จริงหรือไม่? แชตหลุดต่อเนื่อง อ้างเป็น “ลูกเกด” คุยกับ “ทูตต่างชาติ” ตอกย้ำมีคนคุมรีโมต “ม็อบ 3 นิ้ว” สั่งสังเวยชีวิตเหมือนพม่า หากสำเร็จจ่ายไม่อั้น ด้าน เฟซบุ๊ก Chonthicha Kate Jangrew ชี้ “แชตปลอม” แค่รายงานการละเมิดสิทธิ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (18 เม.ย. 64) ยังคงมีออกมาอีกอย่างต่อเนื่อง “แชตหลุด” อ้าง “ลูกเกด” คุยกับบุคคลสำคัญในสถานทูตต่างชาติ
โดยก่อนหน้านี้ มีการเผยแพร่แชตการสนทนา อ้างว่าเป็น “ลูกเกด” ชลธิชา แจ้งเร็ว พูดคุยกับชาวต่างชาติที่ใช้ชื่อในไลน์ว่า “Agent H.” ซึ่งการพูดคุยกัน เหมือนเป็นการรายงานสถานการณ์การเคลื่อนไหวในประเทศไทยของม็อบ 3 นิ้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า Agent H. เป็นนามแฝงของใคร และยังมีการพูดถึง Agent H ว่า เป็นฝรั่งสัญชาติมะกัน ที่ถูกแฉว่า อยู่เบื้องหลัง ม็อบ 3 นิ้ว ผ่าน ชลธิชา แจ้งเร็ว ….มีการตั้งโค้ดเนม 5, 6, 7, 8, 9 เป็นตัวเลขแทนความหมายคนที่คอนโทรลอยู่
นอกจากนี้ ชาวต่างชาติ หรือ Agent H. ได้ยกนิ้วชื่นชมแอมมี่ ที่ก่อเหตุเผาพระบรมฉายาลักษณ์ จนถูกจับกุม โดย ชลธิชา ได้ตอบกลับว่า อาจจะมีม็อบเพิ่มมากขึ้นอีก และสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ Agent H. ที่เธอคุยด้วย เป็นโค้ดเนมของใคร? หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า หรือนี่คือข้อพิสูจน์ถึงความจริงที่ว่า มีต่างชาติคอยแทรกแซงและสนับสนุนม็อบล้มสถาบันฯในประเทศไทย?
ล่าสุด มีการเปิดเผยแชตอีกชุดหนึ่ง อ้างว่า เป็นการพูดคุยกันระหว่างลูกเกด กับ Agent H. เป็นแชตที่มีการเร่งเร้าให้สถานการณ์การชุมนุมในประเทศไทยเกิดความรุนแรงขึ้น โดยมีการส่งข่าวสารของการชุมนุมในเมียนมา กรณีที่มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม โดยบอกว่า ต้องทำให้มีประชาชนเสียชีวิตแบบเมียนมา เพื่อที่จะกดดันให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คุมสถานการณ์ไม่ได้ พร้อมกับทิ้งท้ายว่า หากภารกิจสำเร็จจะยอมจ่ายไม่อั้นด้วย?
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีอีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจ โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า การสนทนาของแชตที่อ้างว่า เป็น ลูกเกด ชลธิชา และ Agent H.นั้น ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมีความสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก จากการที่มีการส่งสติกเกอร์ และมีการส่งรูปภาพ ข้อความเสียงให้กัน และมีการทักทายที่ดูเหมือนว่า มีความสนิทกันมาก
อ้างอิง https://truthforyou.co/44494/
ด้าน น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (Democracy Restoration Group - DRG) และกลุ่มคณะราษฎร 63 วานนี้ (17 เม.ย.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chonthicha Kate Jangrew กล่าวถึงกรณีโซเชียลแชร์กระหน่ำแชตหลุดการสนทนาเกี่ยวกับการชุมนุมให้ชาวต่างชาติฟังว่า
“เราเป็นแค่คนทำงานในวงการสิทธิมนุษยชนธรรมดาๆ ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรขนาดที่จะไปเรียกร้องให้ต่างชาติมาแทรกแซงเมืองไทยได้หรอกค่ะ
ที่พอจะทำได้ ก็คือ การอัปเดตสถานการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนไทยให้ต่างชาติฟัง ดังนั้น ไม่ต้องลงทุนถึงขั้นสร้างแชตปลอมออกมาโจมตีกันแบบนี้ เพราะมันดูไร้สาระมาก และที่สำคัญ ไม่มีใครใช้แชตไลน์คุยกับสถานทูตนะคะ มันไม่ปลอดภัย”
ถึงกระนั้น ข้อสังสัยที่ว่า Agent H. เป็นนามแฝงของใคร ซึ่งโพสต์ที่ลูกเกดออกมาชี้แจง ได้มีการพูดถึงสถานทูต โดยประเด็นดังกล่าวทางด้าน ปราชญ์ สามสี จับพิรุธว่าแล้วหล่อนรู้ได้อย่างไรว่า Agent H. เป็นคนในสถานทูต…(พูดเองนะ) พลาดแล้วล่ะนาง….ชลธิชา แถเร็ว
ทั้งนี้ ปราชญ์ สามสี ยังเผยด้วยว่า Agent H เป็นฝรั่งสัญชาติมะกัน อยู่เบื้องหลังม็อบสามนิ้ว ผ่าน ชลธิชา แจ้งเร็ว มีการวางแผนกันอย่างดี…. มีการตั้งโค้ดเนม 5, 6, 7, 8, 9 เป็นตัวเลขแทนความหมายคนที่คอนโทรลอยู่
แบบนี้ก็ชัดเจนแล้วละนะว่า ม็อบคราวนี้ ใครเป็นคนถือรีโมต
นอกจากนั้น มีคนวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากถึงแชตปริศนา ที่อ้างลูกเกด รายงานต่างชาติถึงเรื่องการยื่นขอประกันตัวแกนนำ โดยมีการใช้โค้ดเป็นหมายเลขว่า NO5-9 ถูกปฏิเสธการประกันตัว แต่ NO 7 กำลังจะเปลี่ยนไปใช้แผน B
รวมทั้งกรณีชาวต่างชาติ หรือ Agent H ยกนิ้วชื่นชมแอมมี่ ที่ก่อเหตุเผาพระบรมฉายาลักษณ์ จนถูกจับกุม ที่ “ลูกเกด” ตอบกลับว่า อาจจะมีม็อบเพิ่มมากขึ้นอีก และสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ Agent H. ที่เธอคุยด้วย เป็นโค้ดเนมของใคร?
ที่สำคัญ หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า หรือนี่คือ ข้อพิสูจน์ถึงความจริงที่ว่า มีต่างชาติคอยแทรกแซงและสนับสนุนม็อบล้มสถาบันฯในประเทศไทย
สำหรับ ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด เป็นนักศึกษาปริญญาโท สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นสมาชิกของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ นักกิจกรรมการเมืองผู้เคลื่อนไหวต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ยุคหลังรัฐประหาร 2557 ถึงยุค “สืบทอดอำนาจ” หลังการเลือกตั้ง 2562 ในวัย 27 ปี เธอมีคดีติดตัวถึง 14 คดี ในจำนวนนี้มี 4 คดีที่ถูกตั้งข้อหายุยงปลุกปั่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ต้องระวางโทษสูงสุด คือ จำคุก 7 ปี
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ปราชญ์ สามสี โพสต์ข้อความแกะรอยปริศนาที่หลายคนสงสัย ระบุว่า
“อ่าว ปรากฏ ชื่อ Henry Rector … เป็นเจ้าหน้าที่อุปทูตสหรัฐฯ ที่ นายธนาธร เรียกให้มาสังเกตการณ์ในไทย กรณี พรรคอนาคตใหม่โดนคดี….
Henry Rector คนนี้ คือ คนเดียวกับที่ปรากฏเป็นข่าวว่าคือ Agent H, จาก DKIAPCSS ที่พูดคุย กับ ชลธิชา แจ้งเร็ว ทูตทั้งสิบสองคนที่มาในวันนั้นมีดังนี้
1. Henry Rector Political counselor (US)
2. Kasper Rasmussen Political Attache (JPD) EU
3. Alexander Nowak Counselor German Embassy
4. Daniel Feiller Second secretary Political British Embassy
5. Christophe Carlucci Premier Secretaire French Embassy
6. Gonna Lehman Assistant Director Australian Embassy
7. Kenza Tarqaat Deputy Head of Political and Economic Department Netherlands Embassy
8. Heikki Karhu Deputy Head of Mission Embassy of Finland
9. Gregoria Legault
Second Secretary Canadian Embassy
10. Idesblad Van Der Gracht First Secretary Belgian Embassy
11. Badar Farrukh Thailand Team Leader UNHRC
12. Dr.Colin Josef Steinbach First Counsellor (Potical , Press & Information) EU
ย้อนไปเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน รับทราบข้อกล่าวหายุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 ให้การช่วยเหลือผู้กระทำความผิดหลบหนี ตามมาตรา 189 และมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215 โดยมีตัวแทนสถานทูตหลายแห่งร่วมสังเกตการณ์ด้วย
นายธนาธร เดินทางมาถึง สน.ปทุมวัน พร้อมด้วย น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่และทีมกฎหมาย ในเวลาประมาณ 09.50 น. โดยมีมวลชนจำนวนมากมาให้กำลังใจ ขณะที่ตำรวจวางกำลังรักษาความปลอดภัยเข้มงวดและไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใน สน. ในการสอบปากคำนายธนาธร ในวันนั้น มี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมสอบปากคำด้วย นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนจากสถานทูตรวม 12 แห่ง เข้าร่วมสังเกตการณ์การทำคดีของตำรวจ
ต่อมาทางด้าน น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้เปิดเผยถึงกรณีที่มีตัวแทนจากสถานทูตเข้าไปสังเกตการณ์คดีของนายธนาธร ว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามข่าวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด มีหลายภาคส่วนแสดงความวิตกกังวลมายังกระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทราบว่า คณะทูตและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศที่ไปปรากฏตัวในวันนั้นเป็นเพราะได้รับเชิญจากนายธนาธรเอง
อ้างอิง https://truthforyou.co/44502/
แน่นอน, ทั้งหมดยังถือเป็นการกล่าวอ้าง เพราะเจ้าตัวที่ถูกพาดพิงได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่า เป็น “แชตปลอม” แต่ก็ยอมรับว่า มีการรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทยให้ต่างชาติเหมือนกัน ซึ่งก็ยิ่งทิ้งปริศนาเอาไว้อีกว่า ถ้าไม่ใช่แชตเธอ แล้วที่เธอรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนให้ต่างชาตินั้น รายงานใคร เพราะอะไร เพราะรับเงินทุนจากต่างชาติหรือไม่ อย่างไร ในเมื่อเธอไม่ตอบชัดเจนก็ย่อมมีคนตั้งข้อสงสัยต่างๆ นานา
เหนืออื่นใด ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ เรื่องนี้จะต้องมีคำตอบที่ชัดเจนออกมา เพราะเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องความเป็นความตายของประเทศชาติ ที่ใครจะเอามาล้อเล่นไม่ได้ ดังนั้น หน่วยงานที่มีความรู้ความสามารถในการพิสูจน์ หรือ ตรวจสอบจะต้องเร่งทำความจริงให้ปรากฏ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
หาไม่แล้ว อย่าว่าแต่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะได้รับความเสียหายเลย แม้แต่ประเทศชาติ หากมีขบวนการแทรกแซงดังกล่าวอยู่จริง และไม่มีการตรวจสอบเรื่องนี้ออกมาอย่างชัดเจน วันหนึ่งที่เกิดความรุนแรงขึ้นจริง อาจสายเกินไปแล้วก็ได้ ใครจะรู้!!!