xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้งเทศบาลศึกหนัก เดิมพันสุดท้าย “ธนาธร”!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา



คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดวันรับสมัคร และวันเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรีทั่วประเทศแล้ว โดยกำหนดวันเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 8-12 กุมภาพันธ์ และวันเลือกตั้งวันที่ 28 มีนาคมนี้ ถือว่าทุกอย่างเดินหน้าอย่างเป็นทางการแล้ว

ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งท้องถิ่นในยุคปัจจุบัน แทบทุกระดับกำลังจะเปลี่ยนไปจากเดิมในอดีต นั่นคือ “ความหมาย” และการ “ตื่นตัว” และ “ตื่นรู้” ของประชาชนมากขึ้น เริ่มมีความหมายต่อการตรวจสอบมากขึ้น และหากมองในมุมบวก มันเริ่มสะท้อนให้เห็นถึงการ“ปฏิรูป”ตามธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม

นอกเหนือจากระบบกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่มีการควบคุมระดับหนึ่ง แต่ที่มองข้ามไปไม่ได้ก็คือ การตื่นตัวและการรับรู้ข้อมูลจากประชาชนมากขึ้นกว่าเดิม และอย่างที่บอกก็คือ การเลือกตั้งทุกระดับมันจะ “มีความหมาย” เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์ผิดไปจากเดิม

สำหรับการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น แม้ว่ายังต้องเกี่ยวข้องกับ “ระบบอุปถัมภ์” ระบบเครือญาติ ที่ส่งต่อกันมายังมีอิทธิพลหลงเหลืออยู่ แต่ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงก็มีให้เห็นมากขึ้น นั่นคือ การแข่งขันกันในเรื่อง “นโยบาย” ที่ต้องแข่งขันกันนำเสนอกับประชาชนแบบจริงจังมากขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้สมัครที่มีคุณภาพ มีความรู้ความเชี่ยวชาญมากขึ้น รวมไปถึงนักการเมืองที่เคยอยู่ในการเมืองระดับชาติ เริ่มหันมาลงสนามการเมืองท้องถิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยก็ได้เห็นจากการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดครั้งล่าสุดที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ในบางมุมก็ต้องให้ข้อสังเกตจากความเคลื่อนไหวของ “คณะก้าวหน้า” ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เหมือนกัน แม้ว่าในเชิงลึกแล้วจะถูกมองว่ามีความประสงค์ที่“แอบแฝง”หวังผลในทางการเมืองบางอย่าง นั่นคือ การยึดท้องถิ่นเป็นฐานเสียงเพื่อก้าวไปสู่การเมืองในระดับชาติก็ตาม รวมไปถึงเจตนาที่มองว่าสอดคล้องกับพวก “ขบวนการล้มเจ้า” ในเป้าหมายสุดท้ายก็ตาม

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นเดียวกันว่าพวกเขาทำให้เกิดกระแสความตื่นตัว การแข่งขันและที่สำคัญทำให้เกิดการ “ระแวดระวัง” เกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะอีกมุมหนึ่งจากความเคลื่อนไหวของพวกแกนนำคณะก้าวหน้า ที่นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่เคลื่อนไหวที่มีเจตนาเหมือนกับ “บั่นทอน” มุ่งเป้าโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน มันก็ส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านจากสังคมอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในแบบที่พวกเขาก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเช่นเดียวกันว่า ทำไมถึงได้เกิดแรงต้าน และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ครั้งที่ผ่านมา

ที่ผลปรากฏออกมาว่าผู้สมัครของ “คณะก้าวหน้า” พ่ายแพ้อย่างหมดรูปทุกจังหวัด จากที่ส่งผู้สมัครไปจำนวน 47 จังหวัด ผลปรากฏว่า ไม่ได้รับการเลือกตั้งเลยสักจังหวัด และที่สำคัญ น่าสังเกตไปกว่านั้นก็คือ “แพ้แบบหมดรูป” ไม่ใช่แพ้แบบสูสีแต่อย่างใดอีกด้วย

ในครั้งนั้นว่ากันว่าทำให้เป้าหมายการเมืองในเบื้องต้นที่หวังจะยึดพื้นที่การเมืองระดับท้องถิ่นเป็นฐานต้องชะงักไป กับปฏิกิริยาต่อต้านจาก “คนรักสถาบันฯ” ที่แผ่ขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ ส่งผลต่อการเลือกตั้งของผู้สมัครของ “คณะธนาธร” ต้องพังไม่เป็นท่า ประกอบกับมีข่าวด้านลบนอกเหนือจากเรื่อง “ล้มเจ้า” แล้วยังมีเรื่องข้อกล่าวหาในกรณีคนในครอบครัวที่กระทำผิดกฎหมาย เช่น นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกกล่าวหาเรื่อง “รุกป่าสงวน” นับพันไร่ น้องชายคือ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้งกับการ “ติดสินบน” จำนวน 20 ล้าน เพื่อใช้เป็นใบเบิกทางแลกกับการใช้ประโยชน์กับที่ดินทำเลทอง ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และกรณีสินบนดังกล่าวอาจจะพัวพันไปถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ด้วยหรือไม่ เพราะเกิดเหตุในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่เขายังถือหุ้นอยู่ในบริษัทของของครัว ที่น้องชายเป็นกรรมการบริหารอีกด้วย

แต่กระแสด้านลบ และส่งผลกระทบในวงกว้างกับการเคลื่อนไหวล่าสุดของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ใช้สื่อโซเชียลฯ มีเจตนาที่ถูกมองว่าต้องการ “ดิสเครดิตสถาบันพระมหากษัตริย์” เรื่อง “วัคซีนพระราชทาน” ดังที่ได้เห็นกันไปแล้ว แน่นอนว่า จากเรื่องดังกล่าว หากสำรวจจากปฏิกิริยาออกมาแล้วมั่นใจว่า มี “ผลลบมากกว่าบวก” เพราะในที่สุดแล้วผลการชี้แจงกันด้วยข้อมูลก็พบว่า เขามี “เจตนาบิดเบือน” ถูกตอกหน้าด้วย “ข้อมูลจริง” จนหงายท้อง

ขณะเดียวกัน ในทางการเมืองก็น่าจะส่งผลกระทบในทางลบไม่น้อย เพราะเมื่อวัดจากปฏิกิริยาสังคมแล้วต้องบอกว่า “ขาลง” มากกว่าขาขึ้นแน่นอน และแม้ว่าการออกมาของเขากับพวก ไม่ว่าจะเป็น “ม็อบสามนิ้ว” ที่ออกมาเขย่า มาตรา 112 แบบคู่ขนาน มันก็เหมือนกับว่าพวกเขาต้องการสร้างแรงกระเพื่อมในทางการเมืองขึ้นมาอีกรอบ โดยเฉพาะหากพิจารณากันถึงการเมืองในระดับท้องถิ่น คือ การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลในปลายเดือน มี.ค.นี้

ล่าสุด “คณะก้าวหน้า” ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็เตรียมเคลื่อนไหวส่งผู้สมัครในระดับเทศบาลครั้งนี้อีกครั้ง ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากกระแสแล้ว ก็อย่างที่บอกมันน่า “ลบ” มากกกว่าบวก เมื่อเปรียบกับบรรยากาศการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดก่อนหน้านี้ โดยเชื่อว่า บรรยากาศคราวนี้น่าจะ “แรง” กว่าครั้งก่อนหลายเท่า โดยเฉพาะปฏิกิริยาต่อต้านจากสังคมที่รักสถาบันพระมหากษัตริย์

ขณะเดียวกัน สำหรับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับพวก สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลครั้งนี้ หากพิจารณาในแง่การเมืองแล้วมันก็เหมือนกับการ “เดิมพันครั้งสุดท้าย” ต้องการวัดกระแสอีกครั้งว่าผลจะออกมาเหมือนกับการเลือกตั้ง อบจ. หรือไม่ แต่หากให้พิจารณาในภาพรวมๆ แล้วก็ต้องบอกว่า “หนักกว่าเดิม” แน่นอน !!


กำลังโหลดความคิดเห็น