อดีตโฆษก ปชป.ซัด “อานนท์” ถูกหลอกใช้ เป็นเบี้ยคนคดหวังยึด ปชป. ใส่ร้าย “อภิสิทธิ์” ไม่ให้หวนเป็นหัวหน้า ไม่ควรค่าเป็นครู ขาดศีลสมาธิปัญญา เต็มไปด้วยมิจฉาทิฐิ สร้าง hate speech เกลื่อนออนไลน์ ลั่นพระแม่ธรณีไม่ให้อภัยคนทรยศพรรค
วันนี้ (16 เม.ย.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง จดหมายเปิดผนึกถึงนายอานนท์ ผู้ไม่ควรค่าแก่การเป็นครูบาอาจารย์ มีเนื้อหาระบุว่า “หลายวันติดต่อกันที่นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ออกมาขย่มพรรคประชาธิปัตย์และลามปามไปถึงอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และอดีตนายกฯ ชวน หลีกภัย สองบุคคลเสาหลักสำคัญของพรรคให้เสียหาย ซึ่งก็มีผู้ที่มีหน้าที่ของพรรคตอบโต้ไปบ้างแล้ว ที่จริงผมไม่ยากพูดเรื่องนี้ แต่เห็นว่าการเคลื่อนไหวของนายอานนท์ สอดรับกับข่าวกรองที่ผมได้ยินมาอย่างมีนัยสำคัญว่ามีผู้คิดแผนการชั่วร้ายจะกลับมายึดพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง ลำพังนายอานนท์เป็นเพียงเบี้ยที่ถูกวางให้เดิน โดยอาศัยหวังจะที่ไปโด่งดังจากการที่ไปดีเบตชนะ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำม็อบราษฎร ในรายการทีวีช่องหนึ่ง ทำให้นายอานนท์หลงคิดว่าตัวเองเก่ง แต่หารู้ไม่ว่าการเอาสติปัญญาตัวเองซึ่งเป็นถึงครูบาอาจารย์ไปเปรียบเทียบกับเด็กนักศึกษาปี 1 และยังเยาะเย้ยถาถกางซ้ำ แทนที่จะให้ความรู้ให้สมกับวุฒิภาวะของอาจารย์ คนที่คิดได้เช่นนี้ถ้าสติปัญญาและวุฒิภาวะไม่บอบบางจริงคงทำไม่ได้ หนำซ้ำการโพสต์ข้อความส่วนใหญ่ผ่านโลกออนไลน์ล้วนแต่เป็น hate speech สร้างความเกลียดชังในสังคม แทนที่จะให้ข้อมูล ความรู้ ประเทืองปัญญาแก่ผู้คน
นายเชาว์ระบุด้วยว่า คนเป็นครูบาอาจารย์ไม่ใช่แค่มีใบปริญญามาการันตีความรู้ แต่ต้องเป็นผู้อุดมด้วยศีล สมาธิ และปัญญาด้วย แต่พฤติกรรมของนายอานนท์ขาดทั้งศีล สมาธิ และปัญญา ขาดศีลคือมากด้วยมิจฉาทิฐิ จึงใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ด้วยข้อความที่ผิดไปจากความจริง ไร้ซึ่งสมาธิที่จะทำให้มีสติรู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง ทำให้เอียงกะเท่เร่ จนส่งผลต่อการให้ความเห็นในทางสาธารณะแบบขาดวุฒิภาวะ เหมือนที่เคยให้ความเห็น แนะเด็กแก้ผ้าไปเรียน หลังออกมาเรียกร้องขอใส่ชุดไปรเวต ซึ่งไม่ใช่วิสัยของบัณฑิตพึงกระทำ ขาดปัญญา คือไม่รู้จักไตร่ตรองข้อมูลที่ได้รับมาว่ามีความเป็นจริงหรือไม่ จึงนำมาขยายผลแบบผิดๆ และตกเป็นเครื่องมือของผู้อื่นอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะถูกหลอกหรือเต็มใจให้หลอกก็ตาม การโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ โดยใช้นายอานนท์เป็นเครื่องมือพุ่งเป้ามาที่อดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการเอาภาพขณะจับมือกับนายธนาธรที่ลานโพธิ์ธรรมศาสตร์เมื่อการเลือกตั้งปี 62 ซึ่งนายบรรจง ชีวมงคลการ พิธีกรบนเวทีก็ออกมาแก้ให้แล้วว่าเขาเป็นคนบอกให้จับมือกันเองไม่มีอะไร ตลอดไปถึงประเด็นการเจรจากับพรรคเพื่อไทย เพื่อกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยโยงไปถึงนายพริษฐ์ วัชรสินธุ หลานชายว่ากำลังจะไปเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้เห็นว่าเป็นพวกที่ล้มเจ้า ซึ่งผมคิดว่าไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง อีกทั้งยังสะท้อนชัดว่านายอานนท์ขาดสติปัญญาจะแยกแยะระหว่างคำว่า “ปฏิรูป” กับ “ปฏิปักษ์” งมงายอยู่กับมายาคติของตัวเอง จนพุ่งเป้าทำลายทางเลือกอื่นที่ไม่ตรงกับความคิดตัวเองไปเสียทั้งหมด โดยไม่คิด วิเคราะห์ แยกแยะ
“ผมขอให้สติเป็นทานกับนายอานนท์ไปไตร่ตรองให้ดีว่ากำลังถูกหลอกใช้จากใครหรือไม่ เพราะเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเป็นแผนตีกันอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ไม่ให้กลับมาสู่ถนนการเมืองในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง เสี้ยมให้คนในพรรคทะเลาะแตกแยกกันเอง สร้างความเกลียดชังให้คนทั่วไปเข้าใจว่าอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์กำลังจะจับมือกับพรรคเพื่อไทยและพวกล้มเจ้า นี่คือเกมที่แยบยลของคนเก่าที่เคยคิดจะยึดพรรคประชาธิปัตย์แต่ไม่สำเร็จ ต้องออกจากพรรคไปตั้งพรรคใหม่ สุดท้ายถูกหักหลังลอยเท้งเต้งหมดหนทางไป จึงคิดการใหญ่อาศัยช่วงที่พรรคกำลังอ่อนแอ จะกลับมายึดพรรคอีกครั้งเพื่อใช้พรรคเป็นฐานต่อรองกับกลุ่มอำนาจ โดยลืมไปว่าประวัติศาสตร์ 76 ปี ของพรรคประชาธิปัตย์พระแม่ธรณีไม่เคยให้อภัยคนคิดคดทรยศทิ้งพรรคไปแล้ว ได้กลับมายิ่งใหญ่หรือรุ่งเรืองในพรรคอีก นี้คือความศักดิ์สิทธิ์ของพรรคประชาธิปัตย์ครับ” นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย