xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ยันงบสาธารณสุขพอซื้อวัคซีนได้ ปัดจัดงบเพื่อพวกพ้อง ขอฝ่ายค้านคิดถึง ปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ ขอมั่นใจงบปี 65 เพียงพอด้านสาธารณสุขจัดซื้อวัคซีนได้แน่นอน ยันจัดทำงบเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อพวกพ้อง ขอฝ่ายค้านคิดถึงประชาชน

วันนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.40 น. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า วันนี้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ซึ่งได้พูดไปแล้วขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลได้เตรียมงบประมาณไว้เพียงพออย่างแน่นอน โดยเฉพาะในส่วนด้านสาธารณสุข ขอร้องว่าอย่าไปมองเพียงตัวเลขที่เป็นงบฯประจำ แต่เรามีงบเงินกู้และเงินต่างๆ ในด้านสาธารณสุขที่เพียงพอแน่นอนในการจัดหาวัคซีน เรื่องของงบด้านสาธารณสุขอย่าไปกังวล ถึงแม้งบกระทรวงสาธารณสุขจะลดลง ก็เป็นการลดในส่วนของกระทรวงเขา แต่ยังมีงบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และงบกองทุน รวมกันมากกว่างบกระทรวงกลาโหมแน่นอนและทั้งหมดก็เป็นงบประมาณของประชาชน

“วันนี้รัฐบาลทำงบประมาณไม่ได้ทำเพื่อพวกพ้อง แต่ทำเพื่อประชาชน ทำให้ทุกกระทรวงมีงบประมาณเพื่อไปดำเนินการ ซึ่งมีทั้งในงบส่วนของบุคลากร งบลงทุน งบพันธกิจ ภารกิจต่างๆ ซึ่งไม่มีงบฯไหนที่ไม่ถูกปรับลดหรอก แต่เนื่องจากรายได้ต่างๆ ลดลง ในเรื่องของภาษีรายได้ ไม่ใช่เพราใครบกพร่อง ปัญหาอยู่ที่ว่าเราต้องดูแลประชาชนที่ให้มีการลดภาษีลงไปเยอะมาก ทั้งค่าน้ำค่าไฟ รายได้ของรัฐจึงต้องลดลงบ้างเป็นธรรมดา ขอร้องให้มองให้เป็นเหตุเป็นผลฟังใครเขาพูดก็ขอให้คิดตามไปด้วยกันจะได้มีภูมิคุ้มกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความไม่เข้าใจแล้วไปกันใหญ่” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 65 ที่ฝ่ายค้านขู่จะคว่ำวาระแรก นายกฯกล่าวว่า “ก็เชิญเถอะครับ ก็เป็นธรรมดาอยู่แล้วแหละ เขาคงไม่โหวตให้ผมหรอก แต่ข้อสำคัญคิดถึงประชาชนกันบ้างหรือเปล่าว่าเขารออะไรอยู่ ปีก่อนปี 63 ก็ช้าไปอยู่หลายเดือนเหมือนกัน มีปัญหาเรื่องการเบิกจ่าย และทำให้งบฯในช่วงนั้นไม่มี เเมื่อไม่มีงบหน่วยงานก็ทำอะไรไม่ได้ เรื่องนี้รัฐบาลคิดทุกอย่าง ถ้าไปมองเพียงตัวเลขอย่างเดียวก็จะเห็นเพียงว่าส่วนนี้มากขึ้นส่วนนี้ลดลง หรือทำไมไม่ให้กับโครงการนี้เลย ตนคิดว่าถ้าคิดแบบนี้มันไม่น่าได้ ทุกหน่วยงานต่างมีความสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงของโควิดมีความสำคัญมากที่สุดถถ้างบตรงนี้ไม่พอก็มีงบอื่นเข้ามาดูแล รัฐบาลไม่ทิ้งประชาชนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการฟังอภิปรายในสภาเพื่อฟังแล้วก็ต้องย้อนกลับไปดูว่าสิ่งที่ผ่านมาพูดกันว่าอะไรบ้าง ฝ่ายรัฐชี้แจงอะไรไปบ้าง แล้วมันใช่ตามนั้นหรือไม่ อย่าลืมว่างบฯมีหลายส่วนด้วยกัน งบฯส่วนใหญ่เป็นงบฯของบุคลากรทั้งสิ้น ในส่วนของกลาโหมบุคลากรก็มีมาก ซึ่งงบก็จะไปอยู่ตรงนั้น ซึ่งเราก็มีการลดยอดกำลังพลอยู่แล้ว การจัดซื้อสิ่งต่างๆ ก็ทำเท่าที่จำเป็น เท่าที่มีพันธสัญญาที่ได้มีการเจรจากันไปแล้ว สิ่งไหนเลื่อนได้เราก็เลื่อน อย่างที่ผ่านมาก็เจรจาขอเลื่อน 2 ครั้งแล้ว ส่วนจะได้หรือไม่ได้อยู่ในชั้นกรรมาธิการ

นายกฯกล่าวว่า สิ่งสำคัญเราต้องให้ความสำคัญกับทุกกระทรวง เพราะทุกกระทรวงก็ทำเพื่อประชาชนทั้งสิ้นในทุกมิติ มั่นคง เศรษฐกิจ สังคม เพียงแต่จะได้มากหรือน้อยก็จะทยอยทำไปจนกว่ารัฐบาลจะมีรายได้สูงขึ้น รัฐบาลก็มีมิติในการสร้างรายได้ของรัฐ ดังนั้นการฟังในสภาต้องนำมาวิเคราะห์ให้ดี ถ้าฟังแยกอันใดอันหนึ่งอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นแหละ งบกระทรวงสาธารณสุขมีตั้งกี่งบ และถ้าขาดเหลืออะไรรัฐบาลก็พร้อมหาให้อยู่แล้ว ให้ความสำคัญทุกอย่าง ไม่ใช่จะมาบอกว่าอะไรก็ไม่ได้ ประเทศก็คงเดินหน้าไม่ได้ สำคัญที่สุดวันนี้คือภาคธุรกิจซึ่งมีหลายประเภท รัฐบาลต้องดูแลทั้งหมด ดังนั้น เมื่อเรามีงบเท่านี้เราก็จะดูแลให้มากที่สุดเราก็จะดูแลให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

นายกฯกล่าวว่า วันนี้ตัวเลขการลงทุนมากกว่ามากกว่าด้วยซ้ำไปเพียงแต่เพียงแต่ปีนี้อาจจะลดลงไปนิดหน่อยเหลือ 20% เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้มันจำเป็นต้องลดแต่ก็ยังสามารถลงทุนได้ รัฐวิสาหกิจก็เข้าไปช่วยเยอะ ทั้งในไตรมาสแรกและไตรมาสที่ 2 แต่ถ้าจะเอาดีทุกอย่างคงลำบากในสถานการณ์วันนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น