นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ต้องพ้นจาก ส.ส.และรัฐมนตรี ไม่ขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี กรณีศาลในต่างประเทศพิพากษาจำคุกคดีค้ายาเสพติด โดยระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญสร้างบรรทัดฐานใหม่ เป็นอดีตนักโทษในต่างแดนก็เป็น รมว.ไทยได้
ผมรับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วยความประหลาดใจ แม้จะไม่ผิดความคาดหมายที่ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มือประสานสิบทิศของรัฐนาวาประยุทธ์ จันทร์โอชา รอดจากการพ้นสภาพรัฐมนตรี แต่คำวินิจฉัยของศาลวันนี้เกินความคาดหมายของผมไปมาก เพราะระบุว่าแม้ศาลออสเตรเลียจะมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกธรรมนัสในคดียาเสพติดจริง แต่เป็นศาลออสเตรเลีย ไม่ใช่ศาลไทย จึงไม่มีลักษณะต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรี
ผมขอตั้งข้อสังเกต 2 ข้อ ดังนี้
ประการแรก ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยชัดๆ ว่า“ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า ก่อนลงสมัครส.ส. ร.อ.ธรรมนัส ยอมรับว่าเคยกระทำความผิดตามคำพิพากษาของศาลแขวงรัฐนิวเซาท์เวลส์ เครือรัฐออสเตรเลีย” และ “เคยต้องคำพิพากษาของศาลแขวงนิวเซาท์เวล เครือรัฐออสเตรเลีย”
หมายความว่าที่ธรรมนัสกล่าวอ้าง ทั้งในสภากับวาทะ “มันคือแป้ง” และนอกสภา ที่เขายืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่าไม่เคยติดคุก ไม่ได้ค้ายาเสพติด เป็นเรื่องไม่จริง เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่ธรรมนัสจะขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีจะมีความสง่างามได้อย่างไร จะได้รับความเชื่อถือจากประชาชนได้อย่างไร หากมีรัฐมนตรีที่โกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเรื่องคอขาดบาดตายอย่างการพัวพันกับการค้ายาเสพติด
ประการที่สอง คำวินิจฉัยในวันนี้จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ในสังคมไทยใช่หรือไม่ ว่าไม่ว่าจะเป็นอาชญากรหรือนักโทษมาจากไหน แต่ประเทศไทยจะเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้เป็นรัฐมนตรีได้เสมอ ตราบใดที่ไม่ได้ต้องคดีในไทย ถ้าเป็นแบบนี้ ต่อไปพ่อค้ายา พ่อค้าอาวุธทั่วโลกก็คงสามารถเอาเงินจากการก่ออาชญากรรม มาซื้อตำแหน่งรัฐมนตรี กลายเป็นผู้บริหารประเทศไทยได้ใช่หรือไม่
เราจะปล่อยให้ประเทศเป็นแบบนี้จริงๆ หรือ
หากเป็นแบบนี้ต่อไป อย่าแปลกใจเลยครับที่คนไทยจำนวนมากจะอยากย้ายประเทศ เพราะไม่มีใครหรอก ที่อยากอยู่ในบ้านเมืองที่ไม่มีที่อยู่ให้กับคนมีความสามารถ แต่กลับมีที่ยืนให้กับบุคคลเช่นนี้