เจ็บลึก! “อดีตเพื่อนทอน” อัด นัก ปชต.แบบไหน ติดคุกก็สะใจ ได้ประกันก็ถากถาง “เนาวรัตน์” สุดคม นักคิดอยู่ นักสู้ตาย! “นิพิฏฐ์” เทียบจุดต่าง ทักษิณ-กปปส. ชัดแจ๋ว “รุ้ง” ครวญมองศาลผิด “โตโต้ VS กาณฑ์” ฟัดเดือด ปมสู้เพื่อเงิน?
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (26 ก.พ. 64) นายพิชิต ไชยมงคล หรือ “ตั้ม” อดีตเพื่อน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สมัยทำกิจกรรมนักศึกษา อดีตแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) จำเลยคดี กปปส. ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบพยานในชั้นศาล
โพสต์เฟซบุ๊กภายหลังศาลอนุญาตให้ประกันตัวอดีต 8 แกนนำ กปปส. ว่า ติดคุกก็สะใจ ได้ประกันก็ถากถาง เป็นวิถีนักประชาธิปไตยแบบไหนกัน
การที่แกนนำเดินหน้าพิสูจน์ตัวเอง ตามกระบวนการยุติธรรม จนถูกตัดสินจำคุก เป็นเรื่องที่ต้องเคารพไม่ใช่เหรอ
แต่พวกคุณกลับไม่มองในสิ่งที่เขายืนหยัด ตามกระบวนการยุติธรรม ตามความคิด ความเชื่อในการต่อสู้ ถึงแม้คุณจะไม่เชื่อในทิศทาง แต่ควรเคารพในการพิสูจน์ตัวเองของเขา
แต่สิ่งที่พวกคุณเคารพ กลับเป็นคนที่หนีคดีออกนอกประเทศ พวกคุณเชื่อคนเหล่านี้ ให้เกียรติคนเหล่านี้ได้อย่างไร แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเขาเองทำเลย เขาไม่เคารพความคิดตนเอง แต่พวกคุณเคารพเขา แล้วมาถากถางคนเดินขึ้นศาล ประชาธิปไตยเช่นไรกัน
ขณะเดียวกัน เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ เผยแพร่บทกวี เรื่อง “เทิดท้า” ระบุว่า
“เทิดท้า
อยุติธรรมมันตำตา
มันโถมท้าให้ลุกสู้
แสนอสัตย์ ล้านศัตรู
เถอะ! ใจสู้นี้พร้อมพรัก
ลวดหนามกำแพงหนา
ของเรากล้าเข้าโหมหัก
บทเรียนนี้แพงนัก
นักคิดอยู่ นักสู้ตาย!
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
25 ก.พ.2564”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
สิ้นเสียงคำพิพากษาของศาลในคดี กปปส. มีทั้งคนร่ำไห้ และคนหัวเราะเยาะ ในทางการเมือง ถือว่า กลุ่ม กปปส.อยู่ตรงข้ามกับกลุ่มคนที่ชื่นชอบคุณทักษิณ ชินวัตร ผมอยากยกตัวอย่าง ความเหมือน และ ความต่าง ของเรื่องนี้ ความเหมือน คือ ศาลที่ตัดสินจำคุกกลุ่ม กปปส. คือ ศาลสถิตยุติธรรม ศาลเดียวกับที่ตัดสินกลุ่มคนที่สนับสนุนคุณทักษิณ
ความต่างคือ กลุ่ม กปปส.เผชิญหน้ากับกระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้ กลุ่มสนับสนุนคุณทักษิณ ไม่เผชิญหน้ากับกระบวนการยุติธรรม เลือกที่จะหลบหนีไป
ความต่างคือ กลุ่ม กปปส.ไม่เคยก่นด่าว่า มีความยุติธรรม 2 มาตรฐาน แต่กลุ่มสนับสนุนคุณทักษิณ ก่นด่าว่า มีความยุติธรรม 2 มาตรฐาน ประการสุดท้าย หลังศาลตัดสิน กลุ่มสนับสนุน กปปส. เลือกที่จะเอามือซบกับหน้าแล้วร่ำไห้ กลุ่มสนับสนุนคุณทักษิณ เลือกที่จะหัวเราะเยาะอย่างสะใจ
*ประเทศนี้ เป็นประเทศเสรีครับ ท่านมีสิทธิที่จะร่ำไห้ และ ท่านมีสิทธิที่จะหัวเราะ แล้วแต่ความเชื่อของท่าน
รวมทั้ง “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี ก็โพสต์เฟซบุ๊ก ภายหลังศาลอนุญาตให้ประกันตัวอดีต 8 แกนนำ กปปส. เช่นกัน ระบุว่า
“ยินดีต้อนรับสู่อิสรภาพ
ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งให้ประกันลุงกำนัน และแกนนำ กปปส.ทั้ง 8 ท่านแล้วครับ
ผมเชื่อว่า ความเจ็บปวดที่ กปปส.ทุกท่านได้รับ กับการขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด โกงบ้านกินเมือง จะอยู่ในหัวใจของคนไทยทุกคนตลอดไป
ฝากเตือนรัฐบาลและนักการเมืองปัจจุบันทุกท่านด้วยว่า ทุกอย่างล้วนต้องแลกกับชีวิต เลือดเนื้อของประชาชน
ดังนั้น ต้องหยุดโกง หยุดเพื่อพวกพ้อง ต้องเพื่อประชาชน แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง.”
ด้าน “รุ้ง” นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มราษฎร โพสต์โพสต์บุ๊ก ภายหลังอดีต 8 แกนนำ กปปส.ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า
“ตอนเด็กๆ เคยคิดว่า ศาลคือผู้ปกป้องและรักษาความยุติธรรม พอโตมาถึงได้รู้ว่าไม่ใช่เลย”
นอกจากนี้ จากกรณี นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ “โตโต้” หัวหน้าการ์ดวีโว่ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า
“ผมปล่อยผ่านมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ผมเตรียมทนายฟ้องแน่นอนครับ และจะแจ้งความที่กาฬสินธุ์ เพราะตอนนี้ผมอยู่กาฬสินธุ์ พอดี โดยแชร์ข้อความหน้าเฟซบุ๊กของนายศศิพัฒน์ พงษ์ประภาพันธ์ หรือ “กาณฑ์” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง แนวร่วมคณะราษฎร ที่ระบุว่า กลุ่มการ์ด We Volunteer แอบมีการตกลงรับเงินจากนายทุนท่านหนึ่ง และเปิดรับเงินบริจาคระดมทุนต่อไปโดยไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเงินที่ได้เอาไปใช้โปร่งใสแค่ไหน
ล่าสุด นายศศิพัฒน์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า เข้าทางอิชั้นพอดีเลยค่ะ เห็นม็อบมา 20 ปี ตั้งแต่พันธมิตรฯ ยันม็อบนักศึกษา เพิ่งเคยเจอแกนนำฟ้องผู้ชุมนุมนะเนี้ย ประชาชนจะได้เห็นว่าไม่ได้มีแค่ ปารีณา พุทธิพงษ์ รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ และพวกเผด็จการ ที่ใช้กฎหมายไล่ปิดปากประชาชน โตโต้ก็ทำเช่นเดียวกัน
ก็ดีนะคะ ดิชั้นจะได้เตรียมเขียนหนังสือขอหมายตรวจจำนวนเงินบริจาคในบัญชี ช่วยทำความสะอาดกลุ่มของคุณโตโต้ว่า โปร่งใสจริงหรือไม่ ถ้าบริสุทธิ์จริง โชว์บัญชีเลย กลัวไรอ่ะ เขียนให้ได้นะ สำนวนอ่ะ เอาใจช่วย นี่อ่านโพสต์ตัวเองวนสามรอบแล้วก็อยากฟ้องตัวเองเหมือนกันนะ 555 มาเลยค่ะ อยากโดนโตโต้ฟ้อง
แน่นอน, สิ่งที่สังคมไทยเห็นชัดขึ้นทุกวัน ไม่ว่าการต่อสู้เคลื่อนไหวทางการเมือง จะอ้างอุดมการณ์ ลัทธิทางเลือกแบบไหน แต่สิ่งที่แสดงออก ก็ไม่ต่างจากการเมืองน้ำเน่าแบบเดิม แม้แต่น้อย
เห็นได้จาก กรณี “ตั้ม-พิชิต” หยิบยกมาให้เห็น คือ การแสดงความสะใจเมื่อฝ่ายตรงข้ามถูกตัดสินจำคุก กรณี กปปส. การแสดงข้อคิดความเห็นถากถาง เหน็บแนม เมื่อได้รับประกันตัว รวมทั้งการกล่าวหา ใส่ร้ายป้ายสี เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามที่ตัวเองคิด อย่างที่ “รุ้ง” พาดพิงศาล และกระแสที่มีการกล่าวหา “สองมาตรฐาน”
ถามว่า อะไรคือ “การเมืองใหม่” อะไรคือ พัฒนาการที่ทำให้เห็นว่า หลุดพ้นจาก “น้ำเน่า” หรือพัฒนาขึ้น และอะไรคือ สิ่งที่นักประชาธิปไตย ควรแสดงออก ไม่เคยเห็นเลย
จริงอยู่ อาจเห็นประเด็นการต่อสู้ที่ใหม่กว่าเดิม คือ ปฏิรูปสถาบันฯ แต่ดันไปเหยียบอกคนไทยส่วนใหญ่ และก็ย่ำอยู่อย่างนั้นจนสุดทน
นี่คือ สิ่งที่นักการเมือง ไม่เคยสร้างสรรค์จรรโลงให้เห็น ไม่ว่าจะระดับหัวขบวนต้นคิด “จุดขาย” กับสังคมไทย ไปจนถึงพวกหางแถวสาวก “ซอมบี” ทั้งหลาย ที่นับวันก็ยิ่งเลวร้ายกว่าน้ำเน่าไปอีก ด้วยเกม “ล่าแม่มด” และทัวร์ลง คนเห็นต่าง อย่างไม่ต้องการเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น
ที่น่าเศร้าไปกว่านั้น คือ สังคมไทย ได้แต่มองสิ่งที่เกิดขึ้นตาปริบๆ เพราะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่า การยอมจำนนกับคำว่า กระบวนการควบคุมทางสังคม มือกฎหมาย เอื้อมไปจัดการไม่ถึง แม้ไม่อยากปล่อยก็ต้องปล่อย เลยตามเลย?
เหนืออื่นใด การต่อสู้ทางการเมืองแบบที่เป็นอยู่ มันกำลังเรียกร้องสูงถึงขั้น “ปฏิรูปสถาบัน” และเปลี่ยนแปลงประเทศด้วย อะไรจะเกิดขึ้น คนไทยก็น่าจะมองออกอยู่แล้ว หรือไม่จริง
