เกมยื่นศาลฯวินิจฉัย “ธรรมมนัส” นักวิเคราะห์ชี้วาระซ่อนเร้น เป็น “กับดัก”? โยง “3 กีบ” ประจานมาหมด สถาบันฯ, รัฐธรรมนูญ (นิติบัญญัติ), “ประยุทธ์” (บริหาร) เหลือตุลาการ “ทอน” ขยี้ซ้ำ “รอล่มสลาย-สมองไหล-ย้ายประเทศ”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (8 พ.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ต้องพ้นสภาพ ส.ส. และรัฐมนตรี หรือไม่ เนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาจำคุกที่ออสเตรเลีย ระบุว่า
1. ฝ่ายค้าน ฟ้อง “มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98” คือ เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก
- คดีฆ่า ดร.ในไทย ยกฟ้องไปก่อนแล้ว
- คดีที่ออสเตรเลีย ฝ่ายค้านไม่เอาสำเนาคดีมาให้ และ ไม่มีผลผูกพันในไทย
2. ทำไมฝ่ายค้านไม่ฟ้อง มาตรา 160(4) คือ ส.ส. ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และ (5) คือ ส.ส. ต้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งจะเข้าข่ายมากกว่า และ อาจส่งผลให้ ธรรมนัส หลุดจากตำแหน่งทางการเมือง
ขณะเดียวกัน ได้แชร์โพสต์เฟซบุ๊กของ Wachilapat Intuputi เมื่อวานนี้ เวลา 00:36 น. ระบุว่า
“กับดักนี้ ถูกวางไว้อย่างแนบเนียนและเหนือชั้นมากๆ
มันเริ่มมาจากความสงสัยของผม ที่คิดว่า
นี่มันคือการตามล้างแค้น ส.ส.ที่แปรพักตร์ใช่หรือไม่ ? “ส.ส.ขายแป้ง” เริ่มจากเป็นทีมงานของพรรคไทยรักไทย ปี พ.ศ. 2542 และก็มาเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคเพื่อไทยปี พ.ศ. 2557 จากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็น ส.ส.พปชร ปี พ.ศ. 2562 ทีมฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยก็เลยมาตามล้างแค้น?
แต่ประเด็นนี้ ก็ต้องถูกตัดทิ้งไป เพราะท่านอาจารย์ จรัญ ภักดีธนากุล บอกว่า มันมีความผิดปกติของการทำคดีนี้ครับ ทำไมฝ่ายค้านไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ ให้จำเลยขาดคุณสมบัติ โดยเน้นที่มาตรา 160(6) คือ “มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98” คือเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก เพราะว่าประเทศไทยและเกือบทุกประเทศในโลก จะใช้คำพิพากษาของศาลภายในประเทศเท่านั้น
ทำไมฝ่ายค้านไม่เน้นที่มาตรา 160(4) คือ ส.ส. ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และ (5) คือ ส.ส. ต้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง (ซึ่งถ้าฟ้องประเด็นนี้ ใช้คำพิพากษาของศาลออสเตรเลียแปลเป็นไทย ก็จะสามารถนำมาเป็นหลักฐานว่า เคยมีพฤติกรรมผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงจริง! ฝ่ายค้านมีโอกาสชนะคดีได้ครับ)
ตอนแรกผมก็ขำนะ คิดว่าทีมกฎหมายฝ่ายค้านน่าจะอ่อนหัด!
แต่มาเอะใจมากๆ จากคำแถลงของศาล ที่ท่านบอกว่า ฝ่ายโจทก์ (ทีมฝ่ายค้าน) ไม่เตรียมสำนวนคดีคำพิพากษาตัดสินของศาลออสเตรเลีย มาให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาความผิดเลย!
OMG คุณฟ้องจำเลยแต่ไม่มีหลักฐานความผิดอะไรเลย! ทนายฝึกงานยังรู้เลยว่า คดีนี้แพ้อยู่แล้วครับ
ผมสงสัยมาก ว่าเค้าทำแบบนี้ทำไมเหรอ?
ภาพ flash back ตัดขึ้นมาทันที
อาทิตย์ที่แล้ว ได้ภาพมวลชน บูลลี่ศาล! พร้อมกับพาดหัวข่าว “หมดศรัทธาตุลาการไทย” ได้ PR ไปทั่วโลก
ก่อนหน้านั้น 1 สัปดาห์ ศาลก็ให้ ไผ่ ดาวดิน และ สมยศ ประกันตัวออกไป เพราะทีมทนายของทั้งสองคน ให้เซ็นหนังสือรับรองว่า จะไม่ทำผิดซ้ำอีก
แต่พอมาเคส เพนกวิน กับ รุ้ง ทนายทีมเดิม ไม่ให้เซ็นซะงั้น! นักกฎหมายทั่วโลกก็รู้อยู่แล้วว่า แบบนี้ศาลไม่ให้ประกันแน่นอนครับ
พอได้ภาพ ได้ข่าว PR ที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ไม่กี่วันรุ้งก็ยอมเซ็นได้ประกันตัวออกมา! รู้ทั้งรู้ทำไมไม่ทำแต่แรก? อยากได้ข่าวก่อน?
อำนาจอธิปไตยเป็นอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ ซึ่งก็คือ อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ
ยังจำกันได้นะคับ ข้อเรียกร้องแก้รัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบัน ก็คือ การดิสเครดิต ฝ่ายนิติบัญญัติ และสถาบัน ไปทั่วโลกเรียบร้อยแล้ว
ด่ารัฐบาลทุกวัน ก็ดิสเครดิตอำนาจบริหาร ภาพลักษณ์แทบไม่เหลือ ในสายตาชาวบ้านและชาวโลก
คราวนี้ ถึงคิวของอำนาจตุลาการบ้างครับ ที่จริงขบวนการนี้ เค้าปล่อยหนังตัวอย่างมาหลายเรื่องแล้วนะ ที่ล้วนดิสเครดิตอำนาจตุลาการและกระบวนการยุติธรรมของไทย
- จำวาทกรรม ตายาย (อายุ 40 ปี) เก็บเห็ดติดคุกได้ไหมครับ เค้าโจมตีเรื่อง “มีแต่คนจนเท่านั้นที่ติดคุก”
- จำบ้านพักตุลาการ ที่ปี 2547 รัฐบาลโทนี่ อนุมัติให้สร้าง ต่อมาปี 2556 รัฐบาลปูจัดสร้าง ทำให้ปี 2561 “ขี้และความซวย” มาตกที่ข้าราชการตุลาการที่จะต้องไปอาศัยอยู่ที่ “หมู่บ้านป่าแหว่ง” เค้าโจมตีเรื่อง “อภิสิทธิ์ชน ผู้อยู่เหนือกฎหมายบุกรุกป่าสงวน” ภาพจำเหล่านี้ มันเริ่มมาถี่ๆ ให้คนจดจำแต่เรื่องราวในเชิงลบเหล่านี้ โดยน้อยคนที่จะมาฟังคำแก้ต่างและความจริงครับ
- ภาพดิสเครดิตศาล ที่ประชาชนกลุ่มหนึ่ง สาดสีและด่าทอศาล น่าจะแพร่อยู่ในโลกโซเชียลไปอีกนานเท่านาน
- ภาพการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตีความได้ว่า “ค้าแป้งไม่ผิดเป็น รมต.ได้” แถมมีสื่อออสซี่ หนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ ช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษ ได้อ่านกันทั่วโลก (ผมเอะใจอยู่แล้ว ว่าทำไมสื่อนี้ถึงตามล้างตามเช็ด รมต.คนนี้ เฉพาะในช่วงนี้ คือ ปี 2562-2564 เท่านั้น ทำไมตอนอยู่พรรคไทยรักไทย และ เพื่อไทย ปี 2542-2557 ถึงเงียบจัง ไม่ยุ่งเลย?)
ข้าแต่ศาลที่เคารพ พวกท่านเตรียมรับมือกับขบวนการนี้ได้เลยนะครับ
ตามสูตรแล้วน่าจะมีการสร้างเรื่องมาดิสเครดิตพวกท่าน อีกหลายระลอกแน่ๆ ครับ ที่น่าห่วงคือ พวกท่านไม่น่าจะมีประชาชนมาช่วยกันปกป้องเหมือนตอนที่สถาบันโดนจาบจ้วงนะครับ!
ขอให้ทุกท่านโชคดีในการรับมือครับ
วชิรภัทร อินทุภูติ
ถ้าท่านยังไม่ “aware” นะ
ผมจะยกตัวอย่างวิธีการดิสเครดิตศาลให้พวกท่านได้ทราบครับ
เค้าจะเลือกคดีดังๆ ที่สังคมมั่นใจว่า จำเลยมีความผิด แต่ขบวนการนี้จะไปช่วยยัดเงิน ตำรวจหรืออัยการให้แกล้งทำสำนวนอ่อนๆ ห่วยๆ มายื่นฟ้องศาล พอเรื่องนี้มาถึงผู้พิพากษา พวกท่านจะทำอย่างไรครับ? เมื่อเจอพยานและหลักฐานอ่อนๆ แบบนี้ จะยกฟ้องหรือจะปล่อย? สุดท้ายคำตัดสินคือ จำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์! โดนโห่กันทั้งโลกแน่นอนครับท่าน
มันถึงเวลาหรือยังครับท่าน? ที่บางทีศาลอาจต้องมี PR ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับสื่อและประชาชน ลงมาอธิบายภาษาบ้านๆ ว่า คดีมันควรเป็นแบบนี้ แต่กฎหมายทำให้ต้องเป็นแบบนี้ และทางเราจะเอาผิดกับพวกล้มมวยแบบนี้ หรือใช้อำนาจปลดหรือเปลี่ยนทีมโจทก์ ทนายของแผ่นดิน (ตำรวจและอัยการ) ตั้งกรรมการสอบได้หรือป่าวครับ?
ก่อนที่ตาชั่งอันเที่ยงธรรมจะไม่เหลือภาพลักษณ์ใดๆ”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณก้าวหน้า ได้แพร่ภาพสด หัวข้อ [นาโนชิปไต้หวัน สภาไทย และเหตุที่คนอยากย้ายประเทศ: คิดไปข้างหน้ากับธนาธร EP. 2 ]
โดยระบุว่า คิดไปข้างหน้ากับธนาธร EP นี้ ผมชวนมอง 3 ข่าวใหญ่ที่ดูไม่มีอะไรเกี่ยวกันเลย
1) ไต้หวันผลิตชิปนาโนที่เล็กที่สุดในโลก 2) ไทยเตรียมเปิดใช้งานรัฐสภาที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ 3) ปรากฏการณ์ #ย้ายประเทศกันเถอะ
เมื่อมองให้ดี จะพบว่า ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า รัฐที่ไม่ได้ตอบสนองความฝันประชาชน ไม่มีโครงสร้างทางการเมืองที่เปิดกว้างพอจะให้คนรู้สึกว่า ประเทศนี้ดีพอสำหรับพวกเขา เป็นรัฐที่รอวันล่มสลาย เพราะคนเก่ง คนมีความสามารถ จะหลั่งไหลออกไปสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศอื่นจนหมด
ฟังรายการจบแล้ว เชิญแลกเปลี่ยนกันต่อใน Clubhouse เช่นเคย เวลา 20.00 น. นะครับ ผมชวน อ.ต้น รศ.ดร.วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร นักเศรษฐศาสตร์ที่ปัจจุบันพาครอบครัวไปใช้ชีวิตตั้งรกรากอยู่ที่ญี่ปุ่น มาพูดคุยกันกับทุกคน
ลองดูครับว่า ถ้าจะปรับเปลี่ยนรัฐไทย ให้มีความฝันตรงกับประชาชน ทำประเทศไทยให้น่าอยู่จนไม่มีใครอยากย้ายไปไหน เราจะต้องแก้อะไรบ้าง
#คณะก้าวหน้า #ทีมยึดประเทศ #คิดไปข้างหน้ากับธนาธร
อย่างไรก็ตาม เมื่อ 5 พ.ค. เวลา 04:00 น. เฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โพสต์หัวข้อ [ศาลรัฐธรรมนูญสร้างบรรทัดฐานใหม่ เป็นอดีตนักโทษในต่างแดนก็เป็น รมว.ไทยได้? ]
โดยระบุว่า “ผมรับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วยความประหลาดใจ แม้จะไม่ผิดความคาดหมายที่ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มือประสานสิบทิศของรัฐนาวา ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอดจากการพ้นสภาพรัฐมนตรี
แต่คำวินิจฉัยของศาลวันนี้ เกินความคาดหมายของผมไปมาก เพราะระบุว่า แม้ศาลออสเตรเลียจะมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกธรรมนัสในคดียาเสพติดจริง แต่เป็นศาลออสเตรเลีย ไม่ใช่ศาลไทย จึงไม่มีลักษณะต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรี
ผมขอตั้งข้อสังเกต 2 ข้อ ดังนี้
ประการแรก
ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยชัดๆ ว่า
“ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า ก่อนลงสมัคร ส.ส. ร.อ.ธรรมนัส ยอมรับว่า เคยกระทำความผิดตามคำพิพากษาของศาลแขวงรัฐนิวเซาท์เวลส์ เครือรัฐออสเตรเลีย” และ “เคยต้องคำพิพากษาของศาลแขวงนิวเซาท์เวลส์ เครือรัฐออสเตรเลีย”
หมายความว่า ที่ธรรมนัสกล่าวอ้าง ทั้งในสภา กับวาทะ “มันคือแป้ง” และนอกสภา ที่เขายืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่าไม่เคยติดคุก ไม่ได้ค้ายาเสพติด เป็นเรื่องไม่จริง เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่ธรรมนัสจะขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีจะมีความสง่างามได้อย่างไร จะได้รับความเชื่อถือจากประชาชนได้อย่างไร หากมีรัฐมนตรีที่โกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเรื่องคอขาดบาดตายอย่างการพัวพันกับการค้ายาเสพติด
ประการที่สอง
คำวินิจฉัยในวันนี้ จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ในสังคมไทยใช่หรือไม่ ว่าไม่ว่าจะเป็นอาชญากรหรือนักโทษมาจากไหน แต่ประเทศไทยจะเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้เป็นรัฐมนตรีได้เสมอ ตราบใดที่ไม่ได้ต้องคดีในไทย ถ้าเป็นแบบนี้ ต่อไปพ่อค้ายา พ่อค้าอาวุธทั่วโลกก็คงสามารถเอาเงินจากการก่ออาชญากรรม มาซื้อตำแหน่งรัฐมนตรี กลายเป็นผู้บริหารประเทศไทยได้ใช่หรือไม่
เราจะปล่อยให้ประเทศเป็นแบบนี้จริงๆ หรือ?
หากเป็นแบบนี้ต่อไป อย่าแปลกใจเลยครับที่คนไทยจำนวนมากจะอยากย้ายประเทศ เพราะไม่มีใครหรอก ที่อยากอยู่ในบ้านเมืองที่ไม่มีที่อยู่ให้กับคนมีความสามารถ แต่กลับมีที่ยืนให้กับบุคคลเช่นนี้
https://www.facebook.com/.../pcb.../357504845885784jk
แน่นอน, สิ่งที่น่าสนใจ ก็คือ จริงหรือไม่ ในประเทศไทยมีขบวนการ ที่เห็นว่า การทำลายสถาบันหลักของประเทศ หรือ ประจานประเทศตัวเอง ให้โลกเชื่อว่า ไม่มีอะไรดี เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ควรทำ???
ถ้าบอกว่า ไม่! แต่ทำไมสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้วิเคราะห์ได้ว่ามันเป็นเช่นนั้น มันเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่ใช่เรื่อง “มโน” ขึ้นมา มันอธิบายได้ในเชิง “ประจักษ์” มีการเคลื่อนไหวเรียกร้อง (ม็อบ 3 นิ้ว) มีกลุ่มคน นักการเมืองฝ่ายแค้น ร่วมกับฝ่ายค้านในจำนวนที่ยากระบุได้ มีนักวิชาการในมหาวิทยาลัย ที่ออกแถลงการณ์พร้อมรายชื่อกว่าพันคนก็มี มีสาวกในสังคมออนไลน์ หรือ โลกโซเชียล จำนวนมาก มีผู้ลี้ภัยคดี “ล้มเจ้า” และคดีทุจริตหลบหนีโทษและคดีในต่างประเทศ ฯลฯ นี่คือ ขบวนการ ที่ส่อไปในทางชังหลายอย่างในประเทศไทย ที่ทำให้ตัวเองเสียประโยชน์ และพร้อมที่จะประจานต่อชาวโลก เพื่อหวังแรงสนับสนุน โดยไม่สนใจผลเสียที่เกิดขึ้นกับประเทศตัวเองอย่างมหาศาล
เราจะอยู่กันอย่างไร? มิใช่แต่คำถามที่เกิดจากพวกเขาเท่านั้น คนไทยส่วนใหญ่ที่เคยอยู่เย็นเป็นสุข และทำมาหากินบนแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์มาอย่างยาวนาน ไร้ความขัดแย้งแตกแยก เพิ่งมาเกิดขึ้นในยุคนักการเมืองขี้โกงนี่เอง ก็ตั้งคำถามเช่นกัน และแม้ไม่เคยคิดย้ายประเทศอยู่หัวสมองเลย ก็ตาม
แล้วถ้ามีขบวนการทำลายชาติ ประจานประเทศชาติ เพียงเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองอยู่จริง การที่เห็นว่า ประเทศไทยไม่มีอะไรดี ก็ไม่ควรอยู่ให้หนักแผ่นดินของคนไทยเช่นกัน