เอ๊ะยังไง? “นิพิฏฐ์” ชัด ดร.อานนท์ มิใช่ปราชญ์แต่เป็นเปรต ทำให้สถาบันหม่นหมอง อีกฝ่ายย้อนเกล็ด ที่ให้คนไปตะโกนกลางโรงหนัง “ปรีดี ฆ่าในหลวง” ล่ะ เย้ย ลดนักโวหาร หวังว่าจะไม่สอบตกซ้ำ “แม่ยก ปชป.” ฮึ่มใส่ อย่าแตะต้อง “ชวน”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (16 เม.ย. 64) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ “อานนท์!!
โดยระบุว่า “อานนท์ !! เธอคงคิดว่า เธอสำเร็จวิชาสถิติ ดูฟ้าดูดาว ทำนายโชคชะตาได้ เธอคงภูมิใจว่า ครั้งหนึ่งเธอโด่งดังจากการได้ฆ่าเด็กทางทีวี แต่เรื่องนั้นปราชญ์มิได้สรรเสริญเธอหรอก เธอควรให้ความรู้กับเด็ก มากกว่าที่จะใช้สถานะที่เหนือกว่าเข้าข่มเด็ก เธอทำเหมือนผู้ใหญ่ที่ไล่เตะเด็กกลางตลาดสด อานนท์!! มิใช่ชัยชนะของเธอหรอก แต่เป็นความพ่ายแพ้ของเธอต่างหาก
อานนท์: เธอนี่แหละจะทำให้สถาบันสำคัญพลอยหม่นหมองด้วยอวิชชาของเธอ ด้วยการที่เธอสงวนความรักนั้นไว้เป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว และเธอบังอาจ กล่าวหาสำนักวิชาเก่าแก่สำนักหนึ่งว่า มิได้รักสถาบันหลัก ทั้งที่ สำนักนี้อยู่ค้ำชูประเทศนี้มาตลอด ศิษย์สำนักนี้ ยอมพลีชีวิตเพื่อสถาบันอันเป็นที่รักได้ทุกคน
อานนท์!! เธอสร้างความแตกแยก สร้างความร้าวฉานโดยเหตุอันไม่สมควรเลย เธอทำเพราะกิเลสที่หมักหมมใน กมลสันดาน ด้วยความอยากได้ใคร่ดีในชื่อเสียง และด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูงของเธอ
อานนท์ !! บัดนี้ เรารู้แล้ว เธอคือนักโหน โหนโน่น โหนนี่ สุดท้ายเธอบังอาจโหนฟ้า และแบ่งแยกดิน
อานนท์!! เราประจักษ์แล้ว ว่าเธอมิใช่ปราชญ์หรอก แต่เธอเป็นเปรตมากกว่า โทษของเธอเป็นมหันตโทษ เธอจะถูกลงโทษจากองค์พระแม่ธรณี-อานนท์ ! จงหยุดความอหังการ ของเธอเสีย ณ บัดนี้ หาไม่แล้ว ก็จงรอวันธรณีสูบเธอลงสู่นรก!!”
ขณะเดียวกัน ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า
“เรียน ท่านอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ผมอ่านที่ท่านเขียนถึงกระผม ด้วยความอนาถใจในโวหารแบบพรรคประชาธิปัตย์บางส่วน ซึ่งเก่งไปด้วยโวหารมากกว่าการกระทำ พรรคนี้พูดเก่ง ผลิตแต่นักพูดและดีแต่พูดมากเกินไปหรือไม่ จริงๆ คนทำงานก็มี ที่ทำงานอย่างเดียวไม่พูดมากเลยก็มี เช่น คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช
ผมไม่แน่ใจว่า ท่านมีผลงานดีเด่นขนาดไหน ขนาดที่ทำให้รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ สอบตก ล่มคว่ำคะมำไม่เป็นท่า
การที่ผู้อาวุโสระดับรองหัวหน้าพรรค ใช้โวหารระดับต่ำๆ ให้คนอื่นเป็นเปรต และหาว่า คนอื่นโหนสถาบัน ช่างไม่แตกต่างอะไรกับที่ นายไถง สุวรรณทัต อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ให้คนไปยืนตะโกนกลางโรงภาพยนตร์ว่า ปรีดี ฆ่าในหลวง
การที่ท่านออกมากล่าวหาว่า ผมทำให้สถาบันตกต่ำ และกล่าวว่า ผมโหนสถาบัน แสดงว่า ท่านไม่มีอะไรจะกล่าวหาแล้ว ไม่มีอะไรจะโต้ตอบแล้ว และแปลว่า สิ่งที่ผมทำเป็นประโยชน์มากจนมีคนที่มีทัศนคติในทางตรงกันข้าม ต้องออกมาเล่นงานผม กล่าวหาผม นี่ก็เป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัด
ผมไม่เคยคิดว่า ตัวเองเป็นปราชญ์ ผมไม่ยกหางตัวเองขนาดท่านอดีตรัฐมนตรีสอบตกและเวลาไม่ได้เป็นรัฐมนตรีในสมัยหนึ่งออกมากระฟัดกระเฟียดรุนแรงอย่างคนไร้วัฒนธรรมที่อกหักซ้ำแล้วซ้ำอีก ตำแหน่งคงหอมหวานและเป็นที่ต้องการมากกระนั้นหรือครับท่าน
ผมเรียกว่าท่าน ท่านเรียกผมว่าเปรต
ไม่เป็นไร เปรตจะอุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาให้ท่านนะครับ
กราบคารวะและขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
ปล ผมลืมเขียนไปว่า พรรคประชาธิปัตย์ ควรหาคนทำงานให้เก่ง ทำงานให้เป็น และพูดให้น้อยลง ชาวบ้านเขาเบื่อโวหารแล้ว มันไม่มีสาระ และไม่เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศชาติ
ขออวยพรให้ท่าน สอบผ่านในการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่จะเกิดขึ้น ไม่สอบตกซ้ำอีก เพื่อให้ท่านได้มีมูลค่าอะไรกะเขาบ้าง”
ด้าน เฟซบุ๊ก Kanjanee Valyasevi ของ นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ ติ๊งต่าง เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับ “แม่ยก ประชาธิปัตย์” โพสต์ข้อความระบุว่า “อานนท์บอกมีคนดักฟังโทรศัพท์”
โดยระบุว่า “อ่านแล้วขำไอ้คนจำพวกหลงตน
อานนท์แกเป็นใครมาจากไหน ไต่จากที่ใด สำคัญอะไรให้ต้องดักฟัง ฮาๆๆๆๆ
ใช้สมองอันน้อยนิดคิดก่อนโพสต์เถอะไอ้เตี้ย ตอนนี้ใครคุมอำนาจรัฐ ใช่พวกที่แกเชียร์อยู่หรือเปล่าจ้ะ
#ฉันขอสาปแช่งให้บาปกรรมที่ใครใส่ร้ายประชาธิปัตย์และผู้ใหญ่ในพรรค ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพรรคปกป้องคุ้มครองพรรค และไปหักคอไอ้คนชั่วที่มันกำลังบ้าใส่ร้ายพรรคด้วยเถิด
จบแค่สถิติ แต่คิดหมิ่นผู้หลักผู้ใหญ่ใน ปชป. ไม่ประเมินตนเลยว่า ความรู้แค่หางอึ่ง อานนท์ห่างชั้นคุณอภิสิทธิ์ไม่ว่าจะชาติกำเนิด และความรู้การศึกษา สติปัญญา จิตใจ
ที่สำคัญคือ อานนท์อย่าทะลึ่งแตะต้องคุณชวน จำใส่กะโหลกไว้นะ ว่าอย่าสะเออะกับคุณชวน”
ทั้งนี้ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ โพสต์เฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ว่า
“โทรศัพท์มือถือผมโดนดักฟังทั้งวัน เดี๋ยวเสียงหายไปเลย เดี๋ยวก็เสียงก้องไม่ชัด จู่ๆ ก็มีเสียงซ่าเสียงแทรก จากประสบการณ์ทำให้มั่นใจว่า วันนี้ถูกดักฟังแทบจะตลอดวัน แต่ใครดักฟังผม ผมไม่ทราบเหมือนกัน 5555”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าวิเคราะห์ ก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนี้ จึงนำมาสู่การเชื่อมโยงได้ว่า มีแผนการของคนบางฝ่ายในพรรค ต้องการจับมือกับพรรคคนแดนไกล เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ใครเป็นคนปล่อยข่าวนี้ออกมา
เพราะถ้าจะว่าไปแล้ว พรรคประชาธิปัตย์แบ่งออกเป็นอย่างน้อย “สองขั้ว” ใหญ่ มาตั้งแต่เมื่อครั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะขัดอุดมการณ์พรรคที่ไม่สนับสนุนเผด็จการทหารสืบทอดอำนาจ จนทำให้พรรคประชาธิปัตย์ พ่ายแพ้เลือกตั้ง แม้แต่ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นเสมือนเมืองหลวงของพรรค
จากนั้น ในการจดตั้งรัฐบาล คนในพรรคประชาธิปัตย์ ก็แตกแยกกันอีกครั้ง เมื่อบางส่วนในพรรคสนับสนุนให้เข้าร่วมรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่ารัฐบาลต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560
และหลังจากนั้น เลือดก็ไหลไม่หยุดมาตลอด โดยมีแกนนำพรรคหลายคนทยอยลาออกจากพรรค จนแทบเหลือแต่กลุ่ม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ พร้อมกันนั้น พรรคประชาธิปัตย์ ก็พยายามจะสร้างนักการเมืองเลือดใหม่ เข้ามาทดแทน จนกลายเป็นประชาธิปัตย์ยุดใหม่ไปแล้วก็ว่าได้
แต่ถึงกระนั้น ด้วยความเป็นพรรคเก่าแก่ และมีประวัติศาสตร์ยาวนานของพรรคประชาธิปัตย์ คนของพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่าจะมีความขัดแย้งภายในพรรค แต่ก็ไม่หมดสิ้นความภาคภูมิใจในพรรค และส่วนใหญ่ ต้องการแยกทางกับพรรคด้วยดี
ดังนั้น การที่ ดร.อานนท์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พรรคอย่างรุนแรง แถมยังพาดพิงผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคหลายคนในช่วงที่ผ่านมา จึงมีหลายคนออกมาตอบโต้ดังกล่าว
เหนืออื่นใด สิ่งเห็นได้ชัดอีกอย่างในพรรคประชาธิปัตย์ ก็คือ ความขัดแย้งที่มีอยู่อย่างสูง จนทะลักล้นออกมานอกพรรค และส่งต่อถึง ดร.อานนท์ และเรื่องราวที่ ดร.อานนท์ นำมาแฉ เป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นเรื่องจากคนอื่นที่ไม่ใช่คนในพรรค? ไม่อย่างนั้นคงไม่เชื่อมั่นในข้อมูลขนาดนี้
อย่าลืม แรกเริ่มทีเดียว ดร.อานนท์ เคยออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เหน็บ รัฐบาลพรรคน้า-หลาน ที่น้ากำลังจะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่หลานกำลังเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มคนที่ต้องการ “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” และอาจมีโอกาสเป็นหัวหน้าพรรคของฝ่ายนี้ด้วย...
หรือว่า สิ่งที่ ดร.อานนท์ เอาออกมาแฉ คือ การต่อสู้ขั้นแตกหักภายในพรรค ของแกนนำสองขั้วอำนาจที่เหลืออยู่? นับว่าน่าจับตามองอย่างยิ่ง!!!