xs
xsm
sm
md
lg

ศบค.ยันเยียวยาแรงงาน-เจ้าของ ขอสมาคมช่วยซื้อ รับออกข้อกำหนดช้า ย้ำไม่เคอร์ฟิว-ล็อกดาวน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. (แฟ้มภาพ)
โฆษก ศบค. เผย เยียวยาแรงงาน-ผู้ประกอบการ ขอความร่วมมือสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้าง-ภัตตาคารอาหาร ซื้ออาหารดูแลแรงงาน เข้าใจอารมณ์คนไทยยากลำบาก ขอมีสติ น้อมรับออกข้อกำหนดล่าช้า ทำเดือดร้อน ขอเข้าใจดูข้อ กม.ละเอียด ยันไม่ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว

วันนี้ (28 มิ.ย.) เวลา 12.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงว่า ผอ.ศบค.เรียกประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) หรือ ศบค. โดยเมื่อมีการออกข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 25) เราก็นำผลกระทบดังกล่าวมาเยียวยา คือ มีการพูดคุยกันว่า มีผู้ประกอบการที่ต้องปิดกิจการใน 6 จังหวัดประมาณ 697,315 คน โดยในระบบประกันสังคมก็จะได้รับการเยียวยา 50 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ เช่น แรงงานที่ให้อยู่ในแคมป์ เราก็จะมีการเยียวยาให้เงิน 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าแรงสูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท และหากเป็นคนไทยอยู่ในระบบประกันสังคมรัฐบาลจะเพิ่มให้อีก 2,000 บาท ซึ่งทราบว่ากระทรวงแรงงานจะจ่ายเงินให้เป็นช่วงๆ แต่หากไม่อยู่ในระบบประกันสังคมจะต้องไปขึ้นทะเบียนภายในระยะเวลา 1 เดือนก็จะได้รับเงินเยียวยา ส่วนกรณีร้านอาหารเราไม่ได้ให้ปิด แต่ให้สามารถซื้อกับไปรับประทานที่บ้านได้ โดยมีการพูดคุยว่าคนที่อยู่ในแคมป์คนงาน ก็ยังต้องการอาหาร จึงขอให้สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้าง และสมาคมภัตตาคารอาหาร ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการใช้บริการของภัตตาคาร ร้านอาหารและร้านอาหารย่อย จาก แม่ค้าแผงลอย หาบเร่ จัดอาหารให้กับแรงงานก่อสร้างที่อยู่ในแคมป์คนงาน

เมื่อถามว่า ข้อกำหนดดังกล่าวมีมาตรการที่คุมเข้มในกรุงเทพฯและปริมณฑล หมายถึงการก่อสร้างขนาดใหญ่ หรือหมายถึงการรีโนเวต ต่อเติม ตกแต่ง ตรมห้างสรรพสินค้า อาคารบ้านเรือนต่างๆ จะต้องระงับการก่อสร้างด้วยหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตามเจตนาของกฎหมายคงจะไม่สามารถแจกแจงได้ว่าคนกลุ่มไหน เป็นกลุ่มไหน แต่ถ้าเป็นแรงงานก็จะมีความเสี่ยง เพราะทำงานที่หนึ่งไปพักที่หนึ่ง และมีการเคลื่อนย้ายก็อาจจะเป็นแหล่งการแพร่กระจายโรค ทางคณะกรรมการที่ปรึกษา ศบค. ขอเน้นย้ำว่า กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมดที่ไปมาหาสู่กัน จึงอาจจะสื่อความหมายได้อาจจะเป็นทุกส่วนทั้งแรงงานสัญชาติไทยและแรงงานต่างด้าว อาจจะต้องหยุดพักกันอย่างน้อย 30 วันตามเจตนาของข้อกำหนด

เมื่อถามว่า 2-3 วัน ที่ผ่านมา ตัวเลขการฉีดวัคซีนมีจำนวนน้อย ขอความชัดเจนว่าการฉีดวัคซีนเป็นไปตามเป้าหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วัคซีนจะไม่ได้ทยอยมาทีเดียว ล็อตใหญ่มีการกระจายการฉีดออกไปตามจำนวน ซึ่งล็อต ล่าสุด ที่เพิ่งมาเมื่อวันที่ 25-26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เชื่อว่า ภายในต้นสัปดาห์นี้คนที่มีนัดฉีดอยู่ก็จะได้รับการนัดหมายให้ไปฉีดวัคซีนตามนัด ย้ำว่า เราทุกคนกำลังหาหนทางทุกหนทางเพื่อช่วยทุกคนอยู่
 
“ผมเข้าใจดีว่าอารมณ์ของสังคมในขณะนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนลำบากใจทั้งฝ่ายบริหาร ผมในฐานะเป็นคนที่ต้องมาสื่อสารเข้าใจความรู้สึกของประชาชนทุกคนดี รวมถึงผู้ประกอบการและทุกคนในประเทศไทยที่กำลังอยู่ในสภาวะยากลำบาก ตัวเลขเพิ่มขึ้นทุกวัน มีทั้งคนป่วยและคนเสียชีวิต ตนมารายงานตรงนี้ยอมรับว่าต้องทำความรู้สึกในตัวเอง และจัดการอารมณ์ของตัวเองพอสมควร คงเช่นเดียวกับทุกคนที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ ขอให้ทุกคนมีสติเข้าใจสถานการณ์สิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่มีใครต้องการให้มันเกิดขึ้นและเราต้องผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกันด้วยสติและความร่วมมือร่วมใจกัน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษก ศบค. ยังแถลงว่า ภายหลังมีการออกข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าประกาศในช่วงดึกของคืนวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงต้องขอชี้แจงว่าสาเหตุเนื่องจากจะต้องดูข้อกฎหมายอย่างละเอียด เพื่อลดผลกระทบและพยายามจะออกให้เร็วที่สุด ขอน้อมรับในทุกเสียง พวกเราทำงานอย่างเต็มที่และดีที่สุด ยืนยันว่า ไม่ใช่การล็อกดาวกรุงเทพฯแต่เราล็อกเฉพาะแคมป์คนงานก่อสร้าง ทั้งการก่อสร้างขนาดใหญ่ ขนาดเล็กทั้งในอาคารนอกอาคาร รวมถึงการก่อสร้างรถไฟฟ้าด้วย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า คำสั่งที่ออกมาแต่มาตรการที่ออกมาจะต้องใช้ทางกฎหมายฉะนั้นความรอบคอบของการเขียนกฎหมาย เพื่อที่จะได้ให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง ก็ต้องขอน้อมรับในทุกเสียงที่บอกว่าทำไมประกาศเพิ่งจะออกและมีแรงงานต่างด้าวเดินทางออกนอกพื้นที่ไปมากมายแล้ว แต่โดยเจตนาของกฎหมายคืออยากให้อยู่ในพื้นที่ เราอยู่ในเมืองไทยมีอิสระเสรีพอสมควร แต่อย่างไรตอนนี้มีข้อกำหนดฉบับดังกล่าวออกมาก็ขอความร่วมมือจากทุกท่านด้วย ข้อกฎหมายก็คือข้อกฎหมาย เราไม่อยากให้ใครรับโทษ เจตนาคือออกมาเป็นกติกา เพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันในสังคมซึ่งมาตรการที่สำคัญที่สุดต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน

“ผมรับทราบว่า กระทบกับหลายคน แต่ตัวเลขที่เกิดขึ้น ก็เป็นเรื่องที่จะต้องหาทางช่วยกันในการลดการการระบาดในประเทศ ส่วนการเดินทางอาจจะไม่มีความสะดวกของประชาชนบ้าง เราไม่อยากจะปิดล็อกดาวน์ทั้งประเทศเหมือนอย่างที่เคยมีมาหรือการประกาศเคอร์ฟิว เพราะทำให้การดำเนินชีวิตของเรายุ่งยากมาก การที่จุดตรวจอาจจะมีความไม่สะดวกไม่สบาย แต่เพื่อเตือนให้ลดการเดินทางให้มากที่สุด แต่ยังสามารถเดินทางไปฉีดวัคซีนได้ แม้จะมีการรวมกลุ่มกันในจำนวนมาก แต่เพื่อไปในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมป้องกันโรคสามารถทำได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น