เผยโฉมหน้าอีกคน? “ปราชญ์ สามสี” แฉ “เดวิด สเตร็คฟัสส์” โยง “ศิวรักษ์-CIA” ส่อเอี่ยวม็อบราษฎร “หมอวรงค์” เผยเคยค้าน ร่วมดีเบต ม.112 แขวะ นักการเมืองมีภรรยาต่างชาติ อย่าชักศึกเข้าบ้าน “3 นิ้ว มข.” ปกป้อง มีผลงานเพียบ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (17 เม.ย. 64) เพจเฟซบุ๊ก “ปราชญ์ สามสี” โพสต์กรณีไทยสั่งระงับวีซ่า “เดวิด สเตร็คฟัสส์” นักวิชาการสหรัฐฯ อดีต ผอ.โครงการ CIEE ขอนแก่น ผู้ดูแล “The Isaan Record” ที่ฝังตัวทำงานในไทยกว่า 35 ปี เป็นหนึ่งในกลุ่มนักวิชาการต่างชาติที่เคลื่อนไหวต่อต้าน ม.112 และ วิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯของไทย มาโดยตลอด
โดยระบุว่า “เมื่อวันก่อนข้าพเจ้าเคยบอกมาตลอดว่า ศิวรักษ์ เนี่ยคือ CIA ..ขนาดหนังสือ Exclusive Intelligence Review (EIR) โดย Lyndon H. Larouche ก็ยังระบุเอาไว้ชัดเจนว่า เป็นสายลับที่คอยปลุกปั่นคนไทยมาช้านาน...
อ้างอิง ข่าวเก่า https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2657065511269123&id=14031566...
ล่าสุด ได้ข่าวว่า david streakfuss จากมูลนิธิ ciee โดนถอนวีซ่า ทั้งๆ ที่อยู่เมืองไทยมา 35 ปี ทั้งที่ตนเองทำดี สอนหนังสือใน ม.ขอนแก่น จะบอกให้นะครับ David streakfuss นั้นน่ะครับ เป็นคนก่อตั้งอีสานเร็คคอร์ด ร่วมกับภรรยาชาวไทย ที่เป็น บก.ของ isaan record และเป็นคนสนับสนุน ไผ่ ดาวดิน เข้าสู่วงการเมืองนั้นแล
ประเด็น คือ David streakfuss อ้างว่า เขาไม่ได้เป็น CIA แต่อย่างใด แต่เขาแค่รับเงินมูลนิธิ NED เท่านั้น เรื่องนี้ลองไปติดตามหาข้อมูลที่ ประวิตร โรจนพฤกษ์ ได้ครับ ว่าแต่ NED มีความเป็นมายังไง เลยต้องไปหาข้อมูล https://www.ned.org/about/history/ (คือแคปไว้แล้ว ถ้ามันหายไปแปลว่ามันลบ) แล้วพบว่า มีการระบุเป็นภาษาอังกฤษว่า
ORIGINS In the aftermath of World War II, faced with threats to our democratic allies and without any mechanism to channel political assistance, U.S. policy makers resorted to covert means, secretly sending advisers, equipment, and funds to support newspapers and parties under siege in Europe. When it was revealed in the late 1960’s that some American PVO’s were receiving covert funding from the CIA to wage the battle of ideas at international forums, the Johnson Administration concluded that such funding should cease, recommending establishment of “a public-private mechanism” to fund overseas activities openly.
....
แปลเป็นไทยรวบรัดคือ ในปี1960 สหรัฐฯ ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐฯในนาม CIA พยายามสนับสนุนเงินทุนและอุปกรณ์ให้จัดทำหนังสือพิมพ์สื่อมวลชนในการทำสงครามข่าวอย่างลับๆ ให้พันธมิตรฝ่ายตนเอง (ที่เรียกว่าฝ่ายประชาธิปไตย) ที่อยู่ในยุโรป และตอนนั้นเพื่อความแนบเนียน จึงได้มีการก่อตั้งองค์กรสนับสนุนเงินทุนของรัฐในแบบเอกชนขึ้น ซึ่งก็คือ NED เพื่อใช้ในการต่อสู้ทางความคิดในสงครามข่าวสาร
และ “การวินาศกรรมทางความคิด” (อันนี่เติมเอง) ในภาพมีภาษาไทย ให้อากูเกิลแปลเอาเพื่อความรวดเร็ว
จริงๆ มียาวกว่านี้ ว่างๆ ก็อ่านๆ กันไป ใครมีแรงแคปไปอ่านไปพิมพ์แจกก็ได้ เพราะเดี๋ยวมันจะลบทิ้งไปซะก่อน
ประเด็นคือ David streakfuss ดันบอกปัดว่า ไม่ใช่ CIA แต่รับเงิน NED ก็คือ แปลว่า มึงรับเงิน CIA นั้นแหละ แล้วก็สารภาพกันออกมาเองว่า David streakfuss เป็น ศิษย์ของ ส.ศิวรักษ์ นั่นไง....!!!!!!! คือให้ตายสิ CIA ไม่เอี่ยวก็บ้าแล้ว
จะบอกให้ นี่แค่ตัวเดียวนะ จริงๆ ยังมีอีก ลองนึกถึง Agent “H” ฝรั่งสัญชาติมะกัน ที่ถูกแฉว่า อยู่เบื้องหลังม็อบสามนิ้ว มีการวางแผนกันอย่างดี มีการตั้งโค้ดเนม 5, 6, 7, 8, 9 เป็นตัวเลขแทนความหมายคนที่คอนโทรลอยู่ แบบนี้ก็ชัดเจนแล้วละนะว่า ม็อบคราวนี้ ใครเป็นคนถือรีโมต อีกแล้วนะ แซม”
ขณะเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หรือ “หมอวรงค์” รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“ #หยุดชักศึกเข้าบ้าน ล่าสุด มีข่าวว่า นายเดวิด สเตร็คฟัสส์ นักวิชาการชาวอเมริกัน ถูกมหาวิทยาลัยขอนแก่นยกเลิกสัญญาจ้าง ส่งผลให้วีซ่าทำงานของเขาสิ้นสุดไปด้วย
ผมจำได้ว่า ช่วงที่มีการดีเบตเรื่องมาตรา112 ทางสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (FCCT) เป็นผู้ระบุว่า หนึ่งในผู้ร่วมดีเบตกับฝ่ายเราคือ นายเดวิด สเตร็คฟัสส์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผมเป็นผู้คัดค้าน เพราะผมคิดว่า เรื่องมาตรา 112 เป็นเรื่องของคนไทย ควรให้คนไทยคุยกันเอง ชาวต่างชาติไม่เกี่ยว แต่ทางผู้จัดก็ขอไว้โดยอ้างว่า เชิญเขาไว้แล้ว เมื่อมีข่าวทางการไทยไม่ต่อวีซ่า ก็ไม่แปลกใจ
สิ่งที่ต้องเตือนสติคนไทย ให้รู้เท่าทัน เพราะนอกจากมหาวิทยาลัย ที่อ้างการจ้างนักวิชาการ ที่แฝงไปด้วยภารกิจล้มล้างสถาบัน ยังมีนักการเมืองที่มีภรรยาเป็นชาวต่างชาติ และอ้างการทำงานวิจัย ซึ่งเป็นงานวิชาการเช่นกัน ทำลายสถาบันของชาติด้วย
ขอเตือนนักการเมืองที่มีภรรยาเป็นชาวต่างชาติ คนไทยยินดีต้อนรับ แต่อย่าเอาภรรยาเข้ามาวุ่นวาย เรื่องการทำลายสถาบันของชาติ ด้วยวิธีการต่างๆ แม้กฎหมายไทยจะห้ามเนรเทศคนไทย แต่ไม่ห้ามการเนรเทศภรรยา ที่เป็นชาวต่างชาตินะครับ เพราะพฤติกรรมดังกล่าวไม่ต่างจากชักศึกเข้าบ้าน”
ด้าน นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือ เซฟ ดาวดิน แกนนำคณะราษฎรขอนแก่น กล่าวว่า นายเดวิด สเตร็คฟัสส์ เป็นนักวิชาการที่อยู่เมืองไทยมานาน เป็นนักวิชาการที่ศึกษาและเชี่ยวชาญด้านการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่มีผลงานทางวิชาการจำนวนมากและมีการเผยแพร่ผ่านสื่อชั้นนำระดับโลกหลายเล่ม ที่ผ่านมา โดยส่วนตัว รวมไปถึงแกนนำในระดับพื้นที่ต่างมีการพูดคุยกับนายเดวิดเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองของวิชาการ โดยที่การออกมาระบุว่า นายเดวิด ให้การสนับสนุน หรือคอยแนะนำและจัดรูปแบบการชุมนุม หรือการสนับสนุนทุนต่างชาติในการชุมนุมนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะการชุมนุมและการออกมาเคลื่อนไหวของนักศึกษาและคนที่รักประชาธิปไตยนั้นมาจากการร่วมกันสนับสนุนของประชาชนที่มีหัวใจที่ตรงกัน
“อ.เดฟ เคยมาสอน และได้เปลี่ยนกับนักศึกษาของ มข. หลายคน ซึ่งผมเองก็เป็น 1 ในนักศึกษาที่ได้เรียนและพูดคุยกับ อ.เดฟ ซึ่งต้องยอมรับว่า ด้วยผลงานด้านวิชาการและการเป็นนักวิชาการของ อ.เดฟ ที่หลายคนเคยอ่านและเคยพบเห็นผ่านสื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ดังนั้น การที่ มข.ออกมายกเลิกสัญญา โดยอ้างว่างานไม่คืบหน้านั้นไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมา ก็ใช้งานตามการจ้างงานและมาวันหนึ่งก็ยกเลิกสัญญาไป เพราะว่างานไม่คืบหน้า ซึ่งหากจะมองถึงอาจารย์ท่านอื่นๆ และนักวิชาการท่านอื่นๆที่เป็นชาวต่างชาติที่ มข. วันหนึ่งก็อาจจะถูกปลดและยกเลิกสัญญาจ้างแบบนี้ก็ได้ ดังนั้นในเรื่องนี้กลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องหารือกันและจัดกิจกรรมเพื่อตอบโต้การกระทำของ มข. และแสดงจุดยืนกับบุคคลที่รักในประชาธิปไตยที่เข้าใจในความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง”
นายวชิรวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า ยืนยันว่า นายเดวิดไม่ได้ให้การสนับสนุน คอยบงการ หรือดึงกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาหนุนการชุมนุมของคณะราษฎรแต่อย่างใด ซึ่งหากผู้ที่ออกมาพูดและกระทำการดังกล่าวซึ่งใครอยากที่จะทราบความจริง ตนเองก็พร้อมที่จะพูดคุยกับทุกคน
ทั้งนี้ นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือ เซฟ พร้อมสมาชิกประมาณ 5 คน เคยร่วมกันนำผ้าแดงที่มีข้อความว่า “ปฏิรูปสถาบัน” ไปผูกแทนธงชาติ พร้อมกับชักธงขึ้นสู่ยอดเสา ที่เสาธงหน้าตึกอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากนั้น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้ตั้งข้อหา “ร่วมกันกระทำการชัก หรือแสดงธงอันไม่สมควรต่อธงชาติ, ร่วมกันกระทำการใดๆอันมีลักษณะเป็นการเหยียดหยามต่อธง ซึ่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2522 (จากไทยโพสต์)
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ม็อบคณะราษฎร หรือ ม็อบ 3 นิ้ว หลายคนเชื่อว่า อาจมีขบวนการ “ล้มเจ้า” อยู่เบื้องหลัง เพราะทั้งข้อเรียกร้อง และการใช้เยาวชนคนรุ่นใหม่ออกมาเคลื่อนไหว พร้อมสโลแกนให้มันจบที่รุ่นเรา อาจไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ รวมทั้งจังหวะก้าวในการเคลื่อนไหว ที่มุ่งโจมตีเชิญสัญลักษณ์ของสถาบัน ดูเหมือนมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี
รวมถึงการเคลื่อนไหวของนักวิชาการในมหาวิทยาลัย ยังอาจมีการจัดตั้งบ่มเพาะกันมานานแล้ว ก็เป็นได้ เกี่ยวกับเรื่องปฏิรูปสถาบันฯ เห็นได้จากจำนวนนักวิชาการที่หนุนหลังม็อบ 3 นิ้ว
เหนืออื่นใด ถ้าสังเกตให้ดี การเคลื่อนไหวที่แหลมคมสอดรับกับม็อบใน กทม.มาตลอด ก็คือ ม็อบ 3 นิ้ว มข.นั่นเอง จึงไม่น่าแปลกใจ หากเรื่องนี้จะมีปรมาจารย์ 3 นิ้ว จัดตั้งกันมาอย่างยาวนาน
แล้วที่สุด การยกเลิกวีซ่า “เดวิด สเตร็คฟัสส์” ก็สะท้อนให้เห็น อย่างที่มีกระแสข่าวอยู่ในเวลานี้