xs
xsm
sm
md
lg

เกมซักฟอกกำลังเริ่ม ปรับ ครม.- สวรรค์งูเห่า!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เมืองไทย 360 องศา

กำหนดวันเวลากันออกมาเรียบร้อยแล้ว สำหรับการอภิปรายในญัตติทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตั้งแต่วันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ โดยมีรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือถูก “ซักฟอก” ในครั้งนี้มีจำนวนทั้งหมดถึง 10 คน ดังนี้

1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม 2. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี 3. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข 4. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ 5. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

6. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย 7. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ 8. นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย 9. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ 10. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

แม้ว่าในญัตติซักฟอกดังกล่าว ฝ่ายค้านจะได้ระบุถึงเหตุผล และความผิดของบรรดารัฐมนตรีแต่ละคนว่ามีความผิดฉกรรจ์อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะความผิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่หากพิจารณาความผิดตามข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านแล้ว อย่าว่าแต่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปไม่ได้แล้ว แต่ “เป็นคน” ยังไม่ได้เลย เพราะกล่าวหาร้ายแรงมาก แต่เอาเป็นว่า “เขียนได้สนุกมากๆ” ก็แล้วกัน


อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องจับตาสถานการณ์ที่ต้อง “มองข้ามช็อต” ไปหลังจากนั้นต่างหาก ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะอย่างที่รับรู้กันดีอยู่แล้วว่ารัฐบาลชุดนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค แม้ว่าในภาพรวมๆ แล้ว ถือว่าปัจจุบันนี้รัฐบาล “มีเสถียรภาพ” อย่างมาก เนื่องจากมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งมาจำนวนหลายสิบคน และพ้นสภาพ “เสียงปริ่มน้ำ” นานแล้ว

ประกอบกับตัวผู้นำรัฐบาล คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หากพิจารณากันตามสถานการณ์จริง ก็ต้องบอกว่า ยังได้รับความนิยม และเชื่อมั่นจากประชาชนในวงกว้างในระดับสูงกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับผู้นำฝ่ายค้าน หรือผู้นำพรรคการเมืองคนอื่นๆ ในปัจจุบัน และที่สำคัญ ยังไม่มีปัญหาเรื่องการทุจริตในเรื่องที่จะแจ้งออกมาให้เห็น ประเภทที่ทำลายความรู้สึกแบบชัดเจน อย่างมากก็เป็นเสียงซุบซิบ กล่าวหาคนใกล้ชิดบ้าง อ้างชื่อคนนั้นคนนี้ ที่ยังไม่มีหลักฐานมัดแน่น รวมไปถึงการกล่าวหาไปถึงรัฐมนตรีบางคนที่อยู่ในระบบ “ศูนย์อำนาจ” ที่เรียกว่า “กลุ่ม 3 ป.” ที่เชื่อว่า ครั้งนี้จะต้องตกเป็นเป้าหมายหลักแต่ก็อย่างว่า เท่าที่ประเมินก็ยังนึกไม่ออกว่าจะมี “หมัดเด็ด” อะไร แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรอดู “ใบเสร็จ” ในวันอภิปราย เพราะหากพูดไปก่อน มันก็เหมือนกับการปรามาสไม่ให้เกียรติฝ่ายค้านกันไปก่อน

แต่สิ่งหนึ่งที่พอจับสัญญาณได้ชัดเจน ก็คือ งานนี้จะต้องมี “งูเห่า” เกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเกิดขึ้นภายในพรรคฝ่ายค้านหลักอย่างพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะว่าไปแล้ว หากมองกันตามความเป็นจริง ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะที่ผ่านมาก็เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนเป็นเรื่องปกติ และครั้งนี้ก็มีการยอมรับตรงๆ จากปากของ นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค และประธานวิปฝ่ายค้าน ว่า งูเห่าที่ว่านั้นที่เห็นๆ ก็มีอยู่ไม่น้อยกว่า 2 คน ซึ่งรับรู้กันดีว่า อนาคตนั้น “ย้ายพรรค” อยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน ด้วยสถานการณ์ความ “แตกแยก” ภายในพรรค ทำให้น่าจับตามองอีกว่าจะมี ส.ส.อีกกี่คน ที่โหวต “สวนมติพรรค” และที่น่าสนใจก็คือ ยังจะมี ส.ส.จากฝ่ายค้านบางพรรค เช่น พรรคก้าวไกล จะมี “งูเห่า” มาเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา เริ่มมี “รอปริ” ออกมาให้เห็น โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากอนาคตของพรรคนี้ เมื่อเปรียบกับเมื่อครั้งตั้งพรรคใหม่ๆ ในยุคพรรคอนาคตใหม่ ที่จนถึงวันนี้บรรยากาศต่างกันลิบลับ เมื่อพิจารณาจากทัศนคติในเรื่อง “สถาบันฯ”

อย่างไรก็ดี ในเรื่องงูเห่าที่ใช่ว่าจะมองจ้องกันในเฉพาะพรรคฝ่ายค้านเท่านั้น เพราะในฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลก็น่าจับตาไม่แพ้กัน แม้ว่าจะมีรายละเอียด และที่มาต่างกันก็ตาม เพราะเริ่มมี “ปล่อยข่าว” ออกมาให้ได้ยินแล้วว่า อาจมีรัฐมนตรีบางคนที่จะได้รับเสียงโหวตไม่เท่ากับรัฐมนตรีคนอื่น

ความหมายก็คือ อาจจะมี ส.ส.บางคนไม่โหวตให้ และรัฐมนตรีที่ว่านั้นก็คือ “นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” รมว.ศึกษาธิการ ของพรรคพลังประชารัฐ นั่นเอง


แม้ว่าเหตุการณ์จริงยังไม่เกิดขึ้น แต่คำถามก็คือ ทำไมถึงต้องเป็นรัฐมนตรีคนนี้ ทำไมต้องพุ่งเป้าไปที่เขา ซึ่งแน่นอนว่า หากพิจารณากันในทางการเมืองภายในพรรคก่อน ก็อาจเกิดรายการ “แทงข้างหลัง” ได้เหมือนกัน หลังจากพิจารณาจากสาเหตุในเรื่องการส่งผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มีข่าวว่า นายณัฏฐพล พยายามล็อบบี้ภายในพรรคให้สนับสนุนภรรยา คือ “นางทยา ทีปสุวรรณ” อดีตรองผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ โดยมีรายงานพยายามเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อขอความสนับสนุน แต่ยังไม่มีท่าทีชัดเจน โดยเฉพาะ พล.อ .ประวิตร ได้แสดงท่าทีว่าจะไม่ส่งใครลงสมัครในนามพรรคในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นานข้างหน้า

ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นทุกครั้งหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็คือ “การปรับคณะรัฐมนตรี” ซึ่งคราวนี้ ถือว่ามีความ “เป็นไปได้สูง” ทั้งเงื่อนไขเวลา และสถานการณ์ เพราะหนึ่งเป็นเพราะช่วงเวลาเหมาะสม เนื่องจากรัฐบาลมีอายุผ่านมาปีกว่าแล้ว ถึงเวลาต้องมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนรัฐมนตรีในรัฐบาลเพื่อความเหมาะสม และกระฉับกระเฉง และบางคนก็สามารถใช้เงื่อนไขจากการถูกซักฟอก หรือจาก “คะแนนโหวต” ที่แตกแถวออกมา ถือว่าอยู่ในความเสี่ยงมากที่สุด

ดังนั้น แม้ว่าการซักฟอกยังไม่เกิดขึ้น แต่หากให้ฟันธงตามสถานการณ์ก็ต้องบอกว่าน่าจะเกิดสองเหตุการณ์ตามมานั่นคือ มี “งูเห่า” เกิดขึ้นแน่ และสอง ก็คือ การ “ปรับคณะรัฐมนตรี” ตามมาค่อนข้างแน่ และคราวนี้น่าจะเป็นการ “ปรับหลายตำแหน่ง” เนื่องจากช่วงเวลาและสถานการณ์มันได้ เพียงแต่ว่าจะเกิดรายการ “กระเพื่อม” ครั้งใหญ่ สั่นไปทั้งรัฐบาลหรือไม่ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง !!


กำลังโหลดความคิดเห็น