อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ข้องใจ ผู้บริหารและอาจารย์บางคนยังดันทุรังยื่นขอประกันตัว “รุ้ง-เพนกวิน-ไผ่-โตโต้” อ้างเรื่องสอบ แทนที่จะผ่อนปรนให้เป็นกรณีพิเศษ กลับมากดดันศาล แนะหัดเคารพกติกา ผิดคือผิด ถูกคือถูกเสียบ้าง
วันนี้ (13 มี.ค.) รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ถึงกรณีที่อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยื่นขอประกันตัว น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, นายพริษฐ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แล้วศาลไม่ให้ประกัน ว่า “หลังเหตุการณ์นองเลือดจากการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ผู้ร่วมชุมนุมที่ไม่ใช่แกนนำ เข้าร่วมชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่หนีออกจากมหาวิทยาลัยไม่ทัน ล้วนถูกจับกุมด้วยกันทั้งสิ้น
ครั้งนั้น ศ.คุณหญิง นงเยาว์ ชัยเสรี รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ตระเวณไปตามที่ต่างๆ ที่มีนักศึกษาธรรมศาสตร์ถูกคุมขัง ช่วยประกันตัวออกมาเท่าที่จะทำได้ ผู้ร่วมชุมนุมเหล่านั้น ไม่ได้ทำผิดกฎหมายร้ายแรง จึงได้รับการปล่อยตัวมาได้โดยง่าย ครั้งนั้น ศ.คุณหญิง นงเยาว์ ได้รับการยกย่องจากชาวธรรมศาสตร์อย่างมาก
วานนี้ อาจารย์และผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์บางคน และอาจารย์และผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยมหิดลบางคน ร่วมกันยื่นขอประกันตัวรุ้ง เพนกวิน และไผ่ ดาวดิน ด้วยเงินสดคนละ 500,000 บาท ด้วยเหตุผลว่าเป็นช่วงเวลาสอบ นักศึกษาทุกคนซึ่งยังต้องถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ควรได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อไม่ให้ต้องเสียอนาคตทางการศึกษา
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ตำรวจพลร่ม ตระเวนชายแดน ใช้อาวุธสงครามสลายการชุมนุม และจับกุมนักศึกษาและประชาชนทั้งหมดที่เข้าร่วมการชุมนุม ปัจจุบันตำรวจไม่ใช้อาวุธสลายม็อบ ไม่เคยจับกุมผู้เข้าร่วมชุมนุม จับกุมเฉพาะผู้ที่ทำผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้งเท่านั้น
เพนกวิน รุ้ง ไผ่ ดาวดิน ไม่ได้เพียงร่วมชุมนุม และแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่ทั้งๆ ที่รู้ว่าผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่ยี่หระ ยังตั้งใจทำผิดกฎหมายอาญาทั้งมาตรา 112 และมาตรา 116 ต่างกรรมต่างวาระ คนละหลายกระทง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีหลักฐานที่เป็นคลิปวิดีโออย่างชัดแจ้ง เคยโดนจับกุม และได้รับการปล่อยตัวมาแล้ว ก็ยังคงไม่นำพา ยังทำผิดซ้ำอีก กรณีของรุ้ง เพนกวิน และไผ่ ดาวดิน จึงแตกต่างจากนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 อย่างสิ้นเชิง
จะถือว่า รุ้ง เพนกวิน และไผ่ ดาวดิน เป็นผู้บริสุทธิ์ตามหลักของกระบวนการยุติธรรมก็คงใช่ แต่คนที่ติดตามการเมืองทั้งประเทศต่างก็เห็นคลิปที่พวกเขาตั้งใจจาบจ้วง กล่าวหา ย่ำยี ล้อเลียนสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างหยาบคาย รุนแรง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรียกได้ว่ายังไม่เคยมีใครทำขนาดนี้มาก่อน
การกระทำเช่นนี้ เป็นการกระทำที่เหยียบย่ำความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ของประเทศจนเกินกว่าที่จะทนนิ่งเฉยอยู่ได้ ในสายตาของผู้จงรักภักดี และผู้ที่มีใจเป็นธรรม ไม่ลำเอียง พวกเขาไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์แน่นอน แต่ในสายตาผู้ที่ไม่เห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์มีความสำคัญ รวมทั้งพวกที่ต้องการล้มล้างสถาบัน อาจมองอีกแบบ อีกทั้งยังประณามศาลว่าไม่ให้ความเป็นธรรมอีกด้วย
แปลกที่บรรดาอาจารย์ หลายคนก็เป็นผู้บริหาร โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่รุ้งและเพนกวินศึกษาอยู่ หากต้องการจะช่วย แทนที่จะผ่อนปรนให้กับนักศึกษา เป็นกรณีพิเศษ ให้มาสอบในภายหลังได้ หรือขออนุญาตจากราชทัณฑ์ จัดสอบให้ในเรือนจำ กลับมากดดันศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราว มิฉะนั้นนักศึกษาจะไม่ได้สอบ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ผมรู้จัก ไม่ได้เป็นมหาวิทยาลัยของศักดินา แต่เป็นมหาวิทยาลัยที่เคารพในกติกา ยึดมั่นในความจริง ความถูกต้อง เที่ยงธรรม ผิดคือผิด ถูกคือถูก บัดนี้ ไม่แน่ใจว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังคงเป็นเช่นเดิมหรือไม่ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยช่วยตอบผม และศิษย์เก่าอาวุโสที่จงรักภักดีทั้งหลายด้วย ก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง”