ส.ส.หญิงเพื่อไทย ลากไส้ยอม “คิงส์เกต” ยกที่ดินสัมปทาน 4 แสนไร่ แลกถอนคดี ถามจี้ใจ อัดปากบอกห่วงใยสุขภาพ ปชช. กลับเปิดทางให้ทำเหมืองต่อ
วันนี้ (17 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลของพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันที่ 2 ในช่วงเช้า ยังคงเป็นประเด็นเกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
น.ส.จิราภร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงกรณีความล้มเหลวในการบริหาร และไม่ขอไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต่อเนื่องถึงกรณีการใช้อำนาจในมาตรา 44 ของธรรมนูญชั่วคราวในการสั่งปิดเหมืองทั่วประเทศ รวมถึงยกเลิกสัมปทานบัตรการทำเหมืองทองของบริษัท อัครา ไมนิ่ง ที่กินพื้นที่รอยต่อ จ.เพชรบูรณ์, จ.พิจิตร และ จ.พิษณุโลก ซึ่งบริษัทลูกของบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย โดยไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมายสากล ทั้งที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งในกระทรวงอุตสาหกรรมและต่างประเทศได้ทักท้วงแล้วว่าเสี่ยงต่อการถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย และต่อมาก็ถูกบริษัท คิงส์เกต ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจริงๆ คิดเป็นมูลค่าเบื้องต้น 2.53 หมื่นล้านบาท โดยมีการสู้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการที่เรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐบาลไทย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เคยประกาศว่าจะรับผิดชอบกรณีนี้แต่เพียงผู้เดียว แต่พอบริษัท คิงส์เกตฯ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย กลับมีการเจรจาต่อรองให้บริษัทดังกล่าวถอนฟ้องโดยแลกกับสิทธิสัมปทานที่ดินในไทยที่มีเนื้อที่กว่า 4 แสนไร่ ให้กับบริษัท คิงส์เกต พร้อมอนุญาตให้ขายผงแร่ทอง ผงแร่เงินที่ถูกอายัดไว้ เป็นการเอาผลประโยชน์ชาติแลกกับการถอนฟ้องใช่หรือไม่ ทั้งนี้ แนวโน้มประเทศไทยมีโอกาสแพ้คดี 100% เพราะเราต้องจ่ายค่าโง่โดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง ทั้งรูปแบบของการแพ้คดี หรือ นำทรัพยากรประเทศไปแลก มูลค่ามหาศาล โดยแลกกับสิ่งเดียว คือ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถรักษาอำนาจ รักษาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป รวมถึงพ้นความผิดโดยเอาอนาคตของชาติเข้าแลก
“ดิฉันขอถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่า ท่านใช้มาตรา 44 จัดการปิดเหมืองทองอัคราซึ่งวันนี้มีใบเสร็จค่าต่อสู้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการแล้ว 600 ล้านบาท มีการอนุมัติจากกระทรวงอุตสาหกรรมให้บริษัทนี้เข้าสำรวจพื้นที่รวม 44 แปลง กินพื้นที่ราว 4 แสนไร่ใน จ.เพชรบูรณ์ และใกล้เคียง ทั้งให้ขายผงแร่ทอง แร่เงินได้ แล้วทำไมจึงมีเงื่อนไขต่อรองแลกเปลี่ยนในข้อตกลงที่ขอให้บริษัทนี้ถอนฟ้องเพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท คิงส์เกต ถ้ารัฐบาลไทยคิดว่าชนะคดีนี้ แล้วไปต่อรองกับเขาทำไม ที่อ้างว่าสั่งยกเลิกทำเหมืองเพราะห่วงใยในสุขภาพพี่น้องประชาชนและสิ่งแวดล้อม แต่วันนี้กลับมีการอนุญาตเปิดให้บริษัทนี้มีการสำรวจพื้นที่ใน 44 แปลงได้ ก็เท่ากับการให้ทำเหมืองกลายๆ ถ้ารัฐบาลไทยจะสู้คดีนี้จริงแบบไปตายเอาดาบหน้า ถ้าแพ้คดีนี้แล้วจะเอางบประมาณจากไหนมาจ่ายจะใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน หรือเอาเงินส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์มาจ่าย หรือถ้าคิดว่า สู้แล้วจะแพ้คดี แล้วจะเอาแผ่นดินไทย 4 แสนไร่ หรืออีกกี่แสนไร่มาแลกเพื่อให้เขาถอนฟ้อง” น.ส.จิราภรกล่าว
