xs
xsm
sm
md
lg

งง! “อสม.ดูแลคนชรา” แห่ลาออกโครงการเงินกู้พันล้านสู้โควิด สตง.โร่ถามตัวเลขจริงผู้ร่วมโครงการ พ่วงเหตุลาออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



งง! “อสม.ดูแลคนชรา” โครงการมหาดไทย จากเงินกู้สู้โควิด 1 พันล้านบาท แห่ลาออกไปประกอบอาชีพอื่น ทำ “อัตราค่าตอบแทน” ไม่สอดคล้องกับภาระงาน ด้าน สตง.โร่ขอรายงาน สถ. ถามผู้ร่วมโครงการยื่นลาออกเป็นรายเดือน เผย มท.เคยรายงานจำนวนผู้สมัคร พบต่ำกว่าเป้าหมาย มีผู้สมัคร 12,205 ราย จากเป้าหมาย 15,548 ราย แถมเบิกจ่ายพลาดเป้า 126.47 ล้านบาท จากวงเงินโครงการ 1,080.59 ล้านบาท

วันนี้ (5 ก.พ.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย เพื่อประสานขอให้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น (อสม.ดูแลคนชรา) ทั่วประเทศ และจำนวนอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นที่ยื่นหนังสือลาออกเป็นรายเดือน

ล่าสุด กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ที่กำกับโครงการดังกล่าวมีหนังสือขอให้ สถ.จังหวัดเริ่มรายงานข้อมูลดังกล่าวให้ สตง.รับทราบตั้งแต่เดือนที่ปฏิบัติงานเป็นต้นไปจนสิ้นสุดระยะเวลา ปฏิบัติงานตามโครงการฯ และให้รายงานครั้งแรกภายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 นี้

สำหรับการขอให้รายงานข้อมูลดังกล่าว สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ครั้งที่ 1/2563 ที่กระทรวงการคลัง ครั้งล่าสุด มีการสรุปการเบิกจ่ายงบประมาณ “โครงการภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รอบที่ 1 (กรอบวงเงิน 1 ล้านล้านบาท) ในส่วนของกระทรววมหาดไทย วงเงินรวม 8,570.39 ล้านบาท ข้อมูล ณ วันที่ 7 ธ.ค. 2563

โดยเฉพาะโครงการใน “แผนงานย่อย 3.3” แผนงานส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนและเอกชน ประกอบด้วย โครงการอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานหน่วยงานรับงบประมาณโครงการฯ ตามกรอบวงเงิน 1,080.59 ล้านบาท พบว่า เบิกจ่ายพลาดเป้าหมาย 126.47 ล้านบาท

กระทรวงมหาดไทยรายงานครั้งนั้นว่า จำนวนผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการพบว่าต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากเริ่มจ้างอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น (อสม.บริบาลท้องถิ่น) เมื่อเดือน พ.ย. 2563 ได้ทั่วประเทศจำนวน 12,205 ราย จากเป้าหมาย 15,548 ราย และมีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวนมากยื่นหนังสือขอลาออกเพื่อไปประกอบอาชีพอื่น ทำให้อัตราค่าตอบแทนไม่สอดคล้องกับภาระงาน

ขณะที่การพ้นจากจากเป็น อสม.บริบาลท้องถิ่นจะต้องยื่นหนังสือแจ้งความประสงค์ลาออกต่อ อปท.ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน

สำหรับหนังสือที่ สถ.แจ้งแนวทางจ่ายค่าตอบแทน อสม.บริบาลคนชรา ไปเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2563 ตอนหนึ่งของหนังสือระบุว่า กรณีผู้เข้ารับการอบรมไม่ผ่านหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุขั้นกลาง จำนวน 70 ชั่วโมง ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย จึงมีความจำเป็นต้องเรียกเก็บค่าใช้จ่ายแก่ผู้เข้ารับการอบรม ซึ่งทางราชการเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายดังกล่าว โดยผู้เข้ารับการอบรมครบตามระยะเวลาการกอบรมที่จังหวัดกำหนด แต่ไม่ผ่านการอบรมหลักสูตรดังกล่าว ให้จังหวัดพิจารณาคิดค่าใช้จ่ายแก่ผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 9,500 บาทต่อคน หรือผู้เข้ารับการอบรมเข้ารับการฝึกอบรมไม่ครบตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผนการึกอบรม ในช่วงวันและเวลาใดของจังหวัด ให้จังหวัดพิจารณาคิดค่าใช้จ่ายจากผู้เข้ารับการอบรมฯ ตามสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปแล้วแก่ผู้เข้ารับการอบรมฯ โดยไม่รวมค่าตอบแทนวิทยากร เพื่อคืนเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้แก่จังหวัด

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือน ส.ค. 2563 ปีที่แล้ว กระทรวงมหาดไทยมีหนังสือซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการขับเคลื่อนโครงการถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยยืนยันว่า อสม.สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ เนื่องจากคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นของ อปท.และการเบิกค่าใช้จ่าย พ.ศ. 2562 ไม่มีกำหนดข้อห้ามไว้แต่อย่างใด แม้ อสม.จะได้รับค่าป่วยการ รายละ 1,000 บาท ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว

“อสม.หลายคนเป็นผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุขั้นกลาง จำนวน 70 ชั่วโมง ที่ได้รับอนุมัติหลักสูตรจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว”

โครงการนี้มีระยะเวลาเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 21 ก.ค.2563 และสิ้นสุดรับสมัครไปเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2563 ดำเนินโครงการ ระหว่างเดือน ก.ค. 2563 - ก.ย. 2564 แห่งละ 2 คน รวมจำนวน 15,548 คน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีค่าตอบแทนให้ผู้ผ่านการฝึกอบรม ของเทศบาล และ อบต. 7,774 แห่ง แห่งละ 2 คน คนละ 5,000 บาท ระยะเวลา 12 เดือน


กำลังโหลดความคิดเห็น