xs
xsm
sm
md
lg

จับคู่ฟัดเละ! “อั้ม อิราวัต” แฉแตกหัก “ปวิน” ผิดเพี้ยนเกินเยียวยา “แนวร่วม 3 นิ้ว” อัด “ก้าวไกล” ทรยศอุดมการณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ จากแฟ้ม
ธาตุแท้โผล่ “หมออั้ม อิราวัต” ฟัด “ปวิน” โต้เดือด “ไม่ได้หิวแสง” แฉยิบ เหตุฝ่ายหลังแค้นฝังหุ่น แค่เรื่องไม่ประจาน “ต๊อด-ปิติ” อีกคู่ “แนวร่วม 3 นิ้ว” จวกแรง ส.ส.ก้าวไกล ขอเครื่องราชฯ น่าอายและน่าสมเพช เป็นผู้ทรยศต่ออุดมการณ์

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เฟซบุ๊ก อั้ม อิราวัต ของ นายอิราวัต อารีกิจ หรือ “หมออั้ม” อดีตนักร้อง และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองแนวร่วมม็อบราษฎร 2563 โพสต์ข้อความระบุว่า

“คนส่งโพสต์ #ปวินฯ มาให้ดู
เป็นโพสต์ผมเอง หลายปีก่อน เรื่องซอส
จริงๆ ผมไม่ได้พูดถึงคนๆ นี้นานแล้วครับ
เพราะแกออกทะเลไปไกลมาก
และผมไม่ค่อยอยากวิจารณ์คนทุกข์
คนที่ชีวิตเขาลึกๆ โดนมาไม่น้อย น่าเห็นใจ
แต่ #ผมก็เลิกคบกับเขาโดยสิ้นเชิง
ไม่ได้ยุ่ง ไม่ได้สนใจมาหลายปีแล้ว
ตั้งแต่ตรรกะเขาผิดเพี้ยนไป เกินเยียวยา
————————————————
วันนี้ได้จังหวะพอดี ผมจะเล่าให้ฟัง 14 ข้อ
ตามมาครับ 🙂

1. ผมกับปวิน เคยทำงานร่วมกัน ที่ VoiceTV
2. ไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวต่อกัน
3. ปวิน สนิทกับผม จนถึงขั้นส่งเมลมาให้ผม
แจ้งแฟนคลับ เวลาตนเองปิด FB (ตามภาพ)

ภาพ นายอิราวัต อารีกิจ หรือ “หมออั้ม” จากแฟ้ม
จนกระทั่ง..
4. ครั้งหนึ่ง “ต๊อด ปิติ” โพสต์เรื่องตราครุฑของสิงห์
และของบริษัทต่างๆ และพูดโยงเรื่องสถาบันฯ
5. ผมเลยทำภาพ “ตึกชินวัตร ทั้ง 3 ตึก” ก็มีตราครุฑ
แล้วแย้ง ต๊อด ปิติ ว่า ตระกูลชินวัตร และอื่นๆ เขาก็มี
เขาก็ภักดี ทำธุรกิจที่ได้ตราครุฑเช่นกัน ฯลฯ
6. ตอนนั้น ปวิน ได้แชร์โพสต์ผมไป
เสียบด่า ต๊อด ปิติ อย่างรุนแรง
7. จนผมมาทราบว่า ต๊อด ได้โพสต์ขอโทษ
และลบโพสต์ออกไปแล้ว
8. และด้วยความที่ #เป็นเพื่อนกันกับต๊อด (จุฬาฯ)
(หลายคนไม่รู้ว่า ผมกับต๊อด รู้จักกันเป็นการส่วนตัว)
เมื่อต๊อดขอโทษ และลบโพสต์เรื่องครุฑออกไป
ผมจึงไม่มีเหตุผล ที่ต้องเก็บโพสต์ต๊อดไว้เสียบประจาน
9. ผมจึงลบโพสต์ที่ผมตำหนิต๊อด ออกไป
เพราะลูกผู้ชาย แมนๆ จบไป และผมทราบดี
ว่าต๊อดและครอบครัว ก็ไม่เหลืองจ๋า ไม่แดงแจ๋

ภาพ จากเฟซบุ๊ก อั้ม อิราวัต ของ นายอิราวัต อารีกิจ หรือ “หมออั้ม”
แต่..
10. ปวิน ที่แชร์โพสต์ผมไปด่าต๊อด เลยโกรธ
โกรธผมที่ไม่ยอมเล่นงานต๊อดต่อ ไม่ไปต่อ
11. อีกไม่กี่วันต่อมา ต๊อดมาเตะฟุตบอลแถวราชบุรี
เขาฝากทีมงาน เอา #ซอสต๊อด มาให้ผมและคลินิก
ด้วยน้ำใจและมิตรภาพ จึงมีภาพโพสต์ให้เห็น
ว่า “ได้กินแล้วนะ”
12. ซอสต๊อด ถือว่าโอเค แต่สำหรับผมเผ็ดไปหน่อย
ช่วงหลังไปเที่ยวใกล้บ้าน ที่ #ไร่สิงห์ สวนผึ้งไฮแลนด์
แล้วเขามีขาย จึงซื้อทานตลอด ไม่ได้รบกวนเพื่อน
13. ปีนั้น มหากาพย์ซอส ดังเพราะปวินพยายามปั่น
จนอาจารย์ Jessada Denduangboripant ออกมารีวิว
จนอาจารย์ Somsak Jeamteerasakul ออกมางง
ว่าเรื่องซอส ไม่เห็นจะเป็นไรเลย สังคมเป็นอะไรกัน
ไปรวมหัวด่าหมอ ด่าอาจารย์เจษฎ์ ทำไม?
14. นี่คือ #แค้นฝังหุ่นของปวิน ตั้งแต่หลายปีก่อน
แกออกมานั่งเทียนเขียนวิจารณ์ผม ไปเรื่อย
บางเรื่องผมยังไม่รู้เลยว่า ผมเป็นอย่างเขาว่า หรือเคยทำ
ภรรยาผม และครอบครัว อ่านไปหัวเราะไป 555+
ปีนั้นผมไม่มีเวลาไปตอบโต้ ขี้เกียจยุ่งด้วย
เลยบล็อก และเลิกคบ ไม่กล่าวถึงเขาอีก
เพราะในความเป็นหมอ ผมเข้าใจอาการเขาดี
และไม่อยากถือสา แม้ว่าเขาจะหลุดหลักการ
ไปไกลจนบางเรื่อง แต่งเป็นนิยายสนุกสนาน
———————————————————-
ผมอยู่ของผมแบบนี้มานานแล้ว
ไม่เคยเปลี่ยนไปไหน และไม่สนใคร
อยู่กับหลักการประชาธิปไตยของผม
“แตกต่าง แต่ ต้องอยู่ด้วยกันได้”
ผมไม่ถือเขานะ แค่เล่าให้ฟัง เผื่อใครเพิ่งตาม
และหากตามอยู่ ก็ชั่งน้ำหนักข่าวสารดีๆ
ไม่ใช่เรื่อง “หิวแสง” อะไรหรอกครับ
ถ้าจิตใจคนมันมืดมิด ส่องไฟยังไงก็ไม่สว่าง.”

ภาพ จากเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และลี้ภัยคดี ม.112 ในญี่ปุ่น โพสต์ข้อความระบุว่า

“หิว นี่คือหิวแสงค่ะ อีหมอสิวบ้านโป่ง”

ก่อนหน้าไม่นาน เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของปวิน โพสต์ว่า

“คำถามนี้ซีเรียส อยากรู้ว่า คนที่อ้างตัวว่า เป็นหมอ สามารถที่จะพูดอะไรซี้ซั้วแบบนี้ได้โดยที่ไม่มีการตรวจ/วินิจฉัยคนไข้หรอ อะไรคือคนป่วยไข้ มึงมาตรวจกูเมื่อไหร่ หรือว่าตรวจไข้ทางโทรจิตอีดอก ฝากไว้เลย ถึงมึงเป็นแค่หมอสิว แต่จรรยาบรรณต้องมี จะมาพูดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ อีดอก

…เรื่องมันมาจากการที่ดิชั้นไปแหกอีหมอสิวหลายปีก่อน นี่คือปัญหาของสังคมฝั่งประชาธิปไตย ต้องมีกฎว่าห้ามแหกกันเอง เพราะ “อยู่ฝ่ายเดียวกัน” ต่อให้ทำเหี้ยทำห่าอะไร ก็ต้องทำมองไม่เห็น ต้องรักษาหน้ากัน โทษนะคะ ดิชั้นไม่ได้อยู่ฝ่ายมึงค่ะ และดิชั้นพร้อมจะแหก คือ มีปาร์ตี้ งานสังคมฝ่ายประชาธิปไตยเมื่อไหร่ งานวันเกิดนักการเมือง อีหมอสิวต้องไปเสนอหน้า ไปยืนหน้ากล้อง ถ่ายรูปออกงาน แต่ถ้าเป็นงานฝ่ายประชาธิปไตยจริงๆ การชุมนุม ประท้วง เรียกร้องต่างๆ ผลักดันการแก้ 112 อีดอกนี่จะไม่เอา ไม่ทำ งานลำบากไม่สน ทำแต่งานเอาหน้า แต่อ้างว่าอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย คือ อีหมอสิวก็พอกันกับอีหิวแสง สปีชีส์เดียวกัน ไปร่วมชุมนุมค่ะ แต่ไปยืนให้สัมภาษณ์สวยๆ พอตอนเค้าจะฉีดน้ำไล่ ตอนนั้นนางก็กลับถึงบ้านไปนั่งกระดิกตีนสบายๆ แล้ว

…ถ้าใครยังจำเรื่องอีซอสต๊อดได้ ตอนที่มันออกมาขู่จะทำร้ายเนติวิทย์ (เรื่องยกเลิกการหมอบกราบที่จุฬาฯ) แทนที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องช่วยกันประณามการขู่ อีหมอสิวหาโอกาสตีสนิทเซเลปซอสต็อด ช่วยเค้าโฆษณาซอสซะอย่างนั้น แสงไฟอยู่ที่ไหน ต้องปรี่เข้าไปหา หิว attention อยากอาศัยความมีชื่อเสียงของคนอื่นเพื่อสร้างชื่อเสียงตัวเอง จากวันนั้น ดิชั้นตำหนิอีหมอสิวบ้านโป่ง โอ๊ยนางโกรธ แล้วก็บอกว่า ดิชั้นป่วยโน่นนี่นั่น อีดอก มึงคือเสนียดของฝ่ายประชาธิปไตยจริงๆ”

ภาพ จากเฟซบุ๊ก Karn Sasiphat Pongpraphapan ของนายศศิพัฒน์ พงษ์ประภาพันธ์ หรือ “กาณฑ์”
ด้าน เฟซบุ๊ก Karn Sasiphat Pongpraphapan ของ นายศศิพัฒน์ พงษ์ประภาพันธ์ หรือ “กาณฑ์” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง แนวร่วมคณะราษฎร 63 โพสต์ข้อความระบุว่า

“นักการเมืองใครได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นเรื่องปกติค่ะ ทุกพรรคได้หมด ทุกประเทศมีเครื่องราชฯ ยิ่งอังกฤษ นักการเมืองคนไหนมีความดีความชอบ ผลงานทำประโยชน์แก่ประชาชน ควีนเอลิซาเบธพระราชทานเครื่องราชฯชั้นสูง พร้อมสถาปนาบรรดาศักดิ์เป็น “อัศวิน” เลย ผู้ชายมียศนำหน้าเป็น Sir ถ้าเป็นผู้หญิงจะมียศนำหน้าด้วย Dame

แต่กลุ่มการเมืองฝ่ายซ้าย ที่แสดงออกว่า เป็นพวก anti-monarchism ชัดเจนอย่างพรรคก้าวไกล ส.ส.กับทีมงานที่ได้เครื่องราชฯ คือ shame on you น่าอายและน่าสมเพช เพราะเป็นผู้ทรยศต่ออุดมการณ์

พฤติกรรมที่คุณแสดงออกกับมวลชน ปากบอกสู้กับศักดินา แถมยังมาด่าพรรคเพื่อไทย ว่า สู้ไปกราบไป แต่ ส.ส. พรรคส้มไปสาระแนขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ แบบนี้เข้าข่าย “เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลแต่ชอบกินน้ำแกง” ในขณะที่คุณเรียกร้องการปลดแอกจากเผด็จการ คุณกลับไปขอเครื่องราชฯเพื่อเป็นสายรัดคอแห่งการครอบงำ แบ่งแยกคนไม่เท่ากัน เพิ่มความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น ยอมก้มหัวเป็นฝุ่นใต้ตีนของผู้มีอำนาเอง

ถ้าจะมาว่า เพื่อไทยขอได้ เสรีรวมไทยขอได้ ทำไมไม่ด่า พรรคฝ่ายค้านคนอื่นเขาต้านเผด็จการก็จริง แต่เขาไม่แสดงออกถึงการต่อต้านระบอบกษัตริย์ เขายังยึดตามหลักการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่เคยไปทับถมพรรคคุณสักนิด ไม่ว่าพรรคคุณไม่เคยมีมารยาททางการเมืองขนาดไหนก็ตาม

ถ้าจะมาแถว่า รัฐสภาทำเรื่องให้ฟรี ประชาชนเขาไม่โง่นะ
1) ตามกฎหมาย ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและอันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. 2536 เขียนไว้ชัดเจน ให้สำนักงานส่งเรื่องพร้อมเอกสารประกอบการพิจารณาไปยังสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ก่อนวันที่ 10 พฤศจิกายน ของปีก่อนที่จะเสนอพระราชทาน
2) ให้นับระยะเวลาถึงวันที่ 29 พฤษภาคม เป็นปีเสนอขอพระราชทาน
3) 28 กรกฎาคม เป็นวันพระราชทาน

รายชื่อ ส.ส. พรรคก้าวไกลและอดีตพรรคอนาคตใหม่ที่ขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์
มหาวชิรมงกุฎ (ชั้นสายสะพาย-ต้องเข้าวังไปรับ)
1. พลตำรวจตรี สุพิศาล ภักดีนฤนาถ
ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ชั้นสายสะพาย-ต้องเข้าวังไปรับ)
1. นายชำนาญ จันทร์เรือง
2. นายคำพอง เทพาคำ
3. นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์
4. สุรวาท ทองบุญ
5. อภิชาติ ศิริสุนทร
ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก
1. นายเอกถพ เพียรพิเศษ
ทวีติยาภรณ์มงกุฏไทย
1. นายเกษมสันต์ มีทิพย์
2. นายไกลก้อง ไวทยากร
3. นางสาว กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ
4. นายขวัญเลิศ พานิชมาท
5. นายคารม พลพรกลาง
6. นางสาวจารุวรรณ ศรัณย์เกตุ
7. นายจรัล คุ้มไข่น้ำ
8. นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์
9. นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ
10. นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์
11. พ.ต.ต.ชวลิต เหล่าหะอุดมพันธุ์
12. นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ
13. นายนิรามาน สุไลมาน
14. นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์
15. นายณัฐวุฒิ บัวประทุม
16. นายทวีศักดิ์ ทักษิณ
17. นายทศพร ทองศิริ
18. นายทองแดง เบญจปัก
19. นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตกร
20. นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์
21. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา
22. นายปริญญา ช่วยเกตุศิริรัตน์
23. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์
24. นายพีรเดช คำสมุทร
25. นายมานพ ศิริภูวดล
26. นายวรภพ วิริยะโรจน์
27. นายวาโย อัศวรุ่งเรือง
28. นายวินทร์ สุธีรชัย
29. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
30. นายวุฒินันท์ บุญชู
31. นายศักดินัย นุ่มหนู
32. นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล
33. นายสมเกียรติ ถนอมศิลป์
34. นายสมชาย ฝั่งชลจิตร
35. นายสุเทพ อู่อ้น
36. นางสาวเยาวลักษณ์ วงศ์ประภารัตน์
37. นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์
38. นางสาวเบญจา แสงจันทร์
39. นางสาววรรณวิภา ไม้สน
40. นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล
41. นางสาวสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา

นักกิจกรรมที่ล้วนโดน ม.112 เป็นสิบๆ แล้ว จะทำอะไร ก็ขอให้ซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์ตนเองด้วยนิดหนึ่ง
เลือกตั้งท้องถิ่นสอบตกทั้งประเทศ ควรมีเครดิตให้มันน่านับถือหน่อย เราสงสารติ่ง”

แน่นอน, แม้ว่าจะเป็นคนละเรื่อง แต่ก็น่าจะเป็นคนละเรื่องเดียวกันได้ เพราะทั้งสองเรื่องคือ การที่ฝ่ายหนึ่งแสดงธาตุแท้ออกมา จนแม้แต่ฝ่ายเดียวกัน หรือ เครือข่ายเดียวกัน ก็ไม่อาจรับได้ จนกลายเป็นประเด็นขัดแย้งรุนแรงกันขึ้น ผ่านโลกโซเชียล

ส่วนเนื้อหาที่ตอบโต้กันนั้น จริงเท็จประการใด ใครมีเหตุผลน่าเชื่อถือกว่ากัน ก็อยู่ที่วิจารณญาณของผู้อ่าน

แต่ที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับ “ปวิน” ก็ตรงที่ “หมออั้ม อิราวัต” เห็นว่า “ตรรกะเขาผิดเพี้ยนไป เกินเยียวยา” และหลักการก็หลุดออกทะเลไปไกล

เอาง่ายๆ ถ้าแค้นฝังหุ่นใคร คนนั้นเป็นถูกตามจิกตามด่าไม่เว้นแต่ละวัน โพสต์อะไร ก็ผิดหมด ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่ไว้หน้า ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด กรณี “โบว์” ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และ นายประวิตร โรจนพฤกษ์ นักเขียนอาวุโสของหนังสือพิมพ์ข่าวสดอิงลิช ยิ่งถ้าเคยอยู่ฝ่ายเดียวกันมาก่อน แล้วเห็นต่างเมื่อไหร่ เตรียมถูก “ซอมบี” ฝูงใหญ่ลงเล่นงานได้เลย แม้จะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยก็ตาม

อีกประเด็น กรณี ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้เครื่องราชฯ ซึ่ง “หมออั้ม อิราวัต” เห็นว่า มันทั้งน่าอายและน่าสมเพช เพราะเท่ากับเป็นผู้ทรยศต่ออุดมการณ์ เพราะ ส.ส.พรรคก้าวไกล แสดงออกถึงการต่อต้านระบอบกษัตริย์ อย่างชัดแจ้ง
ความจริงเรื่องนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า “ลูกพี่ใหญ่” ได้โพสต์เฟซบุ๊กพยายามแก้ตัวแทนแล้ว ว่า มีเจ้าหน้าที่หวังดีทำให้ ซึ่งตัวเองก็เคยเจอ แม้ไม่ต้องการ อะไรประมาณนั้น แต่ “หมออั้ม อิราวัต” ยืนยันด้วยข้อกฎหมาย ว่า ต้องมีการขอขึ้นไป เท่านั้น

ที่สำคัญ ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า เป็นประชาธิปไตย แต่อยาก “ล้มเจ้า” กำลังเผยธาตุแท้ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่ตัวเองต่อสู้เรียกร้อง และนับวันความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ทางการเมือง ที่ตัวเองฝักใฝ่ โดยไม่ให้ค่า ให้ความสำคัญกับ แม้แต่เพื่อร่วมอุดมการณ์ที่คิดต่าง มันกำลังเกิดขึ้น อย่างที่เห็นแล้ว!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น