xs
xsm
sm
md
lg

“สิงห์คืนถิ่น” ไม่ใช่ใครอื่น “จตุพร บุรุษพัฒน์” ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายจตุพร บุรุษพัฒน์
“..นายจตุพร ไม่มีการข้ามฟาก ข้ามห้วยอะไรเลย เพียงแค่เขากลับมาบ้านเดิม แค่สิงห์คืนถิ่นเท่านั้นเอง หากจะตั้งคนโดยใช้หลักความคิด ความรู้ ประสบการณ์ นาย จตุพร บุรุษพัฒน์ น่าจะมีความพร้อมที่สุด จะเป็นประโยชน์กับกระทรวงมหาดไทยมากมาย จะมีนักบริหาร จะมีความหลากหลาย จะกลายเป็นกระทรวงที่มีคุณภาพมากที่สุด..”

ช่วงเวลานี้ข้าราชทั้ง 2 กระทรวง คือกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังจับตาการแต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งคนที่น่าจับตามากที่สุดคือ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปัจจุบันเป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บางคนถึงกับกล่าวว่า เป็นการ “ข้ามห้วย” มาอยู่อีกกระทรวง

ความจริงแล้ว นายจตุพร คนนี้ก็เป็น “ลูกหม้อ” ของกระทรวงมหาดไทยคนหนึ่ง เพราะแรกเริ่มรับราชการ ก็เริ่มต้นที่กระทรวงมหาดไทย สังกัดกรมการปกครอง ตำแหน่งปลัดอำเภอ ก้าวหน้ามาโดยตลอด ด้วยวิสัยทัศน์นักปกครองที่กว้างไกล จบโรงเรียนนายอำเภอแล้ว

แต่เมื่อมีการตั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ด้วยเป็นคนมีความรู้ มีความคิด หัวก้าวหน้า จึงถูกดึงตัวมาอยู่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)

ซึ่งบทบาทที่โดดเด่นเหล่านี้ ทำให้ประวัติการทำงานที่ดีเด่นสมัยอยู่กรมการปกครองถูกกลบไปจนหมดสิ้น

วันนี้นาย จตุพร บุรุษพัฒน์ อยู่ในตำแหน่งสูงสุดของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นปลัดกระทรวง ที่มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กระทรวงมหาดไทยเลย และนายจตุพร ก็ใช่ใครอื่นที่ไหน เป็นคนของกระทรวงมหาดไทยเต็มขั้นมาตั้งแต่เดิม แค่ “สิงห์จะกลับคืนถิ่น คืนบ้านเก่า” เท่านั้นเอง

หลักการทำงานของ “ผู้นำ” “ผู้บริหาร” หรือ “นักปกครอง” ที่ดีที่จะต้องมีคือ ต้องมีความคิดดี มีความรู้ดี มีประสบการณ์ดี

ประเทศจีนพัฒนาอย่างรวดเร็ว เพราะได้ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีหูจิ่นเทา ก็ใช้หลักการเดียวกันนี้ เพราะ “มีความรู้” จบวิศวกร “มีความคิดดี” “มีประสบการณ์”

ประเทศไทยเราก็มีนักบริหาร นักปกครองที่ดี ก็มีตัวอย่างให้เห็นก็คือ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ หมูป่าติดถ้ำ จบวิศวฯ มาก่อน ก็มาเป็นนักปกครองที่ดี ถูกใจประชาชน

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ (ปลัดตุ๋ม) มีความโดดเด่น เป็นคนหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งถ้าดูภูมิหลังแล้วน่าจะเหนือกว่าคู่แข่งคนอื่น ผ่านงานใหญ่มาแล้วถึง 2 กระทรวง ไม่โอนเอียงให้กับการเมืองฝ่ายใด ถือประโยชน์ของประชาชน ประโยชน์ของแผ่นดินเป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ

หากจะตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยโดยใช้หลักต้องมีความคิดดี มีความรู้ดี มีประสบการณ์ดีแล้ว นาย จตุพร บุรุษพัฒน์ น่าจะมีความพร้อมที่สุด

“ความคิดดี” คือ คนเราจะเป็นผู้นำได้ ต้องเป็นคนดีมีศิลธรรม มีคุณธรรมเป็นเรื่องใหญ่ ละอายต่อบาป คิดจะช่วยเหลือผู้อื่น คิดถึงแต่ประเทศชาติ ประโยชน์เป็นของประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่คิดแต่เรื่องของตัวเองหรือของใคร ทั้งหมดต้องทำเพื่อประเทศชาติ นายจตุพร(ปลัดตุ๋ม) ใช้หลักการนี้มาโดยตลอด

“ความรู้ดี” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือปรัชญา อะไรต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ต้องเป็นคนใฝ่รู้ แสวงหาความรู้ นายจตุพร จบการศึกษาสายปกครองจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งปริญญาตรีและโท ปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผ่านการศึกษาต่างประเทศ และการอบรมความรู้สถาบันใหญ่หลายสถาบัน สะท้อนภาพว่าเป็นคนใฝ่รู้ และรับราชการสังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยมาก่อน

“ประสบการณ์ดี” เรื่องนี้ต้องมาจากการทำงาน นับจากวันที่เริ่มทำงานจนถึงวันที่เป็นหลักใหญ่ขององค์กร นายจตุพร มีความพร้อมมากที่สุด ก้าวขึ้นเป็นอธิบดีหลายกรม อาธิ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ แล้วขึ้นเป็นเบอร์ 1 ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

สามารถแก้ปัญหา พัฒนางานในกระทรวงทรัพย์ฯ จนลุล่วงไปได้ด้วยดี สร้างความเจริญ ให้กับกระทรวง จากกระทรวงใหม่แทบจะไม่มีใครรู้ว่ามีบทบาทและดูแลเรื่องอะไรบ้าง จนคนไทยรู้จักกระทรวงนี้ดี สิ่งไหนที่มีปัญหาก็สามารถแก้ปัญหาได้ ทำให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีชื่อเสียง มีบทบาทเทียบเท่ากระทรวงอื่นๆดั้งเดิมของประเทศไทย เคยแก้ปัญหาใหญ่ๆ มาแล้ว ผู้บังคับบัญชา พึงพอใจมาโดยตลอด

นายจตุพร มีประสบการณ์งาน 2 กระทรวง มีความรู้ความเชี่ยวชาญทั้ง 2 กระทรวง ทำงานมามากและมีประสบการณ์สูง มหาดไทยจะทยานไปสู่งานที่ดี เป็นประโยชน์กับประชาชน เรื่องนี้เป็นเรื่องดีๆทั้งนั้น

หากวิเคราะห์กันด้วยเหตุและผล ถ้าประเทศไทยเรามีการคัดเลือกผู้นำด้วยหลัก 3 ประการคือ
“ความคิดต้องดี” “ความรู้ต้องดี” “ประสบการณ์ต้องดี” แล้วผลประโยชน์จะตกกับประชาชน กับประเทศชาติ มากที่สุด

ไม่ว่าใครที่จะเป็นใหญ่เป็นโต หรือเป็นรัฐมนตรี หากประเทศไทยเรานำหลักนี้มาคิดมาทำ ก็จะเป็นประโยชน์มาก

นายจตุพร ไม่มีการข้ามฟาก ข้ามห้วยอะไรเลย เพียงแค่เขากลับมาบ้านเดิม แค่ “สิงห์คืนถิ่น” เท่านั้นเอง

จะเป็นประโยชน์กับกระทรวงมหาดไทยมากมาย “ภูเขาจะเขียว น้ำจะใส ประชาชนจะมีความสุข คือวิสัยทัศน์ของมหาดไทยในยุคโลกปัจจุบันหรือโลกหนึ่งเดียว” จะมีนักบริหาร จะมีความหลากหลาย จะกลายเป็นกระทรวงที่มีคุณภาพมากที่สุดแห่งยุค!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น