ส.ส.หน้าไม่อาย จากขอเครื่องราชฯถึงแย่งวัคซีน !!

เมืองไทย 360 องศา

ต้องบอกว่า หลายคนทนไม่ไหว และรู้สึกสะอิดสะเอียดกับพฤติกรรมแบบ “ตีสองหน้า” ของ ส.ส.บางพรรค บางกลุ่ม ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีเจตนาต่อว่าไปที่ ส.ส.โดยรวม แต่ต้องโฟกัสไปที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในเครือข่ายของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ก่อนหน้านี้ ออกมาทำตัวเป็น “กูรู” เลกเชอร์เรื่องการผลิต และการสั่งซื้อวัคซีนของรัฐบาลไทย โดยเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เขาได้ไลฟ์เฟซบุ๊ก บรรยายหัวข้อ “วัคซีนพระราชทาน ใครได้ใครเสีย” โดยเนื้อหาเป็นการวิจารณ์การจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาล ว่า มีความล่าช้า รวมไปถึงการตั้งข้อสังเกตถึงการถ่ายโอนเทคโนโลยีการผลิต จากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า มายัง บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งหลายคนมองว่ามีเจตนาเพื่อโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์

เนื่องจากบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ก่อตั้งเมื่อปี 2552 โดยทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ การถือกำเนิดดังกล่าว เกิดจากพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เกี่ยวกับเรื่องยา เพื่อให้คนไทยได้รับยาที่มีคุณภาพ และลดการพึ่งพาการนำเข้ายาจากต่างประเทศ

ที่ผ่านมา บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนด้านยาและชีวเภสัชภัณฑ์ของอังกฤษกับสวีเดน โดยบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ได้เลือกบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ เป็นผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 โดยจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตเพื่อรองรับการผลิตจำนวนมากในภูมิภาคนี้ โดยมีเงื่อนไขไม่แสวงหากำไร โดยตามแผนจะผลิตออกมาใช้ก่อนกลางปี 2564

ผลจากการไลฟ์สดในครั้งนั้นของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทำให้เขาถูกหมายเรียก และถูกตั้งข้อหาความผิดตาม มาตรา 112 อีกด้วย ซึ่งเป็นความเป็นมาคร่าวๆ ของ “นักธุรกิจการเมือง” คนดังกล่าวที่มีทัศนคติในทางลบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มาตลอด ดังจะเห็นได้จากการสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม “ม็อบสามนิ้ว” ที่ถูกมองว่า มีเจตนา “โค่นล้ม” สถาบันฯนั่นแหละ
ขณะที่พรรคก้าวไกล ที่เป็นผลผลิตต่อเนื่องมาจากพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไป เนื่องจากกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งก็มีแนวทางไม่ได้แตกต่างกัน มีการรับลูก เคลื่อนไหวทั้งในและนอกสภา ซึ่งใครที่ติดตามการเมืองมาแบบเข้าใจก็จะได้เห็นภาพเหล่านั้นจนชินตาอยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี สิ่งที่เชื่อว่าทำให้หลายคนรู้สึกสมเพชกับพฤติกรรมล่าสุดของ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ยกขบวนกันไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขบริการฉีดให้กับ ส.ส. และ ส.ว. ด้วยเหตุผลที่ว่า นักการเมืองพวกนี้มีความเสี่ยงจากการพบปะกับประชาชน ทำให้อาจเกิดความเสี่ยงทำให้เชื้อโรคกระจายออกไปทั่วประเทศ ก็อาจฝืนใจเชื่อกับเหตุผลมั่วๆ แบบนั้นได้ หากที่ผ่านมา ไม่ได้พยายามแสดงภูมิปัญญาเฉพาะตัวในการโจมตีวัคซีนที่รัฐจัดหามาสารพัด ทั้งในเรื่องของความล่าช้า มีจำนวนน้อยนิด ไม่ทันการณ์กับสถานการณ์โรคระบาด หรือแม้กระทั่งประสิทธิภาพของวัคซีนเหล่านั้น ที่มีการตั้งข้อสงสัยอยู่ตลอดเวลา

ที่สมเพชยิ่งไปกว่านั้น ก็คือ ก่อนหน้านั้น มี ส.ส.บางคนจากพรรคก้าวไกลนั่นแหละ ที่เคยกล่าว “อย่างหล่อๆ” ว่า เขาจะไม่แย่งฉีดวัคซีนกับประชาชน ความหมายก็คือ จะไม่ไปแย่งโควตากับชาวบ้าน ซึ่งก็คือ มีเจตนากระแทกแดกดันรัฐบาล หรือผู้นำรัฐบาลนั่นแหละว่า มีการจัดหาวัคซีนได้ล่าช้า อะไรประมาณนี้ แต่แล้วกลายเป็นว่า ทุกอย่างกลายเป็นเรื่อง “ตรงข้าม” อีกตามเคย

เพราะในภาพข่าวที่ปรากฏ กลับกลายเป็นว่า มี ส.ส.จากพรรคก้าวไกล จำนวนมากที่ทยอยกันไปฉีดวัคซีน (ที่ตอนแรกปากบอกว่าจะไม่แย่งชาวบ้าน) จนสามสี่วันที่ผ่านมา ถูกโลกโซเซียลฯ ขุดคำพูดที่ว่านั้นมาประจาน ส.ส.พรรคก้าวไกล คนดังกล่าว แม้ว่าในที่สุดแล้ว ส.ส.พรรคก้าวไกล คนนั้นจะกล้าฉีดวัคซีนหรือเปล่า เพราะตามข่าวบอกว่า “เขายืนลังเลอยู่พักหนึ่ง”

อย่างไรก็ดี หากย้อนกลับไปพิจารณาถึงพฤติกรรม “ตรงข้าม” แบบนี้ หรือ “พูดอย่างทำอย่าง” ที่ว่านี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะหากยังจำกันได้ถึงกรณีการ “ขอพระราชทานเครื่องราชฯ” ที่คราวนั้น ก็ได้เกิดเสียงหัวร่อเยาะเย้ยมาจากคนรอบข้างดังกระหึ่มมาแล้ว จากพฤติกรรมที่สนับสนุนการเคลื่อนไหว “ล้มเจ้า” วาทกรรม “กฎุมพีกินแรงแบ่งชนชั้น” สารพัด แต่ก็แอบลงชื่อขอเครื่องราชฯกับเขาด้วย

แน่นอนว่า การเปิดโอกาสให้ ส.ส. และ ส.ว.ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มแรกๆ พร้อมๆ กับบุคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึงกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่ปฏิบัติหน้าที่ใน “ด่านหน้า” ทั่วประเทศ ทั้งที่ตามหลักการแล้ว โควตาวัคซีนที่ยังมีจำนวนจำกัดในเวลานี้น่าจะไปมอบกระจายไปให้บุคลากรที่จำเป็นในท้องถิ่นได้มากกว่า และจำเป็นกว่าพวกนักการเมืองพวกนี้ด้วยซ้ำไป แต่ถึงอย่างไรก็ยังกล้ำกลืนพอทนฟัง และยอมให้ปล่อยเลยตามเลย

แต่ที่น่าสมเพชก็คือ พวก ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ว่านี่แหละ ที่นอกจากวิจารณ์ ตั้งข้อสงสัยถึงคุณภาพของวัคซีน “ตามนาย” อยู่ตลอดเวลา ถึงขนาดเคยพูดแบบ “เท่ๆ” ว่า จะไม่แย่งฉีดกับประชาชน แต่พอถึงเวลากลับไปแย่งฉีดก่อนใครเพื่อน !!