ไม่จบ! “อดีตรองอธิการ มธ.” ข้องใจ มธ.เปลี๊ยนไป! “ดร.เสรี” ซัด ห่วงศิษย์จริงใจแค่ไหน “ปธ.ลี้ภัย” จี้ กดดันศาล

น่าคิด! “อดีตรองอธิการ มธ.” ชี้ “ธรรมศาสตร์” เปลี๊ยนไป? “ดร.เสรี” ซัด อาจารย์ที่อ้างห่วงลูกศิษย์เรื่อง “สอบ-การเรียน” จริงใจแค่ไหน “ปธ.จรัล” เอาใหญ่ ปลุก กดดันศาล เพจแนวร่วมม็อบ 3 นิ้ว ดิ้นพล่าน “ยุติธรรมไม่มีอยู่จริง”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (13 มี.ค. 64) รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล ม.ธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า

“หลังเหตุการณ์นองเลือดจากการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ผู้ร่วมชุมนุมที่ไม่ใช่แกนนำ เข้าร่วมชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่หนีออกจากมหาวิทยาลัยไม่ทัน ล้วนถูกจับกุมด้วยกันทั้งสิ้น

ครั้งนั้น ศ.คุณหญิง นงเยาว์ ชัยเสรี รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ตระเวนไปตามที่ต่างๆ ที่มีนักศึกษาธรรมศาสตร์ถูกคุมขัง ช่วยประกันตัวออกมาเท่าที่จะทำได้ ผู้ร่วมชุมนุมเหล่านั้น ไม่ได้ทำผิดกฎหมายร้ายแรง จึงได้รับการปล่อยตัวมาได้โดยง่าย ครั้งนั้น ศ.คุณหญิง นงเยาว์ ได้รับการยกย่องจากชาวธรรมศาสตร์อย่างมาก

วานนี้ อาจารย์และผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์บางคน และอาจารย์และผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยมหิดลบางคน ร่วมกันยื่นขอประกันตัว รุ้ง เพนกวิน และ ไผ่ ดาวดิน ด้วยเงินสดคนละ 500,000 บาท ด้วยเหตุผลว่า เป็นช่วงเวลาสอบ นักศึกษาทุกคนซึ่งยังต้องถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ควรได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อไม่ให้ต้องเสียอนาคตทางการศึกษา

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ตำรวจพลร่ม ตระเวนชายแดน ใช้อาวุธสงครามสลายการชุมนุม และจับกุมนักศึกษาและประชาชนทั้งหมดที่เข้าร่วมการชุมนุม

ปัจจุบัน ตำรวจไม่ใช้อาวุธสลายม็อบ ไม่เคยจับกุมผู้เข้าร่วมชุมนุม จับกุมเฉพาะผู้ที่ทำผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้งเท่านั้น


เพนกวิน รุ้ง ไผ่ ดาวดิน ไม่ได้เพียงร่วมชุมนุม และแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่ทั้งๆ ที่รู้ว่า ผิดกฎหมาย ก็ไม่ยี่หระ ยังตั้งใจทำผิดกฎหมายอาญาทั้งมาตรา 112 และมาตรา 116 ต่างกรรมต่างวาระ คนละหลายกระทง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีหลักฐานที่เป็นคลิปวิดีโออย่างชัดแจ้ง เคยโดนจับกุม และได้รับการปล่อยตัวมาแล้ว ก็ยังคงไม่นำพา ยังทำผิดซ้ำอีก

กรณีของ รุ้ง เพนกวิน และ ไผ่ ดาวดิน จึงแตกต่างจากนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 อย่างสิ้นเชิง

จะถือว่า รุ้ง เพนกวิน และ ไผ่ ดาวดิน เป็นผู้บริสุทธิ์ตามหลักของกระบวนการยุติธรรมก็คงใช่ แต่คนที่ติดตามการเมืองทั้งประเทศต่างก็เห็นคลิปที่พวกเขาตั้งใจจาบจ้วง กล่าวหา ย่ำยี ล้อเลียน สถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างหยาบคาย รุนแรง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรียกได้ว่า ยังไม่เคยมีใครทำขนาดนี้มาก่อน

การกระทำเช่นนี้ เป็นการกระทำที่เหยียบย่ำความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ของประเทศจนเกินกว่าที่จะทนนิ่งเฉยอยู่ได้

ในสายตาของผู้จงรักภักดี และผู้ที่มีใจเป็นธรรม ไม่ลำเอียง พวกเขาไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์แน่นอน แต่ในสายตาผู้ที่ไม่เห็นว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ มีความสำคัญ รวมทั้งพวกที่ต้องการล้มล้างสถาบัน อาจมองอีกแบบ อีกทั้งยังประณามศาลว่า ไม่ให้ความเป็นธรรมอีกด้วย

แปลกที่บรรดาอาจารย์หลายคนก็เป็นผู้บริหาร โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่รุ้งและเพนกวินศึกษาอยู่ หากต้องการจะช่วย แทนที่จะผ่อนปรนให้กับนักศึกษา เป็นกรณีพิเศษ ให้มาสอบในภายหลังได้ หรือขออนุญาตจากราชทัณฑ์ จัดสอบให้ในเรือนจำ กลับมากดดันศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราว มิฉะนั้น นักศึกษาจะไม่ได้สอบ

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ผมรู้จัก ไม่ได้เป็นมหาวิทยาลัยของศักดินา แต่เป็นมหาวิทยาลัยที่เคารพในกติกา ยึดมั่นในความจริง ความถูกต้อง เที่ยงธรรม ผิดคือผิด ถูกคือถูก

บัดนี้ ไม่แน่ใจว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังคงเป็นเช่นเดิมหรือไม่

ผู้บริหารมหาวิทยาลัยช่วยตอบผม และศิษย์เก่าอาวุโสที่จงรักภักดีทั้งหลายด้วย ก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง”

เช่นเดียวกัน กรณีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล ยื่นขอประกันตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน อ้างเหตุผลเรื่องการเรียนและการสอบ แต่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวทั้ง 3 คน โดยระบุว่า ไม่มีเหตุต้องเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมนั้น


ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

“ขอแนะนำสำหรับอาจารย์ที่สอนนักศึกษาที่ติดคุกนะคะ

1. เอาตำราไปให้นักศึกษาทบทวนในคุก

2. แนะแนวข้อสอบสำหรับการทบทวนที่กระชับ

3. ให้สอบในคุก

4. ให้เขียนบทความแสดงความคิดเห็น (opinionated papet) แทน research paper คงพอที่จะประเมินความรู้เด็กๆ นะคะว่าจะให้ผ่านได้หรือไม่

ในเมื่อตอนศิษย์ออกมาชุมนุม ไม่เข้าเรียน และทำผิดกฎหมาย ก็ไม่เห็นอาจารย์ขยับอะไรเลยนี่คะ พอตอนนี้เด็กติดคุกเพิ่งจะคิดเรื่องห่วงเรียนห่วงสอบของลูกศิษย์

มันสายเกินไปแล้วค่ะ

ถามตัวเองเถอะ ว่าห่วงลูกศิษย์ด้วยความจริงใจแค่ไหน”


ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เฟซบุ๊ก Jaran Ditapichai ของ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานสมาคมนักประชาธิปไตยชาวไทยไร้พรมแดน ลี้ภัยในประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความ ระบุว่า

“ร่วมกันเขียนจดหมายถึง นางเมธินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา และ นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เสนอให้ปล่อยชั่วคราว อานนท์ เพนกวิน รุ้ง ไผ่ ไมค์ สมยศ ปติวัฒน์ แอมมี่ โตโต้ เพื่อความยุติธรรมทางคดีอาญา และเพื่ออนาคตของพวกเขา #สถาบันที่ทำลายอนาคตเยาวชน จะไม่มีอนาคต”

ด้าน เพจเฟซบุ๊กแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration เพจกลางการสื่อสารของกลุ่ม “ราษฎร2563” หรือ “ม็อบ 3 นิ้ว” โพสต์ข้อความ ระบุว่า

“ความยุติธรรมที่ไม่มีอยู่จริง! เมื่อศาลไม่ให้ประกันตัว รุ้ง-เพนกวิน-ไผ่”

ภายหลังศาลสั่งไม่ให้ประกัน นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน, น.ส.ปนัสยา หรือ รุ้ง นายจตุภัทร์ หรือ “ไผ่ดาวดิน” หลังกลุ่มอาจารย์ใช้หลักทรัพย์ประกันมากถึงคนละ 500,000 บาท โดยอ้างว่า การคุมขังกระทบกับการเรียน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการจัดสอบ และนักศึกษาจำเป็นต้องค้นคว้าข้อมูลเพื่อทำงานวิจัย

เมื่อการแสดงออกทางการเมืองตามวิถีประชาธิปไตยของนักศึกษาผู้เป็นอนาคตของชาติ กลับทำให้พวกเขาอาจสูญเสียอนาคตที่ตนควรจะได้รับ แล้วประเทศนี้ จะยังกล้าเรียกตัวเองว่า เป็นประเทศประชาธิปไตยได้อย่างไร”

แน่นอน, ประเด็นสำคัญ ไม่เพียงศาลไม่ให้ประกันตัวแกนนำหลักของม็อบ 3 นิ้ว ซึ่งอาจกระทบการเรียน การสอนของ อาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เท่านั้น

หากแต่เชื่อว่า ฝ่ายม็อบ 3 นิ้ว และคนที่สนับสนุนให้การหนุนหลังทั้งหลาย ก็ต้องหาทางต่อสู้ไปตามเกม โดยใช้ “เงื่อนไข” แกนนำถูกจับและไม่ได้ประกันตัว เป็นประเด็นต่อสู้เรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะ “มีคนสั่งไม่ให้ประกัน” เรื่องนี้มีคนเอามาพูดแล้ว แม้แต่ “รังสิมันต์ โรม” ส.ส.พรรคก้าวไกล

ชัดหรือไม่ คำว่า มีคนสั่งไม่ให้ประกัน! นั้นหมายถึงอะไร

จริงอยู่, ปัญหาการไม่ได้ประกัน ย่อมกระทบกับแกนนำที่ถูกคุมขัง อย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งในแง่ของการสิ้นอิสรภาพในการใช้ชีวิตปกติ การเรียน การสอบ ก็มีส่วน เพราะยังเป็นนักศึกษา

แต่ถามว่า ในช่วงที่ผ่านมา นักศึกษาเหล่านี้ สนใจและใส่ใจหรือไม่ ว่าการทำผิดกฎหมายนั้น จะมีผลต่อการเรียน และอนาคตของตัวเอง อย่าลืมว่า มีคนเตือนเรื่องนี้หลายครั้ง และคนที่เตือน ก็ถูกทัวร์ลง ถูกกล่าวหาต่างๆ นานา จนไม่มีใครอยากเตือนอีกแล้ว

รวมทั้ง คิดอย่างไร ใครสั่งสอน ไม่ให้เคารพ “เงื่อนไข” ประกันตัวก่อนหน้านี้หลายครั้ง อย่าลืมที่ศาลหยิบยกมาเป็นเหตุผลไม่ให้ประกันตั้งแต่แรก ก็คือ มีการทำผิดซ้ำในเรื่องเดิมหลายครั้ง และสร้างผลกระทบต่อจิตใจของผู้มีความจงรักภักดี

ดังนั้น ศาลยึดหลักกฎหมายและให้ความเป็นธรรมอย่างชัดเจน เพียงแต่ว่า การไม่ให้ประกัน มันมีแง่มุมที่จะต่อสู้ ของฝ่ายม็อบ 3 นิ้ว โดยเฉพาะการเสียบประจาน “ศาลไทย” ไปทั่วโลก ตามแนวถนัดของม็อบกลุ่มนี้

เหนืออื่นใด จับตาให้ดี อาจมีการชักศึกเข้าบ้านหรือไม่ กรณีดึงองค์กรประชาธิปไตย และองค์สิทธิมนุษยชน จากต่างประเทศ เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทย

ทั้งที่เป็นปัญหา “การทำผิดกฎหมาย” มิใช่ปัญหาการเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือ การชุมนุมทางการเมือง ซึ่งต้องแยกแยะให้ดี เพราะอย่าลืม แกนนำเสื้อแดง, แกนนำพันธมิตรฯ แกนนำ กปปส. ต่างมีบทเรียนให้เห็นแล้ว เกี่ยวกับปัญหาการทำผิดกฎหมายในช่วงของการชุมนุมทางการเมือง

อย่าบิดเบือนอีกเลย เพราะคนไทยไม่ได้โง่ทุกคน แค่อ้าปาก ก็เห็นลิ้นไก่แล้ว!!!