xs
xsm
sm
md
lg

สินบน-รุกป่า เริ่มหลอน น้องชาย-แม่ธนาธร !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ - สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ - สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ
เมืองไทย 360 องศา

จะเรียกว่าพอเป็นช่วง “ขาลง” แล้ว อะไรๆ มันเริ่มรุมเร้าประดังเข้ามาแบบต่อเนื่อง เหมือนกับกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถูกมองว่า “เป็นหนึ่งในขบวนการล้มเจ้า” กำลังประสบอยู่ หลังจากที่ผ่านมา “ม็อบสามนิ้ว” ของเขาทำท่าจะแย่ ไม่ได้รับความนิยมอย่างที่เคยเป็นก่อนหน้านี้ บรรดาเด็กๆ ในเครือข่ายทั้งที่เป็นแกนนำและแนวร่วม ต่างเดินเข้าสู่โหมด “สะสมคดีอาญา” ต้องยกขบวนเดินทางเข้ารับทราบข้อหาสารพัดเป็นรายวันในเวลานี้

ขณะที่ในพรรคก้าวไกลที่เป็นเครือข่ายสำหรับการเคลื่อนไหวในสภา ก็กำลังอยู่ในภาวะ “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” จากกรณี ส.ส.และอดีต ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ก็กำลังถูกถากถางจากคนในสังคมรอบทิศ ทั้งพวกคอเดียวกันและฝ่ายตรงข้าม จากกรณีรับ “เครื่องราชฯ” เพราะดูสวนทางกันอย่างสิ้นเชิงกับแนวทางการต่อสู้ที่แสดงออกในช่วงที่ผ่านมา
เพราะตามหลักการแล้วการ “ขอเครื่องราชฯ” นั้น “เจ้าตัวต้องเขียนและขอเอง” ทำให้เสียงเสียดเย้ยดังมา ทำนองว่า “พูดอย่างทำอย่าง” สวนทางกับการต่อต้าน “ศักดินา” ไปไกลลิบ จนเวลานี้ยังไม่เห็น ส.ส.พวกนั้นแสดงท่าทีใดๆออกมา เรียกว่า “เงียบกริบ”
ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งที่น่าจะเป็น “ไฮไลต์” ที่อาจพัวพันพุ่งตรงเข้าหา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้ากลุ่มก้าวหน้า ที่เพิ่งโดน “ก้อนอิฐ” ระดมขว้างใส่จากสังคมส่วนใหญ่ จากการออกหน้ามากล่าวแบบมีวาระซ่อนเร้น ใช้คำพูดในเรื่อง “วัคซีนพระราชทาน” จนเกิดกระแสด้านลบอย่างรุนแรง แม้ว่าในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ก็ยัง “ดันทุรัง” ไม่หยุด แต่ก็โดน “ข้อเท็จจริง” ตอกหน้าหงายกลับไปทุกที
อย่างไรก็ดี ยังมีเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กัน หลังจากได้เห็นความชัดเจนเพิ่มเติมเข้ามาอีกขั้น นั่นคือ “คดีติดสินบน” เจ้าพนักงานจากกรณี ที่มีการ “จ่ายสินบน 20 ล้าน” ของ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด น้องชายของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในความพยายามขอเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยมิชอบ และกลายเป็นว่าขอบเขตเริ่มบานปลายออกไปอีก เนื่องจากทางตัวแทนตำรวจจากกองบังคับการกองปราบปราม ที่ได้เข้าชี้แจงกับทางคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนฯ เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมาได้รับรู้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทางตำรวจได้เตรียมออกหมายเรียกนายสกุลธร ในกรณีดังกล่าว โดยยังพ่วง นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายสกุลธร และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะที่เธอเป็นกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัทดังกล่าวอีกด้วย ถึงได้บอกว่ามัน “น่าหวาดเสียว” ไงละ
โดยการชี้แจงในครั้งนี้ กองบังคับการปราบปราม มี พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ รองผู้บังคับการปราบปราม, พ.ต.อ.สัณห์เพชร หนูทอง ผู้กำกับการสอบสวน และ พ.ต.ท.หญิง บุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ สารวัตรสอบสวน เข้าชี้แจง
พ.ต.อ.สัณห์เพชร ชี้แจงเหตุผลที่ต้องแยกสำนวนคดีนายสกุลธร ออกจากคดีของเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ที่กระทำความผิดในฐานะผู้รับเรื่องจากกรณีของนายสกุลธร เป็นกรณีในฐานะผู้ให้ ที่เป็นคนละข้อกล่าวหา หากรวมสำนวนเดียวกัน จะกลายเป็นการซัดทอดผู้ต้องหา ทำให้คดีไม่มีน้ำหนักจากคำซัดทอด จำเป็นต้องแยกระหว่างคดีผู้ให้กับผู้รับ ตามเทคนิคของการทำสำนวน
ยืนยันว่า คดีนี้ทางกองปราบปรามได้เตรียมออกหมายเรียกนายสกุลธร ให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตาม มาตรา 144 ของประมวลกฎหมายอาญา ฐานผู้ใดให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เนื่องจากเป็นคนเดียวที่เซ็นชื่อในเช็คจ่ายเงิน แต่ในการแจ้งข้อหา ต้องแจ้งในฐานะนิติบุคคลด้วย ทำให้จะต้องแจ้งข้อหาเพิ่มต่อ “นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ” ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ
ด้าน พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ รองผู้บังคับการปราบปราม ย้ำว่า การแจ้งข้อกล่าวครั้งนี้ แม้นายสกุลธร จะอ้างว่าถูกหลอก แต่ในฐานะนักธุรกิจควรทราบขั้นตอนการขอเช่าที่ดินอยู่แล้ว
เมื่อได้เห็นแบบนี้ ถึงได้บอกว่ามัน “เสียวแทน” จริงๆ เพราะกลายเป็นว่า แนวโน้มความผิดไม่ใช่มีเพียงแค่นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ คนเดียวแล้ว ยังอาจพ่วงเอา นางสมพร เข้าไปด้วยในฐานะเป็น “กรรมการบริษัทผู้มีอำนาจ” และ นางสมพร เข้าข่ายมีความผิดจริงแล้ว มันก็น่าคิดว่า อาจจะเชื่อมโยงไปถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ด้วยหรือไม่ เพราะในช่วงเวลานั้น ก็ต้องมีการตรวจสอบว่าเขายังร่วมเป็นกรรมการ หรือประธานบริษัทดังกล่าวนั้น อยู่หรือไม่
แต่เอาเป็นว่า งานนี้น่าจะทำเอา “หนาวกันทั้งครอบครัว” และที่ผ่านมา นายธนาธร พยายามเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องนี้มาตลอด ขณะที่การชี้แจงของ นายสกุลธร ก็ทำเพียงแค่แจงเป็นเอกสารเท่านั้น และมองว่าไม่ค่อยตรงประเด็นนัก
ดังนั้น หากพิจารณาจากทั้งสองคดี นั่นคือ “คดีสินบน 20 ล้าน” ของนายสกุลธร และอาจโยงไปยังนางสมพร หรือรวมถึงตัวนายธนาธร ด้วยก็ได้ หากมีการตรวจพบว่า เขายังเป็นกรรมการบริษัท ขณะที่ นางสมพร ก่อนหน้านี้ ที่กำลังถูกดำเนินคดี “รุกป่าสงวน” กำลังเดินหน้าไปเรื่อยๆ และเชื่อว่า งานนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับ “เสรีภาพ ภราดรภาพ” หรือ ศักดินา ชนชั้น แต่อย่างใด แต่น่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดทางกฎหมายที่ต้องตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา มากกว่า แต่หวาดเสียวนัก !!
กำลังโหลดความคิดเห็น