เมืองไทย 360 องศา
เชื่อว่าหลายคนอาจมีอารมณ์และความรู้สึกแตกต่างกันไปกับการได้เห็นนความเคลื่อนไหวของพวก“เด็กๆ สามนิ้ว”ที่ออกมาเคลื่อนไหวกันอีกรอบ แตกต่างกันไป มีทั้งประเภทรำคาญ ขัดหูขัดตา และหวั่นว่าอาจจะทำให้เกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 ออกไปในวงกว้างมากขึ้นไปอีก
แต่รวมๆแล้วแทบทั้งหมดไม่ได้วิตกกับการเคลื่อนไหวของพวกเด็กๆ เหล่านี้ เพราะลักษณะก็เป็นเพียงการทำ“กิจกรรม”ของพวกนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย ของเยาวชนที่สร้าง“ปมเด่น”ขึ้นมาให้เพื่อให้เพื่อนๆ ในวัยเดียวกันหันมาสนใจ
แน่นอนว่าอาจเริ่มต้นด้วยการไปให้กำลังใจ และกดดันให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวเพื่อนคนหนึ่งที่ถูกดำเนินคดีในข้อหากระทำความผิดอาญา มาตรา 112
อารมณ์ก็ประมาณว่ามีเพื่อนๆ นักศึกษาที่เคยทำกิจกรรมเคลื่อนไหวมาด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมาใช้ชื่อ“กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ”อะไรนั่น ยกขบวนไปกดดันตำรวจ ที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ปทุมธานี ไปทำกิจกรรมหลายอย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีการ“ชักธงแดง 112”ขึ้นแทนธงชาติไทย รวมไปถึงการเขียนข้อความทั้ง “จาบจ้วง”และข้อความที่เข้าข่ายดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
ซึ่งรับรองว่าในสายตาของคนทั่วไป คงไม่มีใครเห็นดีเห็นงามกับพฤติกรรมแบบนี้แน่นอน เพราะมันเลยเถิด เกินงาม ไม่สวยงาม แต่ก็คงสนุกสนานกันในหมู่คนกันเองเท่านั้น รวมไปถึงความพยายามเคลื่อนไหวตามสถานที่อื่นๆ ในที่ชุมชนกรุงเทพมหานคร เช่น บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และแถวสามย่าน จาจุรีสแควร์ เป็นต้น
แต่ก็นั่นแหละ มันก็ไม่ได้ผลเพราะมีคนเข้าร่วมน้อย แค่ไม่กี่สิบคน ขณะเดียวกันมันเป็นการกระทำความผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดีนำไปสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 อย่างน้อยก็ต้องวุ่นวายลุ้นการได้รับประกันตัวกันอีก แม้ว่าในที่สุดแล้วทุกคนคงได้รับการประกันตัวออกมาได้ทั้งหมดก็ตาม
แต่นั่นก็หมายความว่าพวกเขาที่เป็นเยาวชน ต้องมีคดีอาญาติดตัว แม้ได้รับการปล่อยตัว (ชั่วคราว) ในวันนี้แต่วันหน้าก็ต้องมีคิวเดินทางไปพบตำรวจ พบอัยการ และไปศาลในที่สุด และด้วยอายุเกินกว่า 20 ปี ตามที่เห็นในข่าว ที่บางคนโดนคดี 112 ล้วนอายุเกินเยาวชน มันก็ไม่มี“ลดราคานักศึกษา”
ดังนั้น เมื่อเห็นภาพดังกล่าวแล้วก็ได้แต่“เหนื่อยแทน”เพราะเชื่อว่ามันไม่สนุกในวันข้างหน้า ที่สำคัญเป็นการเคลื่อนไหวในสิ่งไม่ใช่สังคมส่วนใหญ่ต้องการ เช่น การให้“ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์”และให้ยกเลิกมาตรา112 ทำไปเพื่ออะไร อาจจะดูเท่ห์สำหรับกลุ่มคนบางกลุ่ม หรือสนองความเชื่อของ “บางคน”ที่ไม่กล้าออกหน้า ก็ได้แต่ยุยงเด็กๆ พวกนี้ออกมาแทน เป็นการใช้รูปแบบ“ตัวแทน”ที่มั่นใจว่า ทางการทำอะไรได้ไม่ถนัด เพราะเป็นพวกเด็กนักเรียน นักศึกษา
แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเคลื่อนไหวที่“เลยเถิด”จนเกินพอดีดังกล่าว มันก็ย่อมสร้างความรำคาญให้กับสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ
อีกทั้งยังเป็นการเคลื่อนไหวที่เป็น“คนละเรื่อง”แทนที่จะเน้นในเรื่อง“การเมือง”จะเป็นเรื่องเผด็จการ หรือให้ปฏิรูปการเมือง ระบบราชการ ก็ว่ากันไป แต่นี่ดันผ่าเหล่าทะลุกลางปล้อง เรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ใช้วาจาจาบจ้วงหยาบคาย มันก็ไปต่อลำบาก ไม่ได้แนวร่วมในวงกว้าง
นอกเหนือจากนี้ ยุคสมัยก็เปลี่ยนไปแล้ว สังคมมองพวกที่เป็นแกนนำว่า เป็นพวก“ไร้แก่นสาร”ไร้ประสบการณ์ ยังเป็นภาระของสังคม “ไม่ใช่ลักษณะผู้นำความคิด”เหมือนยุค 14ตุลาฯ16 ที่ตอนนั้นพ่อแม่ยังไม่ค่อยมีความรู้ ยังด้อยการศึกษา
อย่างไรก็ดี หากมองในมุมบวกก็ยังถือว่าเป็นเรื่องดีที่สนใจการเมือง พูดถึงสิทธิ เสรีภาพ แทนที่จะบ้าเรื่องแฟชั่น เดินตามศูนย์การค้า แต่น่าจะดีกว่านั้นหรือไม่ หากจะเคลื่อนไหวในสิ่งที่เป็นแก่นสารมากว่าที่เป็นอยู่ เช่น การกดดันเรื่องการแก้ปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน การปฏิรูประบบราชการ ก็น่าจะได้รับการขานรับจากประชาชนในวงกว้างมากกว่านี้
อย่างไรก็ดี หลายคนก็ตั้งข้อสังเกตว่าการเคลื่อนไหวในลักษณะสร้างความปั่นป่วนของพวก“สามนิ้ว”ที่ว่านั้น หากมองในภาพรวมแล้วมันก็คือกลุ่มที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ในอดีต และเคลื่อนไหวเชื่อมโยงกับ พรรคก้าวไกล และเป็นเครือข่ายเดียวกันกับกลุ่มของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในนามคณะก้าวหน้า ที่ล่าสุดได้ออกมาเคลื่อนไหวเตรียมส่งคนลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่น ในระดับเทศบาลที่ทางกกต.ได้กำหนดวันเลือกตั้ง ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ทั่วประเทศ และรับสมัครในวันที่ 8-12 ก.พ.นี้ หลังจากก่อนหน้าล้มเหลวไม่เป็นท่า กับการส่งลงสมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) มาแล้ว
ขณะเดียวกัน ก็บังเอิญว่ามันเป็นช่วงเวลาที่“ม็อบสามนิ้ว”พยายามออกมาเคลื่อนไหว สร้างความปั่นป่วนขึ้นมาอีกรอบ และแม้ว่าจะเป็นการเข้าไปรับทราบข้อหาตามหมายเรียก และถูกจับกุมในคดี มาตรา 112 ก็ตาม แต่การที่มีการ“ปลุกระดม”เคลื่อนไหวชุมนุม มันก็เหมือนกับการ “สร้างกระแส”มวลชนขึ้นมาอีกครั้ง และก็ไปตรงกับช่วงที่“คณะธนาธร”ที่ยังไม่เข็ด เตรียมส่งคนลงสมัครนายกเทศมนตรี และสภาเทศบาลทั่วประเทศอีกรอบ หลังจากล้มเหลวไม่เป็นท่า จากการเลือกตั้งนายกฯอบจ.เมื่อไม่นานมานี้ !!