สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญ ได้แก่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ กรณีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรณีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายถาวร เสนเนียม กรณีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 จากกรณีศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ และข้อหาอื่น ๆ จากการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม กปปส.
สำหรับนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และคู่สมรสแจ้งว่า มีทรัพย์สินรวม 1,980,629,068 บาท หนี้สินรวม 122,396,841 บาท โดยแบ่งเป็นทรัพย์สินของนายณัฏฐพล 359,966,455 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินให้กู้ยืม 252,281,310 บาท โดยแจ้งว่าให้นายกมลพัฒน์ ทีปสุวรรณ กู้ยืมกว่า 230,000,000 บาท นอกนั้นให้บริษัท วิสดอม เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด และนางจันทิมา ทีปสุวรรณ กู้ยืม ที่ดินรวม 7 รายการ ในพื้นที่ เขตวัฒนา กทม. เขตธนบุรี กทม.และ อ.เมือง จ.เชียงราย มูลค่ารวม 104,465,767 บาท เป็นต้น ส่วนทรัพย์สินของคู่สมรส 1,442,280,260 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุน 1,132,594,335 บาท โดยส่วนใหญ่อยู่ใน บล.จัดการกองทุนรวมบัวหลวง - สัญญาจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของคู่สมรสรัฐมนตรี เงินให้กู้ยืม 99,425,403 บาท โดยให้บริษัท วิสดอม เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด บริษัท ศรีวิกรม์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด และบริษัท ศรีธาราแลนด์ จำกัด กู้ยืม ทรัพย์สินอื่น 96,523,000 บาท เงินฝาก 91,502,548 บาท สิทธิและสัมปทาน 15,803,972 บาท เป็นต้น
ส่วนทรัพย์สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 178,382,353 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดินในเขตคลองเตย กทม. มูลค่า 98,560,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ประเภทบ้านในเขตคลองเตย กทม. มูลค่า 33,416,711 บาท ส่วนทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ อาทิ แหวน 14 รายการ มูลค่ารวม 31,100,000 บาท สร้อยคอและพระ 59 รายการ ตุ้มหู 20 รายการ กำไล สร้อยข้อมือ 26 รายการ กระเป๋า 21 รายการ พระพุทธรูปและวัตถุโบราณ 10 รายการ เป็นต้น
ทั้งนี้ ในส่วนหนี้สิน 122,396,841 บาท ส่วนใหญ่เป็นหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือของคู่สมรส 120,900,000 บาท โดยเป็นการกู้เงินจากคนในตระกูลศรีวิกรม์รวม 4 คน นอกจากนั้นเป็นเงินเบิกเกินบัญชีของนายณัฏฐพล คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
นอกจากนั้น นายณัฏฐพล และคู่สมรส ยังแจ้งว่ามีรายได้รวม 60,461,800 บาท โดยส่วนใหญ่เป็นรายได้ของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จากการรับให้ หุ้น บจ.เพรสิเด้นท์โฮเต็ลและทาวเวอร์ มูลค่า 38,400,000 บาท และรายได้ของนายณัฏฐพล จากเงินรับให้จากบุพการี 16,000,000 บาท นอกนั้นเป็นรายได้จากเงินเดือน เบี้ยประชุม ค่าเช่า ค่าบริการ ดอกเบี้ยเงินฝากและเงินลงทุน รายจ่ายรวม 47,714,000 บาท ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับกรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 ซึ่งแจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 2,115,587,449 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 130,629,792 บาท เท่ากับว่านายณัฏฐพล และคู่สมรส มีทรัพย์สินลดลง 134,958,381 บาท หนี้สินลดลง 8,232,951 บาท
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 203,150,200 บาท หนี้สินรวม 410,850 บาท โดยแบ่งเป็นทรัพย์สินของนายพุทธิพงษ์ 146,811,316 บาท ส่วนใหญ่เป็น เงินฝาก 87,230,316 บาท ที่ดิน 2 รายการ ในพื้นที่ เขตพญาไท กทม. และบางบ่อ สมุทรปราการ มูลค่ารวม 32,771,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างประเภทบ้าน ในพื้นที่เขตพญาไทย กทม. มูลค่า 12,000,000 บาท ยานพาหนะ 9,000,000 บาท เป็นต้น ทรัพย์สินคู่สมรส 56,338,883 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินฝาก 22,018,883 บาท ยานพาหนะ 8,500,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 รายการ โดยเป็นบ้านใน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และห้องชุดในพื้นที่เขตราชเทวี กทม. มูลค่ารวม 7,500,000 บาท โดยเป็นบ้านใน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และห้องชุดในพ้นที่เขตราชเทวี กทม. ที่ดินในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มูลค่า 6,000,000 บาท ทั้งนี้ในส่วนของหนี้สินเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่นของนายนายพุทธิพงษ์ 410,850 บาท ส่วนทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ อาทิ แหวนเพชรแต่งงาน นาฬิกาข้อมือ Chopard นาฬิกาข้อมือ AP นาฬิกาข้อมือ Patek Philipe สร้อยคอ ตุ้มหูมุก สร้อยเพชร เป็นต้น
นอกจากนั้น นายพุทธิพงษ์ และคู่สมรส ยังแจ้งว่ามีรายได้รวม 1,619,663 บาท โดยแจ้งว่าเป็นเงินเดือนรัฐมนตรี และเงินเดือน ส.ส. รายจ่ายรวม 1,695,000 บาท ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับกรณีเข้ารับตำแหน่ง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 ซึ่งแจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 194,296,604 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 1,369,500 บาท เท่ากับว่านายพุทธิพงษ์ และคู่สมรส มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 8,853,596 บาท หนี้สินลดลง 958,650 บาท
ส่วนนายถาวร เสนเนียม และคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 127,068,783 บาท หนี้สินรวม 30,129,842 บาท โดยแบ่งเป็นทรัพย์สินของนายถาวร 95,856,503 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน 58 รายการ มูลค่า 53,812,000 บาท ส่วนใหญ่ในพื้นที่ ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา อ.สทิงพระ จ.สงขลา อ.ระโนด จ.สงขลา และ อ.เมือง จ.กระบี่ โดยมีการแจ้งว่า มีที่ดิน 6 แปลงในพื้นที่ อ.เมือง จ.สงขลา รอยกเป็นที่สาธารณประโยชน์ ส่วนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง มูลค่า 33,500,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นอาคารในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รวม 8 รายการ เงินฝาก 2,567,320 บาท เป็นต้น ส่วนทรัพย์สินของคู่สมรส 31,212,280 บาท ส่วนใหญ่เป็น โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านในพื้นที่ เขตพญาไท กทม. มูลค่า 20,000,000 บาท เงินฝาก 4,581,090 บาท ที่ดิน 10 รายการ ส่วนใหญ่ในพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี มูลค่ารวม 2,760,000 บาท เป็นต้น ส่วนทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ อาทิ เครื่องประดับ นาฬิกา พระ พระงาช้าง และปืน นอกจากนั้นยังแจ้งว่า มีหนี้สินรวม 30,129,842 บาท แบ่งเป็นหนี้สอนที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 20,000,000 บาท เงินกู้จากสถาบันการเงินอื่น 10,063,743
นอกจากนั้น นายถาวร และคู่สมรส ยังแจ้งว่ามีรายได้ 9,129,200 บาท โดยเป็นเงินเดือน ค่าเช่า เงินจากการขายที่ดิน ค่าสบบัญชี รวมทั้งค่าเวนคืนกรมธรรม์ ส่วนรายจ่าย 8,800,000 บาท ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับกรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 ซึ่งแจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 124,853,180 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 25,118,794 บาท เท่ากับว่านายถาวรและคู่สมรส มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 2,215,603 บาท หนี้สินเพิ่มขึ้น 5,011,048 บาท
นอกจากนี้ ป.ป.ช. ยังเปิดเผยเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ มีทรัพย์สินหลังพ้นจากตำแหน่งราว 923 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นประมาณ 500,000 บาท ไม่มีหนี้สิน