กลุ่มฟิตเนส-เทรนเนอร์ บุกทำเนียบฯ ร้อง “นายกฯ” ยื่น 3 ข้อ ปลดล็อกคำสั่งกลับมาเปิดได้ โอดแบกรับภาระไม่ไหว วอนรัฐเร่งเยียวยาผลกระทบหลังถูกปิดกว่า 200 วัน วอนให้มีที่ทำมาหากิน
วันนี้ (2 ก.ค.) เวลา 12.30 น.ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สตช.) นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นํา นายธันย์ปวัฒน์ เตชภูวดลวิทิต และกลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจสถานออกกำลังกายและฟิตเนส ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เพื่อขอให้บรรเทาความเดือดร้อนจากคำสั่งปิดสถานที่ออกกำลังกายและฟิตเนส ในเขต กทม.และปริมณฑล พร้อมเข้าหารือกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขา สมช. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศบค.
โดย นายธันย์ปวัฒน์ กล่าวว่า พล.อ.ณัฐพล ได้รับปากจะพิจารณาแนวทางตามข้อเรียกร้อง พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมา คำสั่งปิดดังกล่าว กระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบอาชีพธุรกิจสถานออกกำลังกาย รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในวงการทั้งระบบ และบางส่วนเป็นกลุ่มอิสระที่รับค้าจ้างรายวัน นานกว่า 200 วัน จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาช่วยเหลือใน 3 ส่วน คือ
1. ขอให้มีคำสั่งปลดล็อกให้สามารถกลับมาเปิดบริการได้ ภายในวันที่ 1 ส.ค. 2564 ภายใต้มาตรการป้องกันโรคตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข เช่น การเว้นระยะ การจำกัดจำนวนคน และความสะอาด 2. ขอให้หามาตรการช่วยเหลือเยียวยา ชดเชยรายได้ที่ไม่เคยได้รับ และ 3. ขอความชัดเจนเรื่องนโยบายการพักชำระหนี้ การกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อรักษาสภาพคล่องธุรกิจและการจ้างพนักงาน จากการปิดธุรกิจชั่วคราว รวมถึงส่วนลดหรือเลื่อนชำระค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา ตลอดจนลดหย่อนภาษีรายได้ส่วนบุคคลของผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับสถานออกกำลังกายและฟิตเนส
นายธันย์ปวัฒน์ กล่าวต่อว่า ยังขอให้ภาครัฐ ทบทวนแนวทาง อย่าใช้วิธีการปิดแบบเหมารวม เพราะเห็นว่าไม่ได้ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย แต่ยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง โดยให้ปิดเฉพาะจุดที่เกิดปัญหา จะ 14 วัน จะ 21 วันก็เป็นเรื่องของกระทรวงสาธารณสุขพิจารณา ส่วนจุดที่ป้องกันได้ก็สามารถเปิดต่อไปได้ เพราะเราเห็นได้ว่าตั้งแต่การระบาดระลอก 1 ถึงปัจจุบัน จะมีคนที่ติดเชื้อโควิดในสถานออกกำลังกายน้อย ถือเป็นจุดหลักที่ทำให้สุขภาพ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายให้ดีขึ้น แต่กลับปิดพวกโดนปิดตั้งแต่แรก แต่พิจารณาเปิดสุดท้าย ฉะนั้น ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระทุกอย่าง จึงกราบเรียนผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องช่วยเมตตาพวกตนด้วย
“ขอร้องให้พวกผมได้มีที่ยืนทำมาหากิน เพราะไม่เช่นนั้นพวกผมก็แย่ อีก 6 เดือนกว่า วัคซีนจะมาครบ 50 ล้านโดส แล้วพวกเราจะอยู่กันได้อย่างไร” นายธันย์ปวัฒน์ กล่าว
