“เหมา” สอนไว้ “ไพศาล” ฟันธง กาเหว่า แนวทางการเมืองผิด “ดร.เสรี” จวกเละ พวก “มั่ว” ปมแกนนำ 3 นิ้ว ไม่ได้ประกัน “ประจักษ์” แผ่นเสียงตกร่องประกันเท่าเทียม “เพจดัง” ชกหมัดตรงหน้าหงาย ศาลเมตตาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่สำนึก
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (27 ก.พ. 64) เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ของ นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความระบุว่า
“เมื่อแนวทางการเมืองถูกต้อง ก็จะมีอำนาจรัฐ กองทัพและมวลชน
แต่ถ้าแนวทางการเมืองผิดพลาด มีอำนาจรัฐก็จะสูญเสียไป มีกองทัพและมวลชนก็จะสูญเสียไป (เหมาเจ๋อตุง)
ขบวนการกาเหว่า มีแนวทางการเมืองที่ผิดพลาด
คือแทนที่นำมวลชนขับไล่พวกโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวง ซึ่งก่อกรรมทำเข็ญแก่ประเทศชาติและราษฎร
กลับไปหลงเชื่อเล่ห์ร้ายของพวกนักล่าอาณานิคม แล้วคิดโค่นล้มเจ้า ซึ่งเป็นศูนย์รวมใจจงรักภักดีของประชาชาติไทย!!!
เพื่อเปิดประตูเมืองให้นักล่าอาณานิคมตั้งรัฐบาลหุ่นยึดประเทศไทย****
ซึ่งเกิดผลที่แท้จริงคืออุ้มชูนักการเมืองโกงชาติ ให้อยู่ในอำนาจ
ดังที่คุณเทิดภูมิ ใจดี นักรบของประชาชนคนสำคัญ ได้ชี้ไว้ว่า “ยิงศรผิดเป้า”
ดังนั้น กาเหว่า จึงมีแต่เล็กและน้อยถอยลง
และมีแต่ต้องเดินทางเข้าคุกกันเป็นทิวแถว!!!
ตอนนี้อับจนถึงขนาดที่ไหนมีคนเดือดร้อนมีม็อบ ก็จะไปสมทบกับเขาเพื่อสร้างภาพว่ามีมวลชนอยู่
แต่ถูกชิงชังรังเกียจ!!! เขาไม่ได้ชิงชังรังเกียจกาเหว่าหรอก
แต่เขาชิงชังรังเกียจแนวทางการเมืองล้มเจ้านั่นแหละ!!!!”
ขณะเดียวกัน ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า
“ระเบียบมี กติกามี เขาทำตามระเบียบ ถูกต้องตามเงื่อนไข ใครจะแซะ แขวะ ด่า ดรามาอะไร หาข้อมูลหน่อยก็ดีนะ จะได้ไม่ดูโง่ที่ไม่รู้อะไรที่ควรรู้ รวมทั้งชั่วที่จ้องด้อยค่าหาเรื่องคนอื่น
เวลาหาข้อมูลก็หาหลายๆ แหล่ง ไม่ใช่จมอยู่กับการโพสต์ใน Twitter ของคนบางคนที่จงใจใช้การบิดเบือนข้อมูลเพื่อชี้นำให้ผู้คนชังชาติ ชังสถาบันพระมหากษัตริย์
เห็นว่า เก่งการค้นหาข้อมูลใน Google กันนัก หลายระเบียบและกติกา ถ้าค้นหาก็จะเจอข้อเท็จจริงที่ต่างจากการโกหกของคนบ้าตาขวาง หลวงพ่ายทุกคดี ชะนีตอแหล เฒ่าโรคจิตทั้งหลาย
มีแหล่งข้อมูลให้ค้นหามากมาย และตัวเองก็เป็นวัยที่เก่งการใช้ digital tecnology ก็พยายามพัฒนาการหาข้อมูลให้สมกับความสามารถทางด้านเทคโนโลยีที่มีหน่อยนะ
จะเชื่อคำพูดใคร พิจารณาจุดยืนและเป้าหมายของเจ้าตัวหน่อยนะ ว่าพวกเขาต้องการอะไร สิ่งที่เขาพูดนั้นมันตรงกับความเป็นจริงเชิงประจักษ์หรือไม่เพียงใด
หรือที่พวกเขาพูดนั้นเป็นเพียงวาทกรรมหลอกใช้เยาวชนให้สนองความต้องการทางการเมืองของพวกเขา อย่าเป็นเบี้ยให้พวกเขาใช้ทำลายชาติเลยนะคะ คิดถึงอนาคตบ้างนะคะ
นอกจากนี้ ดร.เสรี ยังโพสต์อีกว่า “เปิดเนตรกันหน่อยนะคะ ศาลเขาให้ประกันตัวกี่ครั้งแล้ว เมื่อได้รับการประกันตัวออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำตัวแบบไหน ทำตามเงื่อนไขการประกันหรือเปล่า
ทำผิดแบบเดิมซ้ำซาก ท้าทายกฎหมาย จาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ มันก็ถึงวันที่เหตุการณ์ จับ-ปล่อยจะต้องยุติ พวกคุณจึงไม่ได้ประกัน แค่นี้มันเข้าใจยากนักหรือไร”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายประจักษ์ ก้องกีรติ นักวิชาการที่สนับสนุนการชุมนุมเคลื่อนไหว ของคณะราษฎร 2563 หรือ “ม็อบ 3 นิ้ว” โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ภายหลังศาลอุทธรณ์ ไม่ให้กันตัว นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม 4 แกนนำกลุ่มราษฎรว่า
“ล่าสุด เช้านี้ ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัว 4 แกนนำราษฎรอีกครั้ง - คงดีถ้าพวกเขาได้รับอิสรภาพ และครอบครัวมีโอกาสพบหน้าพวกเขาอีกครั้ง เหมือนที่แกนนำ กปปส.ได้รับสิทธิและโอกาสนั้นจากศาล #ประกันเท่าเทียม”
อย่างไรก็ตาม เพจ ประชาชนไซเบอร์ ได้ออกมาโพสต์ถึงประเด็นที่บรรดาแกนนำม็อบราษฎร วิพากษ์วิจารณ์กรณีศาลให้ประกันตัว 8 แกนนำ กปปส. แต่ไม่ให้ประกัน แกนนำม็อบราษฎรทั้ง 4 คน ว่า
“ศาลท่านเมตตาปล่อยตัวโดยไม่ต้องวางเงินประกัน แต่ห้ามปลุกม็อบ แล้วพวกคุณเคยทำตามที่ศาลสั่งมั้ย พอออกไปได้ก็ไปปลุกม็อบต่อ ออกไปชุมนุมต่อ ขนาดอยู่ในคุกก็ยังมีร่างที่สองโพสต์ปลุกระดมต่อเนื่อง ศาลท่านให้ความเมตตาทุกคนแหละ อยู่ที่ว่าจะสำนึกกับโอกาสที่ศาลท่านให้หรือไม่ ในเมื่อไม่สำนึกไม่หยุด ยื่นประกันให้ตายท่านก็ไม่เมตตา เพราะถือว่า หยิบยื่นโอกาสให้แล้ว แต่ไร้สำนึก อย่าเ..ื.อกมาตั้งถามว่า ความยุติธรรมอยู่ตรงไหน เพราะต่อให้ยุติธรรมแค่ไหน ถ้าไม่ถูกใจพวกคุณก็ไม่มีอะไรในโลกนี้ยุติธรรม”
นอกจากนี้ เพจดังกล่าว ยังไปขุดประเด็นข่าวเก่าๆ ที่ศาลเคยอนุญาตให้ประกันตัวแกนนำม็อบราษฎร ทั้ง เพนกวิน ทนายอานนท์ ไมค์ ระยอง และคนอื่นๆ อีกหลายครั้ง มายืนยันอีกด้วย (จากสยามรัฐออนไลน์)
แน่นอน, หลายคนคงเข้าใจอะไรหมดแล้ว เพราะเรื่องม็อบคณะไหนได้ประกันหรือไม่ได้ประกัน ทุกอย่างมันเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า เหตุผลที่ศาลอ้างฟังได้หรือไม่ เกิดอะไรขึ้นในการเมืองไทย
แต่เรื่องแค่นี้ ยังมีคนบางกลุ่มที่ดันทุรังไม่ฟังเหตุผล ด้วยคิดแต่ว่า สิ่งที่ตัวเองต่อสู้เรียกร้องทุกคนต้องมาสนับสนุน เพราะถ้าไม่ต่อสู้เรื่องนี้ ประเทศไทยจะตกเป็นทาสไปอีกนานแสนนาน ซึ่งก็เป็นเพียงวาทกรรมหลอกเด็ก เพราะเป็นทาสหรือไม่ อย่าลืมว่า 3 นิ้วไม่ใช่ศูนย์กลางคำตอบทั้งหมด
ต้องเคารพความเห็นต่างของคนส่วนใหญ่ด้วย ซึ่งหลายล้านคนที่เห็นต่าง ก็ล้วนมีการศึกษาสูง และอาจสูงกว่าคนที่มาแอบอ้างด้วยก็มี เขาไม่มีความคิดเลยหรือ???
ประเด็น จึงกลายเป็นว่า เมื่อสู้ในสิ่งที่คนไทยไม่เอาด้วย หรือที่ “ไพศาล” อธิบายให้เห็นว่า แนวทางการเมืองผิด กรณีปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเจอปัญหาวิบากกรรม เพราะตัวเองก่อคดีเอาไว้มาก รวมทั้งคดีหมิ่นสถาบันอย่างร้ายแรง
และเมื่อคนทำผิดต้องโดนดำเนินคดีอย่างเสมอภาค เท่าเทียม ภายใต้กฎหมาย จึงบิดเบือนต่อไปอีกว่า ถูกผู้มีอำนาจกลั่นแกล้งรังแก เพราะพวกตนต่อสู้เรียกร้อง “ปฏิรูปสถาบัน” เรื่องของเรื่องจึงวนเวียนอยู่กับความไร้เดียงสาทางการเมือง จนน่าเบื่อหน่าย
สุดท้ายก็อย่างที่หลายความเห็น ต่างสลดหดหู่อดสูใจ ที่จนป่านนี้แล้ว พวก 3 นิ้ว ยังไม่รู้ตัวเอง ยังไม่ยอมรับความจริง ว่าสู้เพื่ออะไร สู้กับอะไร (กับคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ) ไม่รู้สำนึก และไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ไม่แปลก ที่ยังมีคนอ้าง เรื่องสิทธิประกันตัวอย่างเท่าเทียม มากดดันศาล ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า คนละคดี คนละเรื่อง แม้จะเป็นการเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมืองเหมือนกันก็ตาม
ก็ต้องถามคนไทยว่า ยังคงไว้วางใจให้คนเหล่านี้มานำพาเปลี่ยนแปลงประเทศ อย่างที่พวกเขา “เสนอจุดขาย” อยู่ต่อไปหรือไม่!?