทศ จึงออกจากไทยไปสิงคโปร์ เพื่อต่อเครื่องไม่ได้
โดยระหว่างรออยู่ที่สนามบินนั้น นายธราธร ได้โทรศัพท์หลายครั้ง และในการเดินทางครั้งนี้รายงานข่าวเปิดเผยว่า ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปพร้อมนายธนาธรมีทั้งหมด 7 คน พ่อ แม่ ลูก 4 คน และพี่เลี้ยง 1 คน กระทั่งล่าสุดครอบครัวนายธนาธร สามารถออกเดินทางไปได้แล้วเวลาประมาณ 23.00 น.
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ยังมีประเด็น “ม่อน อาชีวะ” ถูกเท ไร้เงาสามกีบเหลียวแล เหตุปราศรัยด้อยค่าพวกเดียวกัน?
โดยระบุว่า จากกรณีวานนี้ (18 ส.ค. 64) กลุ่มทะลุฟ้าได้นัดชุมนุมกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 16.00 น. มีการจัดกิจกรรมเผาหุ่นฟาง และขึ้นป้ายผ้าและยุติการชุมนุมในเวลา 19.30 น. เหตุการณ์ปกติ จากนั้นผู้ชุมนุมบางส่วนก็ได้ไปชุมนุมต่อที่แยกดินแดง และก่อความวุ่นวาย พยายามรื้อสิ่งกีดขวางที่แยกดินแดง และขว้างปาสิ่งของประทัดยักษ์ใส่ตำรวจ
จนตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาเพื่อให้ผู้ชุมนุมยุติความรุนแรง แต่ยังไม่ได้จับกุมผู้ชุมนุมที่ก่อเหตุซึ่งหน้า อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นการชุมนุมวันนี้ถือว่าเข้าข่ายความผิด ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ
อย่างไรก็ตาม จากการชุมนุมครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายจับ รวม 3 หมาย เข้าควบคุมตัว นายธนเดช ศรีสงคราม หรือ “ม่อน อาชีวะ” แกนนำกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งถูกชี้ว่า เป็นแกนนำฮาร์ดคอร์ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนนำตัวไปควบคุมไว้ที่ กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด หรือ บช.ปส. จากกรณีไปร่วมชุมนุมหลายครั้ง แล้วไม่ยอมไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน
ในขณะเดียวกัน ม่อน อาชีวะ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผมจะถูกนำตัวไป สโมสรตำรวจนะครับ กำลังเดินทางไปครับ #ขอบคุณทุกคนครับที่เป็นห่วงผม
ด้าน เจ๊จุก คลองสาม ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ถึงกรณีของ ม่อน อาชีวะว่า เมื่อวานไอ้ม่อนโดนจับ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ เพราะมันพาพวกมาเข้าชุมนุมเกือบทุกม็อบ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือทำไมพวกสามกีบไม่ออกมา #saveม่อน กัน อ่อที่ไหนได้ มันดันขึ้นไปปราศรัยเมื่อวานว่า อาชีวะสายป่วนที่ดินแดงรัฐบาลจ้างมา 555 มึxไม่รู้เหรอว่ามีคนรอเคลมศพพวกนั้นอยู่ มึงผลักแบบนี้ไม่ได้
แน่นอน, การเดินทางออกนอกประเทศของคนที่ถือว่า เป็นเสมือน “ลูกพี่ใหญ่” ของ ม็อบ 3 นิ้ว ทั้งยังเดินทางในช่วงที่ม็อบทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ย่อมถูกจับตามอง และวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความน่าจะเป็นต่างๆนานา
แถมม็อบก็ดูเหมือนถูกออกแบบให้เดินเกมรุนแรงด้วย นั่นคือ เกมยั่วยุ ปะทะ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ. ที่สามเหลี่ยมดินแดง หลังประกาศยุติการชุมนุม โดยไม่ว่าจะไปม็อบที่ไหนมา แต่สุดท้ายต้องแวะมาปะทะที่สามเหลี่ยมดินแดง แล้วก็ใช้อาวุธเข้าปะทะด้วย
แล้วที่สำคัญ เริ่มมีสัญญาณเตือนออกมาจาก กูรูหลายคนให้ระวังหลังด้วย เพราะอาจมีการหาเหยื่อความรุนแรงมาปลุกมวลชน หรือ โจมตีผู้มีอำนาจ ข้อหาสั่งฆ่าประชาชน ซึ่งคนที่ทำก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พวกเดียวกันนั่นเอง
อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้ นายปิยบุตร ได้เดินทางออกไปก่อนแล้ว โดยอยู่กับครอบครัวที่ฝรั่งเศส คราวนี้ นายธนาธร ก็เดินทางออกนอกประเทศแบบยกครอบครัว ซึ่งการไปร่วมรายการแข่งกีฬา อาจเป็นข้ออ้างก็ได้ ถ้าจะไปเที่ยวก็ดูไม่เหมาะกับช่วงที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาดทั่วโลก จะเอาครอบครัวไปเสี่ยงทำไม หรือ ถ้าเรื่องธุรกิจ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องยกกันไปทั้งครอบครัว?
หรือว่า นี่เป็นสัญญาณบอกเหตุอะไรสักอย่าง ที่คนไทยจะต้องจับตามอง และเตรียมรับมือ เกี่ยวกับความรุนแรงในไทยที่ยากคาดเดาหรือไม่ นับว่าน่าติดตามอย่างยิ่ง