ข่าวปนคน คนปนข่าว
**“ณวัฒน์ ณ หิวแสง” อาการดีขึ้น ครองเตียงมา 22 วัน รพ.ไม่ได้ไล่ แต่ขอให้ไปพักฟื้นที่บ้าน เจอความจริงแบบนี้ ดรามาเกณฑ์ Fc ถล่มหมอ จบมั้ยงานนี้
กรณี “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ซึ่งอยู่ระหว่างรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ออกไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กหลายวันต่อเนื่อง จนชาวโซเชียลฯ เชื่อว่า อาการดีขึ้นมากแล้ว ถึงได้มีเรี่ยวแรงมาด่ากราดฟาดคนนั้นคนนี้ แบบใส่อารมณ์เกรี้ยวกราดเต็มที่ และบางช่วงที่เป็นประเด็นขึ้นมาถึงกับมีน้ำตา ดรามา ด่ากล่าวหา “หมอสลิ่ม” ไล่ตัวเองออกจากโรงพยาบาลทั้งๆ ที่ยังรักษาไม่หาย พร้อมๆ กับเรียกร้อง FC ให้ไป “ถล่มหมอ” ของโรงพยาบาลที่ตัวเองรักษา โดยมี FC ณวัฒน์ จำนวนหนึ่งเข้าไปด่าหมอที่เชื่อกันว่าเป็นคนโทร.บอกเขาอย่างสาดเสียเทเสีย
พลันที่เป็นประเด็น “นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์” อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ก็ออกมาเผยว่า ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลเอกชนดังกล่าว ได้ชี้แจงข้อมูลว่า ในส่วนของ “ณวัฒน์” นั้น โรงพยาบาลเขาได้ประเมินแล้วว่า เป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่อาการพ้นวิกฤต และมีอาการดีขึ้น อยู่ในระยะพักฟื้น (Step Down) โรงพยาบาลจึงดำเนินการแจ้งให้ผู้ป่วยไปพักฟื้นที่สถานพยาบาลชั่วคราว (Hospitel) หรือให้กลับบ้านเพื่อรักษาต่อเนื่อง โดยวิธีกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ตามแนวทางการรักษาแบบ Step-down care ซึ่งจะทำได้โดยความสมัครใจของผู้ป่วย เพื่อจัดเตียงให้กับผู้ป่วยโควิด-19 รายอื่น ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้เตียงรักษาตัวในสถานพยาบาล และเมื่อผู้ป่วยเข้าพักที่ Hospitel หรือกลับไปที่พักที่บ้านแล้ว สถานพยาบาลเองก็จะมีการติดตามอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดทุกวันผ่านระบบ Video Call หรือ Teleconference มีอุปกรณ์วัดไข้และออกซิเจนส่งไปให้ มีช่องทางติดต่อกรณีฉุกเฉิน หากผู้ป่วยมีอาการทรุดลงก็จะมีการรับตัวผู้ป่วยกลับไปรักษา ณ สถานพยาบาลโดยทันที
เรียกว่า ก็เป็นไปตามขั้นตอนปกติ เมื่ออาการป่วยทางกายของ “ณวัฒน์” ดีขึ้น
พูดง่ายๆ เข้าใจตรงกัน ว่า กรณี “ณวัฒน์” ที่ได้ครองเตียงผู้ป่วยมาแล้วเป็นเวลา 22 วัน ตัวเองดีขึ้นแล้วก็ควรต้องคืนเตียง เปิดทางให้ผู้ป่วยรายอื่นๆ ได้เข้ามาใช้ ในยามวิกฤตเตียงเต็ม ก็เป็นการบริหารจัดการที่โรงพยาบาลและแพทย์เห็นควร ก็ไม่น่าไปฟาดงวงฟาดงา ชวน FC ไปอาละวาดหมอให้ชาวเน็ตเขาพากันสงสัยว่า อาการหิวแสง ตะแบงไม่เลิกรานั้น เพราะ “ป่วยจิต” หรือไม่?
ถ้าหากอาการหิวแสงด้วยอาการป่วยจิต “ณวัฒน์” ก็น่าจะไปขอคำแนะนำคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านจิตแพทย์ ที่อีกแผนก หรือโรงพยาบาลอื่นดีกว่า มั้ย?
ชาวโซเชียลฯ เตือนมาด้วยความเป็นห่วง เห็นไลฟ์สดแล้วใจคอไม่ดีกัน นึกว่ากำลังดูรายการ “หมอปลา”... ป่วยกายเมื่อรักษาให้หายได้ แต่ป่วยจิตก็ต้องรักษา ไม่ควรปล่อยไว้ด้วยเช่นกันนะตัวเอง
** “สนธิญา” ไล่เอาเรื่องนักร้อง ดารา ที่ออกมา “Call Out” ด่ารัฐบาล ไล่นายกฯ นั้น แม้ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค พปชร. แต่ก็เป็นที่ปรึกษา กมธ.ชุด “สิระ” และเด็กในทีมงาน “หัวหน้าโบ้”
กรณี “สนธิญา สวัสดี” เข้ายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้ตั้งกรรมการติดตาม ตรวจสอบ พฤติกรรม ดารา นักร้อง คนดัง ที่ออกมา “Call Out” พาดพิงบุคคลทางการเมืองและรัฐบาล ว่า มีความผิดหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดก็ขอให้ดำเนินคดีด้วย
เพราะช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ข้อความ หรือไลฟ์สด ในประเด็นที่มุ่งโจมตีรัฐบาล นายกรัฐมนตรี เรื่องความล้มเหลวในการควบคุมการแพร่ระบาด การบริหารจัดการโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็น เรื่องวัคซีน เตียงเต็ม คนป่วยเสียชีวิตโดยไร้การดูแลจากภาครัฐ ก็จะมีการแชร์ออกไป โดยเฉพาะถ้าเป็นโพสต์ของดารา คนดัง ยิ่งมีการแชร์ออกไปในวงกว้าง
บางคนแค่วิพากษ์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็น แบบทนไม่ไหวแล้ว... แต่บางคนถึงขั้นใช้ถ้อยคำหยาบคาย ด่าเสียๆ หายๆ
ยิ่ง “พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย” รอง ผบช.น. ออกมาบอกว่า จากการตรวจสอบแล้ว พบว่า มีศิลปิน นักร้อง นักแสดง ประมาณ 25 คน ที่อาจอยู่ในข่ายความผิดหมิ่นประมาท หรือความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ยิ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงต่อต้านจากกลุ่มศิลปิน ดารา ออกมาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก
พร้อมๆ กับคำถามว่า “สนธิญา สวัสดี” คือใคร เป็นคนของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่
“สนธิญา สวัสดี” จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะสังคมศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ และ ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต ม.รามคำแหง เคยเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และ เป็นคณะทำงานยุทธศาสตร์พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนใต้ (สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์) แต่หลังการเลือกตั้งก็ลาออกจากสมาชิกพรรค และรับบทเป็น “นักร้อง” ที่คอยร้องเรียนบุคคลในทางการเมือง
ตำแหน่งแห่งที่ในปัจจุบัน คือ เป็นที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร ที่มี “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.พลังประชารัฐ เป็นประธานกรรมาธิการคณะนี้อยู่
ที่ผ่านมา มีคนดังหลายคนที่ถูก “สนธิญา” ร้องเรียน อย่างเช่น กรณีตรวจสอบเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ หลังโพสต์เรื่อง นายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี ที่อ้างตัวว่ารู้จักผู้ติดตามรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่ง ที่มีหน้ากากอนามัยกว่า 200 ล้านชิ้น ชาวเน็ตแห่แชร์จำนวนมาก จนเกิดความวุ่นวายตามมา ซึ่งตนมองว่าเป็นข้อมูลเท็จ
ร้องกองปราบ ตรวจสอบ “พิมรี่พาย” หลังไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ขอโทษ “ทักษิณ ชินวัตร” หรือ “โทนี่ วู้ดซัม” ในเรื่องนำของไปบริจาค พร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการเสียภาษี ของพิมรี่พาย
ระยะหลังมานี้ “สนธิญา” ได้เข้ามาเป็นเด็กในทีมงานของ “แรมโบ้” เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี การร้องเรียน การตรวจสอบจึงเน้นไปที่ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์รับรัฐบาล กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง
ยังมีกรณี “สนธิญา” บุก สน.บางโพ แจ้งความเอาผิด “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่เข้าประชุม กมธ.พิจารณางบประมาณ 65 โดยไม่ใส่มาสก์
และล่าสุด ก็เข้าร้อง พฤติกรรม ดารา นักร้อง คนดัง ที่ออกมา “Call Out” ต่อต้านรัฐบาล ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล จนเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลฯ ก่อกระแสต่อต้านรัฐบาลในหมู่ศิลปิน ดารา นักร้อง
แม้ทางพรรคพลังประชารัฐจะออกมา “เท” สนธิญา ว่า การดำเนินการต่างๆ นั้น ไม่เกี่ยวกับพรรค เพราะเขาไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแล้ว
แต่ดูเหมือน “สนธิญา” ก็ไม่ได้เดือดร้อน หรือแสดงอาการตอบโต้แต่อย่างใด เพราะเขาถือว่า เป็น “เด็กในคาถาของหัวหน้าโบ้” มีหน้าที่ชนกับฝ่ายตรงข้ามที่มาต่อต้านรัฐบาล ใครแหลมมาก็ ปะ ฉะ ดะ กลับไป ไม่ต้องคิดมาก เมื่อปฏิบัติการเสร็จแล้วก็ทำหนังสือรายงาน “หัวหน้าโบ้” เข้าแฟ้มผลงานไป
แบบนี้ไม่รู้จะเข้าทำนองว่า ถ้ามีลูกน้องที่โง่และขยัน ให้ตัดหัวทิ้ง เพราะจะทำให้เสียงานใหญ่ นำความเดือดร้อนมาให้ ...จริงหรือไม่ ก็ลองไปพิจารณากันดู
