นายกฯ ประชุม ศบศ.ทุ่ม 7.5 พันล้าน เยียวยา 6 จังหวัด ถูกกระทบหลังประกาศฉบับที่ 25 พร้อมเยียวยานายจ้าง-ลูกจ้าง-ร้านอาหาร รัฐต้องใช้เงินมหาศาล เข้าใจมีคนไม่พอใจ แต่รัฐต้องบริหารเป็นระบบ ไม่งั้นเดือดร้อนยุ่งเหยิง
วันนี้ (28 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.20 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) โดยมี นายสุพัฒน์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยืนอยู่ข้างๆ ระหว่างที่นายกฯ แถลงข่าว
โดยนายกฯ กล่าวว่า ขอชี้แจงไปถึงประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศคำสั่งฉบับที่ 25 ซึ่งในการประชุมวันนี้ ได้มีการหารือทั้งภาครัฐ กระทรวงที่เกี่ยวข้อง และโรงเรียนแพทย์ เพื่อให้สอดคล้องถึงการดำเนินการ ตนขอยืนยันว่ารัฐบาล คณะรัฐมนตรี และส่วนราชการรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ทุกภาคส่วนเพื่อนำมาพิจารณา ทุกครั้งไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามรัฐบาลฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนวันนี้ต้องทำความเข้าใจกันว่าสิ่งที่เดือดร้อนกันวันนี้ คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ซึ่งมีผลกระทบใน 6 จังหวัดประกอบด้วยกรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี และปทุมธานี ที่ได้การประกาศออกไป จึงจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขปัญหาตรงนี้ รวมถึงระยะต่อไปจะมีการดำเนินการเช่นกัน เพื่อให้เกิดความทั่วถึงในหลายกิจกรรม ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่เราเคยทำมาแล้ว และอาจจะมีมาตรการใหม่ๆ ออกมาอีก อย่างวันนี้เราทำโครงการคนละครึ่ง โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ก็จะออกไปตามกำหนดการเดิม ซึ่งเป็นมาตรการการเยียวยา
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราจะเน้นในเรื่องของการลดผลกระทบในระยะเวลา 1 เดือน จากการที่ได้มีการประกาศฉบับที่ 25 ใน 6 จังหวัดก่อน โดยรัฐบาลได้เตรียมงบประมาณส่วนของรัฐบาล ซึ่งเป็นเงินจากเงินกู้ และเงินจากกองทุนประกันสังคมรวมแล้วจำนวน 7.5 พันล้านบาท ระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้ได้ใน 6 จังหวัด 3 หมวด ประกอบด้วย เรื่องของการก่อสร้าง ที่พักแรม บริการด้านอาหาร สถานบันเทิงและนันทนาการ ซึ่งมีผลกระทบจำนวนมากพอสมควร วันนี้รัฐบาลมีมติจะจ่ายเงินเพิ่มเติมให้กับลูกจ้างในระบบประกันสังคมตัวเลขคร่าวๆ ประมาณ 2,000 บาทต่อคน และนายจ้างในระบบประกันสังคมตามจำนวนลูกจ้าง 3,000 บาทต่อคนไม่เกิน 200 คน สรุปว่ารัฐบาลจะดูแลทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบในระยะเวลา 1 เดือนที่ได้ประกาศปิดไปแล้ว และเหตุผลที่เราต้องปิดแคมป์คนงาน เพราะมีแรงงานติดเชื้อโควิดและแพร่ระบาดเป็นจำนวนมาก ที่ส่งผลกระทบกับจุดอื่นด้วย ซึ่งการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบแบ่งเป็นระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ซึ่งก็จะมีพื้นที่จังหวัดอื่นตามมา แต่วันนี้ขอในส่วน 6 จังหวัดก่อน
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนปัญหาที่มีแรงงานทยอยกลับบ้าน เรื่องนี้ต้องดูข้อมูลในรายละเอียดที่ผ่านมา ตนห่วงใยอยู่แล้ว จะเห็นได้ว่าเช้าวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้ทหาร ตำรวจ และพลเรือนลงไปปฎิบัติหน้าที่ทันทีเพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายกลับบ้าน เพราะวิตกว่าจะไปแพร่เชื้อในที่อื่น ทหารหลายคนได้รับความเสี่ยงสูง สำหรับวันนี้ตนเชื่อว่าไม่มีใครอยากกลับบ้าน เพราะกลับไปก็จะต้องถูกพื้นที่ควบคุมให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดและไม่มีงาน แต่วันนี้อยู่ในคลัสเตอร์ที่เราควบคุมได้ มีการจ่ายชดเชยในส่วนของกระทรวงแรงงานอยู่แล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าแรง อาหารการกินก็มีคนมาสนับสนุนดูแล
“สิ่งที่ได้รับผลกระทบและผมเป็นห่วงในวันนี้ก็คือร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารรายย่อยที่ปกติคนค่อนข้างระมัดระวังเรื่องโควิดระบาดอยู่แล้ว ไม่ค่อยออกนอกบ้านจึงได้ขอความร่วมมือไปยังสมาคมก่อสร้างกับผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ เพื่อประกอบอาหารและจัดส่งไปยังสถานประกอบการและแคมป์คนงานต่างๆ เพื่อที่จะได้มีรายได้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เรื่องนี้ทางกรุงเทพฯ รับเรื่องไปแล้ว แน่นอนว่าย่อมมีคนไม่สบายใจหรือยังไม่พอใจแต่ก็ต้องเข้าใจว่า รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องบริหารงานให้เป็นระบบไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหา พันกันยุ่งเหยิงในอนาคต รัฐบาลต้องดำเนินการให้รอบคอบรัดกุม” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกัน โดยจะนำข้อสรุปทั้งหมดนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ นอกจากดูแลลูกจ้างแล้ว จะต้องดูแลนายจ้างด้วย ส่วนนายจ้างที่รายได้ขาดหายไป ก็จะมีการไปชดเชยตรงอื่นตามจำนวนลูกจ้างที่มีอยู่ ซึ่งมีรายละเอียดอีกมากพอสมควร โดยรัฐจะพิจารณารายหัวให้กับลูกจ้าง ซึ่งผู้ประกอบการจะได้ไปด้วย แต่ต้องไม่เกิน 200 คน ก็ต้องยอมรับว่าใช้เงินมหาศาล ซึ่งในที่ประชุมคิดอย่างละเอียดรอบคอบกว่า 3 ชั่วโมง เราต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจบ้าง