xs
xsm
sm
md
lg

อึมครึม! “นิพิฏฐ์” เชื่อ 3 ปัจจัยคว่ำแก้ รธน. “อัษฎางค์” ชี้ “แผลเนื้อใน” รัฐบาลพัง “อาจารย์ มธ.” ตื้อขอประกัน 3 นิ้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ แกนนำคณะราษฎร 2563 หรือ แกนนำม็อบ 3 นิ้ว ที่ส่วนใหญ่เป็น นักศึกษา มธ. จากแฟ้ม
จับตา 3 เรื่องใหญ่ ถล่มการเมืองไทย “นิพิฏฐ์” เชื่อไม่รอด 3 ปัจจัย คว่ำร่างแก้ไข รธน. “อัษฎางค์” ชี้ ม็อบ 3 นิ้ว ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ มีแต่ “แผลเนื้อใน” ทำพัง “อาจารย์ มธ.” ตื้อขอประกันศิษย์ อ้างต้องสอบและเรียนหนังสือ

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (11 มี.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ของ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รอง หน.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เกี่ยวกับกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อน ว่า ประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ว่า

“รัฐธรรมนูญ ร้อนๆ จ้า
- ในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัยว่า รัฐสภาสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้ แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ผ่านการลงประชามติจากประชาชน เรียกง่ายๆ ว่า ประชาชนเป็นผู้ “สถาปนา” รัฐธรรมนูญฉบับนี้

ดังนั้น เมื่อจะแก้ไขทั้งฉบับ จึงต้องถามประชาชน “ผู้สถาปนา” รัฐธรรมนูญเสียก่อนว่า เขาจะยอมหรือเปล่า และเมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ก็ต้องทำประชามติด้วยการถามประชาชนอีกครั้งหนึ่งว่า ที่แก้ไขมานั้น ประชาชนพอใจหรือเปล่า สรุปว่า ต้องประชามติ 2 ครั้ง

ภาพ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จากแฟ้ม
ปัญหาคือ
1. ทั้งประชามติ 2 ครั้ง, ทั้งเลือก ส.ส.ร., ทั้งร่างใหม่ทั้งฉบับ อีกทั้งต้องแก้ กม.ประกอบรัฐธรรมนูญอีกอย่างน้อย 3 ฉบับ จึงจะเลือกตั้งใหม่ได้ เวลาของสภาที่เหลืออยู่ 24 เดือน น่าจะไม่พอที่จะทำให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่

2. เป็นไปได้เหมือนกันที่ร่างน่าจะถูกคว่ำเสียก่อน ตอนลงประชามติครั้งแรกนี่แหละ

3. หรือสมาชิกรัฐสภาจะย้อนกลับไปแก้ไขรายมาตราเสียก่อน เพื่อให้ทันต่อการเลือกตั้ง ซึ่งแน่นอนว่า ต้องกระทบต่ออำนาจของ ส.ว. แล้ว ส.ว.จะยอมให้ผ่านหรือ ก็คงยากอีก เพราะคราวที่แล้วร่างของฝ่ายค้านก็ถูกคว่ำไปครั้งหนึ่งแล้วนี่

*ใครคิดต่อได้ ก็คิดต่อกันเอง เผือกร้อนๆ จ้า..

ส่วนปัญหาเกมต่อสู้ทางการเมืองระหว่างม็อบ 3 นิ้ว กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายนิพิฏฐ์ โพสต์ข้อความเตือนเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า

“...ประชาชนของเราต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายในสิ่งที่เรารู้อย่างผิวเผิน มารู้ตัวอีกทีสหภาพโซเวียตของเราก็ล่มสลายเสียแล้ว..” (กอร์บาชอฟ 2534 )

ภาพ นายอัษฎางค์ ยมนาค จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก อัษฎางค์ ยมนาค ของนายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์คลิปและข้อความ ระบุว่า

“ดร.อานนท์ พูดได้ครบจบจริง ผมนั่งดูไปอมยิ้มไป ทำไมเก่งได้ขนาดนี้
มีอยู่ 3 เรื่อง ที่ผมเคยเขียนโพสต์มานานแล้ว ซึ่งบังเอิญตรงกับที่ อ.อานนท์ ว่าไว้ ขออนุญาตเสริมเรื่องที่ อ.อานนท์ พูดไว้ในคลิปนี้ คือ

1) ธรรมชาติของม็อบจะค่อยๆ เพิ่มความรุนแรง และจะจบด้วยการนองเลือด

2) ถ้าม็อบหมดทางสู้ หมดมุกที่จะใช้ในการระดมคนและก่อม็อบ เขาจะพาตัวเองไปสู่การนองเลือด ซึ่งนั้นคือการสร้างความชอบธรรมให้กับเกิดการรัฐประหาร ซึ่งมันแปลว่า ม็อบที่ต่อต้านรัฐประหาร นั้นแหละที่เป็นตัวทำให้เกิดรัฐประหาร เพราะสถานการณ์ถึงทางตัน

3) รัฐบาลที่แข็งแกร่งจนใครทำลายไม่ได้ สุดท้ายจะถูกทำลายด้วยตัวมันเอง นั้นคือ รัฐบาลจะแตกจาก คำที่ อ.อานนท์ พูดว่า “แผลจากเนื้อใน” หรือคนในรัฐบาล นั้นแหล่ะ ที่เป็นจุดอ่อนที่ทำให้รัฐบาลพัง

ซึ่งถ้าใครติดตามประวัติศาสตร์จะเห็นภาพนี้มาตลอด กล่าวคือ ในประวัติศาสตร์ของประเทศทั่วโลก รัฐบาลในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของพระมหากษัตริย์ หรือของพระมหาจักรพรรดิ
หรือฮ่องเต้ในอดีต จะพังลงจากการรุกรานของกองทัพอันเกรียงไกรของประเทศเพื่อนบ้าน แต่ถ้ารัฐบาลนั้นมีความแข็งแกร่งยากที่ใครจะโค่นล้ม รัฐบาลนั้นก็มักก็จะถูกปฏิวัติทั้งจากขุนศึก หรือประชาชนในประเทศ และจะพังลงเพราะองค์พระประมุขหรือคนในรัฐบาลที่ไม่ได้ปกครองประชาราษฎร์โดยธรรม โกงกิงอย่างมูมมาม

หรือในยุคปัจจุบันยกตัวอย่างใกล้ๆ ตัว คือ รัฐบาลทักษิณนั้นแข็งแกร่งที่สุดรัฐบาลหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และที่รัฐบาลล้มลงมานั้น ไม่ใช่ฝีมือ ฝ่ายค้าน ไม่ใช่ม็อบ แต่เป็นเพราะตัว ทักษิณ ชินวัตร เพราะการคอร์รัปชันของเขาเองที่ทำให้รัฐบาลล้ม

ปัจจุบันรัฐบาล 3 ป. ก็เป็นอีกรัฐบาลที่แข็งเกรงที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ระวังจุดจบแบบพรรคไทยรักไทยให้มากๆ คือ การพังเพราะคนในรัฐบาล ไม่ใช่ฝีมือของม็อบ หรือฝ่ายค้าน

สรุปคือ รัฐบาลอาจพังเพราะม็อบ หรือไม่ก็พังเพราะตัวเอง

แต่มีแววเหลือเกินว่า ม็อบจะไม่มีความสามารถขนาดนั้น
เพราะฉะนั้นให้ระวัง “แผลจากเนื้อใน” ซึ่งดูน่าเป็นห่วงเหลือเกิน”

ภาพ การเคลื่อนไหวสนับสนุนม็อบ 3 นิ้ว และขู่หยุดสอนของนักวิชาการ และอาจารย์ มธ. จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน วันนี้ ผศ.ดร.บุญเลิศ วิเศษปรีชา อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

“วันพรุ่งนี้ ศุกร์ 12 มี.ค. เวลา 9.00 น. อาจารย์ที่สอนนักศึกษาที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ (รุ้ง-เพนกวิน-ไผ่) จะไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งขอประกันตัวอีกครั้ง (นอกจากยืนยันหลักการเรื่องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษา) จะไปแสดงเหตุผลถึงความจำเป็นด้านการเรียน ที่ มธ.สัปดาห์นี้ มีการสอบกลางภาค และการเรียนสมัยยุคนี้ นักศึกษาจะต้องค้นคว้าเขียนงาน ซึ่งไม่สามารถทำได้ในเรือนจำ

อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา (คณะที่รุ้งเรียน) จะไปกัน 4 ท่าน 4 วิชา ได้แก่ ผศ.ดร.จันทนี เจริญศรี (คณบดีที่เทอมนี้สอนรุ้งพอดี), รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโน, รศ.ดร.ธีระ สินเดชารักษ์ และ อาจารย์สิทธิโชค ชาวไร่เงิน ร่วมกับอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ได้แก่ อาจารย์ชญานิษย์ พูลธรัตน์ อ.ประจักษ์ ก้องกีรติ (ประกันเพนกวิน) และอาจารย์จากสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แก่ อ.ดร.พัทธีรา นาคอุไรรัตน์ และ อาจารย์อีกหนึ่งท่าน

นอกจากนี้ ยังมี ผศ.ดร.อดิศร จันทรสุข รองอธิการบดี ฝ่ายการนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รศ.ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร กับ ผม และอาจารย์ ท่านอื่นๆ ไปให้กำลังใจด้วย

ปล. การที่อาจารย์ไปประกันตัวนักศึกษาถือเป็นหน้าที่ครับ ให้เขาได้ออกจากเรือนจำ ส่วนผิดถูกก็รอศาลตัดสิน ระหว่างนี้ต้องถือหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ - ผมไม่คิดเยอะ”

แน่นอน, ทั้ง 3 เรื่องยังดูอึมครึมและคาราคาซังอยู่ อย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะมองมุมใดก็ตาม ทั้งยังถือว่า เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ที่ไม่เฉพาะแต่ปัญหาเศรษฐกิจเหมือนหลายประเทศ

ความจริง ถ้าจะว่าไปแล้ว ก็เป็นปัญหาที่คนไทยก่อขึ้นเองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาแทนที่นักการเมืองจะลงไปหาประชาชนเพื่อสร้างประชาธิปไตยพื้นฐานขึ้นมา พร้อมกับขายความคิดเรื่องปัญหาโครงสร้าง แต่กลับกลายเป็นว่า มีคนบางกลุ่มร้อนวิชา คนบางกลุ่มที่เป็นซ้ายอกหักมาจากอดีต คนบางกลุ่มที่หนีโทษหนีคดี ลี้ภัยในต่างประเทศ และสมคบกับองค์กรสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศ ร่วมกันปั่นหัวล้างสมองเยาวชนคนรุ่นใหม่ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อหลอกเด็กออกมาต่อสู้แทน ด้วยสโลแกน “ให้มันจบที่รุ่นเรา”

นั่นแสดงว่า พวกเขาไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยว่า ประชาชนคนยากคนจน คนชนบท หรือแม้แต่คนไทยทั้งประเทศ จะได้รับผลกระทบอย่างไร ขออย่างเดียวให้ได้ประท้วงเรียกร้อง และที่สำคัญ คนเหล่านี้รู้ทั้งรู้ว่า การต่อสู้ไม่ใช่เรื่องง่าย การต่อสู้อาจทำให้เยาวชนถึงขั้นติดคุก เสียอนาคต การต่อสู้อาจทำให้เกิดการนองเลือดและเสียชีวิต เพราะเป็นการต่อสู้กับศรัทธาของคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ อย่างดันทุรังแข็งขืน หักหาญ จะเอาให้ได้ นี่คือ ความจริง

แล้วก็เห็นทันตา แกนนำม็อบ 3 นิ้ว หลายคนมีคดีติดตัวเป็นหางว่าว โดยเฉพาะคดีที่แทบหาทางสู้ลำบาก เพราะพยานหลักฐานมัดแน่น ก็คือ ม.112 (หมิ่นสถาบัน) นั่นเอง

นี่คือ สิ่งที่อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กำลังเคลื่อนไหว ขอประกันตัว หลังจากก่อนหน้านี้ศาลไม่ให้ประกันมาหลายครั้ง เพราะมีพฤติกรรมขัดเงื่อนไขให้ประกันตัว

เรื่อง ปัญหาภายในรัฐบาล สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุด ก็คือ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ปัญหาหลงเหลิงอำนาจจนไม่รักษาความมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน และใช้ข้ออ้างดังกล่าวสืบทอดอำนาจ เรื่องเหล่านี้ อาจทำให้ประชาชนสุดที่จะทน และลุกฮือขึ้นมาโค่นล้มรัฐบาลก็เป็นได้

และปัญหาแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งประเด็นสำคัญอยู่ที่ การแก้หมวด 1 และ หมวด 2 (พระมหากษัตริย์) และการแก้ไขอำนาจ ส.ว. ซึ่งต้องใช้เสียง ส.ว.ในการโหวตผ่านด้วย จะฝ่าด่านสองด่านนี้ได้หรือไม่

ดังนั้น ปัญหาการเมือง กำลังจะเป็นเรื่องใหญ่ที่คนไทยจะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะไม่ว่าจะลงเอยอย่างไร หลีกไม่พ้นที่คนไทยจะต้องได้รับผลกระทบ ไม่มากก็น้อย คอยดู!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น