ข่าวปนคน คนปนข่าว
** “แม่เสี่ยโป้” สู้นอกคุก หนีซุกบ่อนเขมร ดึงแฟนคลับโซเชียลฯ ช่วยแชร์แฉตำรวจ งานนี้หมู่หรือจ่าเดี๋ยวรู้กัน
การขยายผลจากปฏิบัติการ “Shutdown Galaxy Online” เครือข่ายบ่อนพนันออนไลน์ ที่มีนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ เน็ตไอดอลคนดังเป็นผู้ต้องหาหลัก ถูกจับคุมขังพร้อมกับภรรยา พี่ชาย และพี่สะใภ้ของเสี่ยโป้ ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน อยู่ระหว่างควบคุมตัวเพื่อสอบสวน
ส่วนผู้ต้องหาเครือข่ายที่เหลือ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 3 ราย รวมผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้แล้วทั้งสิ้น 19 ราย คงเหลือที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนีอีก 12 ราย ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึง นางบานเย็น หรือ อ้อ ชาญนรา แม่เสี่ยโป้ ผู้ต้องหาคนสำคัญด้วย
ฟังว่า จากแนวทางสืบสวนของตำรวจเชื่อว่า นางบานเย็น แม่เสี่ยโป้ พร้อมกลุ่มผู้ต้องหาร่วมขบวนการประมาณ 2-3 คน ได้หนีข้ามฝั่งไปหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ซึ่งข่าววงในคาดว่าสถานที่หลบภัยของ “แม่เสี่ยโป้” น่าจะเป็นบ่อนพนันในเขมรที่เสี่ยโป้ทำงานให้ไปมาอยู่เสมอก่อนหน้านี้นั่นเอง
ขณะที่ นางบานเย็น กำลังถูกไล่ล่าตามหาตัวก็ไม่อยู่เฉย ใช้โซเชียลฯ ประกาศผ่านเฟซบุ๊กจะไม่มอบตัว แถมยังประกาศขอสู้อยู่ข้างนอกคุกเพื่อแฉพฤติการณ์ของตำรวจ เรียกร้องให้แฟนคลับลูกชายช่วยๆ กันแชร์หวังทวงความยุติธรรมให้ครอบครัว
จับจากใจความของ “แม่เสี่ยโป้” ที่โพสต์อ้างว่าขอระบายข้อเท็จจริงในมุมของคนโดนกล่าวหา ระบุว่าทุกวันนี้ตำรวจไทยอยากจะได้ผลงาน อยากได้หน้า อยากจะปิดคดี จึงเขียนสำนวนมั่วไปหมด คิดแต่จะเขียน เขียนอย่างไรให้คนกลายผู้ต้องหาร้ายแรงมากที่สุด หวังยศ หวังตำแหน่ง โดยไม่ได้อยู่บนความเป็นจริง จับโยงมั่วไปหมด บอกสืบมาแล้ว 4 เดือน เฝ้าดูยังไม่ถึง 3 วัน วันเข้าจับกุมตำรวจยังไม่มีข้อมูลความเป็นจริงเลย สรุปว่า ข้อมูลหลายอย่างตำรวจคิดเอง สรุปเองกันทั้งนั้น สร้างเหตุการณ์หลักฐานต่างๆ เอามาอยู่ในการจับกุมลูกชายครั้งนี้ เช่น คลิปก็เป็นคลิปเก่าที่ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ถูกนำมาสตรีมทำให้เหมือนเสี่ยโป้ไลฟ์สดอยู่ตลอดไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ก่อนนั้น “แม่เสี่ยโป้” ยังโพสต์เฟซบุ๊กพูดถึงข้อหาฟอกเงินว่าทำไมครอบครัวเธอต้องฟอกด้วย เงินขาวสะอาดอยู่แล้ว ไปคุกคามร้านอาหารที่เปิดถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง และเงินที่เอาไปเปิดร้านอาหารก็มีที่มาที่ไปของเงิน รังแกลูกชาย มารังแกครอบครัว เพียงแค่เอาคำพูดของคนอื่นมาเป็นหลักฐาน ความเป็นจริงขายของที่ประตูน้ำ ที่โบ๊เบ๊เกือบ 30 ปี และแฟนทำเสื้อผ้า ขายของกับแม่มากว่า 40 ปี บ้านที่อยู่ซื้อมาตั้งแต่เสี่ยโป้ยังไม่เกิด พวกคุณสามารถไปสืบได้เลยที่โบ๊เบ๊ว่าขายของมากี่ปี พอเศรษฐกิจไม่ดีก็ทำกิจการร้านอาหาร ขายครีม ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนยื่นเสียภาษีตามที่กฎหมายกำหนดทุกอย่าง และพวกคุณมารังแกครอบครัวทำไม
แน่นอนว่า ชาวเน็ตบางส่วนที่เป็น “แฟนคลับเสี่ยโป้” ก็ยังชื่นชมวีรกรรมของเสี่ยโป้ที่ชอบบริจาค “แจกเงิน” ในวาระต่างๆ ที่งานนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นภาพลักษณ์ที่เขาสร้างการจดจำให้ชาวโซเชียลฯ จนมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา
และแน่นอนอีกเช่นกันว่า ตำรวจก็ต้องยันกลับ “แม่เสี่ยโป้” ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำสำนวนไปตามพยานหลักฐาน และคลิปทั้งหลายก็เป็นคลิปใหม่ที่สามารถระบุวัน เวลา พฤติกรรมของเสี่ยโป้ได้ชัดเจน
แต่ว่ากันว่า หมัดเด็ดของคดีเสี่ยโป้อยู่ที่หลักฐานเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงถึงกันหมด รวมไปถึงความเชื่อมโยงกับ “หลงจู๊สมชาย” เจ้าพ่อบ่อนภาคตะวันออก ทั้งการร่วมหุ้นทำธุรกิจอสังหาฯ และอยู่เบื้องหลังเสี่ยโป้ ที่ชี้ว่าเป็นเจ้าของเครือข่ายบ่อนพนันออนไลน์ตัวจริง
งานนี้ “คดีเสี่ยโป้” จึงแตกต่างจากการจับ “หลงจู๊สมชาย” ที่ดูเหมือน “ปาหี่” ละครโรงใหญ่
ข่าววงในบอกเลยว่า แกะรอยสอบเส้นทางการเงินขบวนการ “บ่อนเสี่ยโป้-หลงจู๊สมชาย” และเครือข่ายคนมีสี นอมินีทั้งหลาย ออกมาเมื่อไหร่ ได้ผงะกันแน่ สังคมจะคาดไม่ถึงว่าอะไรกันมันจะมหาศาลปานนั้น!!
อดใจรอหน่อย เดี๋ยวก็รู้หมู่ หรือจ่า!
** ศึกซักฟอกปมบ่อนพนัน “ลุงตู่” ตอบฝ่ายค้านได้ แต่สังคมยังข้องใจ จะจัดการกับ “หลงจู๊สมชาย” ได้จริงหรือ
เทศกาล “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการตามประเพณีก่อนปิดสมัยประชุมประจำปีสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ แต่เวลา 4 วันของการอภิปราย คงไม่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะจำนวนมือที่จะยกตัดสินกันในสภาฝ่ายรัฐบาลมีมากกว่าฝ่ายค้านอยู่แล้ว ขณะประเด็นที่เอามาอภิปรายก็อาศัยตัดแปะรวบรวมจากข่าวทางหน้าสื่อบ้าง เก็บเอาจากคำปราศรัยของม็อบสามนิ้วบ้าง
ว่าถึงบรรยากาศการอภิปรายก็ไม่เหนือความคาดหมาย เมื่อฝ่ายค้านใช้สำบัดสำนวนจิกกัดรัฐบาล โดยเฉพาะเป้าใหญ่คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขณะองครักษ์พิทักษ์ลุงตู่ก็ทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ลุกขึ้นประท้วงทุกเม็ดที่ฝ่ายค้านพาดพิงถึงนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะประเด็นที่พาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง จนบางจังหวะนายกฯ ต้องปรามว่าให้เขาได้พูดบ้าง
ไฮไลต์ของการอภิปรายวันแรก อยู่ที่เรื่อง “บ่อนพนัน” ซึ่งเป็นผลพวงจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่มีผีพนันจากบ่อนภาคตะวันออกเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ ก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าไม่มีโควิด ฝ่ายค้านจะได้ประเด็นนี้มาเล่นไหม
ผู้อภิปรายหลักเรื่องบ่อนการพนัน ไม่ใช่ใครอื่นเป็น “บิ๊กตู่” อีกคน นั่นคือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรค และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย ตำหนิ “ตู่ ประยุทธ์” ที่บอกว่าร้อยนายกฯ ก็แก้ปัญหาบ่อนไม่ได้ หลังจากนั้นก็ร่ายยาวผลงานตัวเองในการปราบบ่อนช่วงที่เป็น ผบ.ตร. พร้อมนำคลิปการเข้าจับบ่อนมาเปิดในสภา ทั้งยังอ้างว่ามีการจ่ายเงินเดือน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ คนละ 2 แสนบาทต่อเดือน และบอกว่า “ที่ปิดบ่อนไม่ได้เพราะเป็นรายได้ของพรรคพลังประชาชน” จนมีการประท้วงกันวุ่นวาย
หลังนั่งฟังฝ่ายค้านอภิปรายจนบ่าย 3 กว่าๆ “ตู่ ประยุทธ์” ก็ลุกขั้นตอบโต้ “ตู่ เสรีพิศุทธ์” ในประเด็นบ่อนพนัน โดยบอกว่ากรณีการเรียกรับผลประโยชน์ ที่อ้างข้อมูลจากทางโทรทัศน์นั้นยังเป็นข้อมูลดิบ ต้องไปหาหลักฐานวัตถุพยาน พยานบุคคลเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องนอกสภา จะได้สู้กันเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง การนำข้อมูลมาจากสื่อฯ คิดว่าเป็นข้อมูลที่จะใช่ หรือไม่ใช่ ตนไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง และจะเปิดให้ดูว่าที่พูดจริงๆ มันคืออะไร
นายกฯ ชี้แจงว่า ช่วงที่มีการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ได้มอบนโยบายจัดการบ่อนพนันอย่างเข้มงวด มีการจับกุมบ่อนการพนันในพื้นที่ได้มาก มีการสอบข้อเท็จจริง มีการสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตั้งแต่ระดับรองผู้บังคับการ จนถึงผู้บังคับการ รวม 51 ราย รวมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ชัดเจนว่าถ้าได้รู้เห็นเป็นใจ หรือปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันในพื้นที่หรือไม่ แต่การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ต้องรอบคอบ มีพยานหลักฐาน และคิดว่าที่จับมามีหลักฐานครบถ้วนก็ต้องดำเนินการต่อไป พร้อมยกตัวอย่างการจับกุมบ่อนการพนันใน จ.ระยอง จ.ชลบุรี จ.จันทบุรี จ.ตราด และ จ.สมุทรปราการ บ่อนลอยฟ้า กทม. บ่อนไฮโลพาณิชย์ธนบุรี บ่อนแจ้งวัฒนะ บ่อนบางบัวทอง บ่อนไก่ชนทุ่งเสลี่ยม บ่อนพนันออนไลน์ การจับกุม “เสี่ยโป้” ผลการสอบสวนบ่อนพระราม 3
เอาเป็นว่า สิ่งที่นายกฯ ชี้แจงฝ่ายค้านนั้นก็พอฟังได้ เพราะประเด็นที่ฝ่ายค้านยกขึ้นมาอภิปรายไม่ได้มีอะไรสลับซับซ้อน แค่กวาดเอาข้อมูลจากสื่อมาผูกเป็นเรื่องเป็นราว เหมือนทั้งสองฝ่ายกำลังพากันเล่นละครโรงใหญ่มากกว่า
แต่สิ่งที่คนทั้งประเทศยังข้องคาในใจก็คือ รัฐบาลจะจัดการกับ “หลงจู๊สมชาย” อย่างไร อุตส่าห์ส่งหน่วย “หนุมาน” เข้าจับกุมอย่างเอิกเกริกถึงบ้านพักที่ระยอง แต่กลับตั้งข้อหาเบาหวิว จนได้ประกันตัวด้วยวงเงินจิ๊บจ๊อยแค่ 2 แสนบาท ไม่สมศักดิ์ศรีเจ้าพ่อบ่อนภาคตะวันออกเสียเลย แถมหลักฐานที่ได้จากการค้นบ้านก็เจอแค่เงิน 100 บาท กล้องวงจรปิดก็โดนถอดเซิร์ฟเวอร์ แถมตำรวจยังยอมรับเองว่ามี หนอนบ่อนไส้แจ้งข่าวให้ หลงจู๊ รู้ตัวเสียก่อน แล้วเมื่อเช้าวานนี้ที่รองผู้บังคับการปราบปรามออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่าจะเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินของหลงจู๊สมชาย และเตรียมออกหมายจับนอมินีที่สมอ้างเป็นเจ้าของทรัพย์สินแทน
ชาวบ้านเขาจะเชื่อใจแค่ไหนว่าทำจริง ไม่ใช่ลิงเล่นละคร