ข่าวปนคน คนปนข่าว
**บทเรียน “ไอ้ห้อย-ไอ้โหน” หิวแสง พีกได้อีก เมื่อ “พิมรี่พาย” คดีพลิก ขอโทษ “ลุงโทนี่” ฟาด “หมอวรงค์” เลียเก่ง! พลิกลิ้นกลับไปกลับมา
เรียกว่าสร้างกระแสเป็นปรากฏการณ์ “พิมรี่พาย” แม่ค้าออนไลน์ขายทุกอย่าง ยูทูปเปอร์ชื่อดัง ได้อย่างต่อเนื่อง วันก่อนฟาดกลับ “ทักษิณ ชินวัตร” หรือ “โทนี่” ในคลับเฮาส์ ที่เอาชื่อตัวเองไปเหน็บแหนมคนอื่นเพื่อผลทางการเมิอง โดยเรียกร้อง โทนี่ “อย่าโหน” เพราะจะถูกอีกฝั่งด่า
จากไลฟ์สดเผ็ดร้อนของแม่ค้าออนไลน์คนดัง ทำให้บรรดา “คนรักทักษิณ” และ ลิ่วล้อ “โทนี่” ต่างพากันดาหน้าออกมาถล่ม “พิมรี่พาย” กันตลอดทั้งวัน
อย่างที่เห็นๆ กันในโซเชียลฯ “คำผกา” น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือ “แขก” นักเขียน และพิธีกรรายการวอยซ์ ทีวี กระบอกเสียงของตระกูลชินวัตร ถึงกับเปิดเครื่องด่า เรียกเสียงฮือฮาจากฝั่งแม้ว .. “สันดานสลิ่มไง ก็กลัวจะถูกแปดเปื้อนจากทักษิณ กลัวจะถูกแปดเปื้อนจากโทนี่ กูก็ว่าแล้ว กูดูคนไม่ผิดว่ากูด่าอีพิมรี่พาย มาตั้งแต่ต้น
“หมวดเจี๊ยบ แวร์อาร์ยู” ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่หายหน้าไปจากสื่อก็ยังอุตส่าห์สบช่องกลับมาโผล่ทวงแค้นให้ทักษิณ หาว่าแม่ค้าออนไลน์รับงาน เพราะกลัวถูกอำนาจมืดตรวจสอบภาษีขายของ
มีแม้กระทั่ง “การุณ โหสกุล” ก็ไม่พลาดขอส่วนแบ่งซีนนี้ ขอแสงด้วยคน แต่มาแปลกกว่าใครที่ ลากเอา “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” มาร่วมรับผิดชอบกับ “พิมรี่พาย” โทษฐานเปลี่ยนไปไม่เชียร์ “โทนี่” เหมือนเช่นเคยทำในอดีต
ข้างฝั่งที่ติดตามกระแสขอห้อยโหน “พิมรี่พาย” เพื่อกระทืบซ้ำโทนี่ ก็มี โดยเฉพาะ “หมอวรงค์” ที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามทักษิณ และตระกูลชินวัตร ออกมาชื่นชม แม่ค้าออนไลน์ ที่แสดงความกล้าหาญ ด่าตอบทักษิณ พร้อมกับสำทับบลั๊ปแหลกว่า เจอแบบนี้คงหยุดจ้อเสียที ใกล้หมดยุคของทักษิณเข้าไปทุกที
ทีนี้เรื่องดูเหมือนจะจบลงแบบ ไอ้ห้อย ไอ้โหน แบ่งๆ “แสง” กันไป ตามแต่กองเชียร์จะเข้ามาเย้วๆ ครึกคริ้นกันในโลกออนไลน์ แต่ “พิมรี่พาย” ก็ออกมาไลฟ์สดอีกครั้ง แบบชนิดที่ขึ้นหน้าจอกันว่า “คดีพลิกหวะ” กลายเป็นดรามาโหมกระพือขึ้นมาอีก
โดย “พิมรี่พาย” ไลฟ์สด ฝากถึงคน 3 คน เริ่มจาก กราบขอโทษ “ลุงโทนี่” ทักษิณ ชินวัตร ที่หากพูดจาพาดพิงทักษิณด้วยถ้อยคำที่ขาดสติ ขอโทษที่พูดจาไม่น่ารัก ปากไว สัญญาว่าจะคิดให้เยอะกว่านี้ จะพูดจาไตร่ตรองให้มากกว่านี้ และสัญญาว่าจะเป็นเด็กที่น่ารักกับผู้ใหญ่ที่ดี
ขณะที่ฝากถึง “แขก คำผกา” สั้นๆ ว่า ชอบและติดตามมาตลอด ดูทุกคลิป แต่ก็ทำอะไรให้เปลี่ยนแปลงอย่างที่พูดไม่ได้ซะที ถ้ามีคนแบบคำผกา สัก 10 คน ก็คงไม่เหงาหูดี
ส่วนที่พีกในพีก เห็นจะเป็นการฝากถึง “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่ “หิวแสง” ออกมาชมว่าเธอกล้าหาญ “พิมรี่พาย” ก็ขอใช้ความกล้าหาญ ให้ดูโดยตั้งคำถามเป็น หมอจริงหรือเปล่า เรียนมาเป็นหมอ หรือเรียนมาเป็นหมา เพราะเลียเก่งมาก
พร้อมกับย้อนว่า ถ้าชมเธอว่ากล้าหาญอย่างที่ปากพูดจริง ทำไมตอนที่ทำโซลาร์เซลล์ ขุดบ่อบาดาล ติดไฟคลองเตย ทำเตียงสนาม ทำไมไม่ชมเธอว่ากล้าหาญบ้าง จำได้ไหม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ “หมอวรงค์” ยังอุตส่าห์แบกสังขารวัยชรา จากตัวเมืองเชียงใหม่ 300 กม. ขึ้นไปบนดอยอมก๋อย ด้วยความบุกบั่น เจตนาเพื่อจับผิดการทำบุญของพิมรี่พาย แล้วก็เหน็บแนม แดกดัน ยุยงปลุกปั่นให้คนเข้าใจตัวเธอผิด วันนี้ไม่เขินเหรอที่มาชม ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ
แม่ค้าออนไลน์คนดัง ตบท้ายด้วยว่า งงกับความแก่และไร้สาระของ “หมอวรงค์” มาก ถ้า ส.ส.หมอสอบตก ยืนคู่กับ “หมอปลา” จะขอไหว้หมอปลา แทน
จบแบบนี้ก็ต้องแยกย้ายกันไปบ้านใครบ้านมันแล้วละ และเรื่องนี้ ก็สอนให้รู้ว่า หากจะเป็น “ไอ้ห้อย ไอ้โหน” หิวแสง โหน “พิมรี่พาย” ทั้ง “โทนี่” และ “หมอวรงค์” ก็คงคิดกันหนักหน่อย
“พิมรี่พาย” แม่ค้าออนไลน์ที่ขายทุกอย่าง คนนี้ไม่ธรรมดา !
** เปิดบัญชี 3 อดีตรัฐมนตรี กปปส. “ณัฏฐพล” รวยสุดเกือบ 2 พันล้าน ขณะที่ ส.ส.ธรรมดาๆ อย่าง “เทพไท” รวยเฉียดพันล้าน...เขาบอกว่าไม่ใช่เล่นการเมืองแล้วรวย แต่มีเมียรวย !!
ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สินของ 3 อดีตรัฐมนตรี “สาย กปปส.” ที่พ้นตำแหน่งจากกรณีที่ศาลพิพากษาสั่งจำคุก อันเนื่องมาจากการชุมนุม กปปส. ร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้ง
“พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 203 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากในบัญชีธนาคาร และที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง
“ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” อดีต รมว.ศึกษาธิการ และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 1,980 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากในบัญชีธนาคารและเงินลงทุนในสถาบันการเงิน รวมถึงที่ดินในกรุงเทพฯ หลายแปลง ทรัพย์สินของภรรยาที่ส่วนใหญ่ เป็นเครื่องประดับ เครื่องเพชร กระเป๋าแบรนด์เนม
“ถาวร เสนเนียม” อดีต รมช.คมนาคม และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 127 ล้านบาท เป็นเงินฝากในบัญชีธนาคาร และที่ดินที่ จ.สงขลา และ นครศรีธรรมราช
ป.ป.ช.ยังได้ประกาศบัญชีทรัพย์สินของ “เทพไท เสนพงศ์” อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่พ้นตำแหน่ง จากกรณีศาลตัดสินจำคุก ในคดีทุจริตเลือกตั้งนายกอบจ.นครศรีธรรมราชด้วย โดย “เทพไท” และคู่สมรส มีทรัพย์สินถึง 927 ล้านบาท
เสียงฮือฮา และวิพากษ์วิจารณ์ในทำนองว่า เล่นการเมืองแล้วรวย จึงตกอยู่กับ “ณัฏฐพล” ที่อู้ฟู่เกือบ 2 พันล้าน และ “เทพไท” ที่รวยเฉียดพันล้าน !!
ในรายของ “ณัฏฐพล” และคู่สมรส คือ “ทยา ทีปสุวรรณ” นั้น มีพื้นฐานทางธุรกิจมาก่อนเล่นการเมือง โดย “ณัฏฐพล” มีมาดนักธุจกิจเต็มตัว เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท อุตสาหกรรมพรมไทย จำกัด (มหาชน), ผู้บริหารกิจการกระเบื้องคัมพานา พรมไทปิง และ พรม Royal Thai, ผู้จัดการทั่วไป บริษัท รอยัลไทย จำกัด สาขาดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ...เรียกได้ว่าเป็นขาใหญ่ขายพรมมาก่อน
ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งแรกปี 50 สังกัดพรรค ปชป. แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาได้รับตำแหน่ง ผู้อำนวยการพรรค ปชป. ชนะการเลือกตั้งซ่อมปี 52 และเป็น ส.ส.ปี 54 ... กระทั่งมีวิกฤตการเมืองปี 56-57 ก็ลาออกจากพรรค ปชป.เพื่อร่วมเป็นแกนนำกปปส. ขับไล่รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จนเมื่อปี 61 ได้เป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเป็น รมว.ศึกษาธิการ
ส่วน “ทยา ทีปสุวรรณ” ทายาทคนสุดท้อง และบุตรสาวคนเดียวของมหาเศรษฐี “ตระกูลศรีวิกรม์” คือ นายเฉลิมพันธ์ และคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ ที่ทำธุรกิจด้านการศึกษาเจ้าของโรงเรียนศรีวิกรม์ ซึ่งปัจจุบันขยับขยายเป็นโรงเรียนนานาชาติ ยังมีธุรกิจโรงแรม ภายใต้ชื่อบริษัท เพรสสิเด้นท์ โฮเต็ลแอนด์ทาวเวอร์ จำกัด และยังเป็นเจ้าของที่ดินหลายแปลงในย่านสี่แยกราชประสงค์ และ ถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นทำเลทอง ราคาแพงลิบ
“ทยา” เคยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. และในช่วงการชุมนุมของ กปปส. นั้นถือว่าเธอเป็นคนสำคัญระดับ “แม่ยก กปปส.”
เรียกได้ว่า “ณัฏฐพล” นอกจากมีพื้นฐานทางด้านธุรกิจแล้ว ยังมี “เมียรวย” จึงเป็นที่มาของทรัพย์สินพันล้าน
สำหรับ “เทพไท” ไม่ได้เกิดในตระกูลร่ำรวย จบปริญญาตรี นิติศาสตร์ รามคำแหง ระหว่างเรียนเคยเป็นนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง จบแล้วไปเป็นทนายฝึกหัดกับ “วิทยา แก้วภราดัย” อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ระหว่างนั้นได้ติดตาม “วิทยา” ไปจัดการเกี่ยวกับเรื่องมรดก ของ “พ.อ.(พิเศษ) พล เริงประเสริฐวิทย์” อดีต ส.ส.จังหวัดอุทัยธานี 6 สมัย อดีตหัวหน้าพรรคสยามประชาธิปไตย อดีต รมช.คมนาคม และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และ ยังเป็นนักธุรกิจพันล้าน มีโรงงานสับปะรดกระป๋อง ไร่สับปะรด มีโฉนดที่ดินเป็นปึกๆ
ด้วยความที่ “เทพไท” เป็นหนุ่มหล่อ (มีเชื้อสายตูนิเซีย) คารมดี แถมเป็นนักกฎหมาย จึงได้ “พอเพ็ญ เริงประเสริฐวิทย์” บุตรีของ “เสธ.พล” มาเป็นภรรยา และยังรับหน้าที่ดูแลมรดกของแม่ยายไปในตัว จากนั้นจึงเดินเข้าสู่เส้นทางการเมือง
รายการบัญชีทรัพย์สินที่ “เทพไท” แจ้งต่อ ป.ป.ช.เกือบพันล้านนั้น เป็นของตัวเขา 93 ล้าน ของคู่สมรส 832 ล้าน โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นที่ดินถึง 76 รายการ มีทั้งที่ กรุงเทพฯ นครศรีธรรมราช เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ปทุมธานี นนทบุรี นครนายก ...โฉนดเป็นตั้ง!!
“เทพไท” เคยคุยกับนักข่าวที่ใกล้ชิดสนิทสนมว่า ตัวเขาเองนั้นเกิดในตระกูลที่ยากจนด้วยซ้ำ แต่ที่มีวันนี้ได้ ไม่ใช่เพราะเล่นการเมืองแล้วรวย แต่เป็นเพราะ “มีเมียรวย” !!
