“บิ๊กวิน” สนองมหาดไทย เซ็นจ่ายเบี้ยสู้โควิดแทนโบนัส รายละ 1.2 หมื่น แจก ขรก./สารพัดลูกจ้าง กว่า 9 หมื่นคนใน 77 หน่วยงานสังกัด คาดเตรียมดึงเงินโบนัสก้อนเดิม 1 พันล้านที่ สตง.ทักท้วงห้ามแจกจากงบกลางปี 64 หมวดเงินรางวัลและเงินช่วยเหลือสำหรับผลการปฏิบัติราชการประจำปีมาจัดสรรใหม่ ย้ำ! ให้แต่ละหน่วยงานเบิกจ่ายได้ทันที
วันนี้ (1 มี.ค.) มีรายงานจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานร เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามอนุมัติงบกลางของ กทม.ซึ่งเป็นงบประมาณประจำปี 2564 จำนวน 1,020 ล้านบาท เพื่อจัดสรรให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และลูกจ้างโครงการของ กทม. รายละ 12,000 บาท เป็นค่าตอบแทนพิเศษกรณีเกิดสาธารณภัยโรคโควิด-19 โดยให้แต่ละหน่วยงานเบิกจ่ายได้ทันที
การอนุมัติงบกลางครั้งนี้ อ้างว่าเมื่อสิ้นปี 2563 คณะกรรมการจัดสรรเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ 2563 มีมติเห็นควร “ไม่จัดสรรเงินรางวัล” ประจำปีงบประมาณ 2563 ให้แก่ข้าราชการ และลูกจ้าง กทม. เนื่องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบรายงานการเงินสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2562 ของ กทม.เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินรางวัลประจำปี ประกอบกับสภาพการณ์ขณะนั้น กทม.ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สตง.จึงมีข้อเสนอแนะให้ กทม.พิจารณาจ่ายเงินรางวัลประจำปี จากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีเดียวกับปีที่ได้ขอรับการประเมิน พร้อมทั้งปรับปรุงแผนการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดสรรและการจ่ายเงินรางวัล ภายหลังดำเนินการจัดทำงบแสดงฐานะการเงิน การปิดบัญชีรายรับ-รายจ่าย และการรายงานการเงินประจำปีให้แล้วเสร็จก่อนจ่ายเงินรางวัลประจำปีให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างข้อเสนอแนะดังกล่าว เป็นแนวทางที่ข้าราชการส่วนท้องถิ่นถือปฏิบัติ ทำให้ กทม.ควรดำเนินการให้สอดคล้องกับข้อเสนอแนะดังกล่าว
ส่งผลให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวมีมติเห็นควรไม่จัดสรรเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ 2563 ให้แก่ข้าราชการและลูกจ้าง ประกอบกับก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายให้หน่วยราชการต่างๆ ไปจัดสรรงบประมาณของหน่วยเพื่อช่วยเหลือข้าราชการเป็นค่าตอบแทนกรณีพิเศษช่วงเหตุการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะที่เมื่อต้นปี นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ เพิ่งยื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมหาดไทย ขอให้เร่งจ่ายค่าโบนัสให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างกรุงเทพมหานคร และพิจารณาเงินค่าเสี่ยงภัยเพิ่มเติมให้กับคนงานที่มีความเสี่ยงภัยใกล้ชิดกับโรคโควิด-19 โดยขอให้ใช้งบประมาณปีงบประมาณ 2564 เพื่อเป็นเงินรางวัลและเงินช่วยเหลือจำนวน 1,050 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในส่วนของงบกลางตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
สำหรับจ่ายเงินโบนัสให้กับข้าราชการและลูกจ้าง กทม.ที่ปัจจุบันมีประมาณ 90,000 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 30,000 คน ข้าราชการครู 10,000 คน และลูกจ้างอีก 50,000 คน โดยเสนออัตราการจัดสรรให้ในอัตรา 0.5 เท่าของเงินเดือน ให้กับ 77 หน่วยงาน ที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับดี-ดีมาก คะแนน 4.473-4.908 คะแนน จะได้รับอัตราการจัดสรรเงินรางวัลระดับหน่วยงาน 0.5 เท่าของเงินเดือน โดยคณะกรรมการจัดสรรเงินรางวัลเห็นชอบแล้วเมื่อเดือน ธ.ค. 2563
“ขอให้ พล.อ.อนุพงษ์ สั่งการเร่งรัด กทม.ให้จ่ายโบนัสแก่ข้าราชการและลูกจ้างประมาณ 90,000 คน โดยด่วนที่สุด และควรพิจารณาเพิ่มค่าเสี่ยงภัยโควิด-19 เพิ่มเติมให้พนักงานที่มีความเสี่ยงสูงดังกล่าวข้างต้น” นายวัชระกล่าวระหว่างยื่นหนังสือในครั้งนั้น
ทั้งนี้ ตามเอกสารงบประมาณตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ระบุถึงงบกลางที่ขอจัดสรรงบไว้ 14,207,857,245 บาท ประกอบด้วย 1. เงินสำรองจ่ายทั่วไป กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 115,156,845 บาท 2. เงินสำรองจ่ายทั่วไป กรณีค่าใช้จ่ายต่างๆ เกี่ยวกับน้ำท่วม จำนวน 125 ล้านบาท 3. เงินสำรองจ่ายทั่วไป กรณีค่าใช้จ่ายเพื่อการพัฒนากรุงเทพมหานคร จำนวน 300 ล้านบาท 4. เงินช่วยเหลือข้าราชการและลูกจ้าง จำนวน 2,700 ล้านบาท 5. เงินบำเหน็จลูกจ้าง จำนวน 1,035 ล้านบาท
6. ค่าติดตั้งไฟสาธารณะ จำนวน 100 ล้านบาท 7. เงินสำรองสำหรับค่างานส่วนที่เพิ่มตามสัญญาแบบปรับราคาได้ จำนวน 10 ล้านบาท 8. เงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากร จำนวน 320,756,400 บาท 9. ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับภารกิจและหรือนโยบายที่ได้รับมอบจากรัฐบาล จำนวน 3,975,618,000 บาท 10. เงินรางวัลและเงินช่วยเหลือ สำหรับผลการปฏิบัติราชการประจำปี จำนวน 1,050 ล้านบาท
11. เงินสำรองสำหรับภาระผูกพันที่ค้างจ่ายตามกฎหมาย จำนวน 1,500 บาท 12. เงินช่วยค่าครองชีพผู้ได้รับบำนาญของกรุงเทพมหานคร จำนวน 220 ล้านบาท 13. เงินสำรองสำหรับจ่ายเป็นเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการกรุงเทพมหานคร จำนวน 2,756,326,000 บาท
มีการคาดว่า “เงินค่าตอบแทนพิเศษ” กรณีเกิดสาธารณภัยโรคโควิด-19 จำนวน 1,020 ล้านบาท จะใช้งบกลางในหมวดเงินรางวัลและเงินช่วยเหลือ สำหรับผลการปฏิบัติราชการประจำปี ที่ กทม.ได้ขอจัดสรรไว้จำนวน 1,050 ล้านบาท