เมืองไทย 360 องศา
ก็น่าเห็นใจเหมือนกันสำหรับ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริษัท เรียลแอสเสท ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด น้องชายของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ออกเอกสารแถลงข่าว 3 หน้ากระดาษ เพื่อชี้แจงกรณี “ปมสินบน” จำนวน 20 ล้านบาท เพื่อแลกกับการได้เช่าที่ดินแปลงงาม ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ที่เป็นเรื่องอื้อฉาวก่อนหน้านี้
เพราะเชื่อว่าสาเหตุสำคัญที่ต้องออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าว เป็นเพราะถูก “กระแสสังคม” กดดันอย่างหนัก เนื่องจากมีข้อสงสัยมากมาย และที่สำคัญข้อสงสัยที่ว่านั้น ยังส่งผลเชื่อมโยงไปถึง “พี่ชาย” คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รวมไปถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองในเวลานี้อีกด้วย
แม้ว่าที่ผ่านมา หากสังเกตให้ดีจะพบว่า “สื่อหลัก” บางแห่งที่ถูกมองว่า “เลือกข้าง” พวกเขาจะพยายามไม่เสนอข่าวเรื่องแบบนี้ก็ตาม หรือไม่ก็เสนอแบบขอไปที ตามน้ำอะไรประมาณนั้น แต่ถึงอย่างไรก็ยั้งไม่อยู่ ทำให้ออกคำแถลงชี้แจง โดยใช้รูปแบบเป็นเอกสาร แทนที่จะเป็นการเปิดแถลงข่าวตอบข้อซักถาม
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาในเนื้อหารายละเอียดของคำชี้แจงของนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ กลายเป็นว่าใน “ประเด็นหลัก” ถือว่า “ยังไม่เคลียร์” ตรงกันข้ามกลับยิ่งทำให้เกิดคำถามและมีข้อสงสัยเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเสียอีก โดยเฉพาะในประเด็น “สินบน” กับความหมายของคำว่า “นายหน้า”
สำหรับที่มาที่ไปของคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากคดีที่ สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ มอบอำนาจให้ นายอิศรา จารุวนิชกุล ผู้กล่าวหา ดำเนินคดีกับ นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ ผู้ต้องหาที่ 1 และ นายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งถูกตั้งข้อกล่าวหา ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม และร่วมกันเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจ หรือได้จูงใจเจ้าพนักงานโดยทุจริต หรือผิดกฎหมาย ให้ทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่ เหตุเกิดเมื่อ มี.ค.- พ.ย. 60 ต่อเนื่องกันในท้องที่ แขวงดุสิต เขตดุสิต และแขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง
คดีดังกล่าว ศาลมีคำสั่งจำคุกผู้ต้องหาที่ 1-2 ไปแล้ว เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 62 โดยศาลได้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 6 ปี แต่ลดโทษให้เหลือจำคุกคนละ 3 ปี
โดยพฤติการณ์แห่งคดีก็คือ จำเลยทั้งสองคนดังกล่าว รับหรือเรียกรับสินบนจาก นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ เพื่อไปวิ่งเต้นให้ได้เช่าที่ดินเพื่อทำธุรกิจ จำนวน 2 แปลงในซอยร่วมฤดี และในเขตสำนักงานใหญ่องค์การโทรศัพท์ชิดลม มีการจ่ายเงินจำนวน 20 ล้านบาท โดยมีการแบ่งจ่ายจำนวนสามงวด
อีกทั้งหากย้อนกลับไปพิจารณาในคำแถลงของอัยการที่มีการตั้งโต๊ะชี้แจงชุดใหญ่ก่อนหน้านี้ อธิบายถึงสาเหตุที่เกิดข้อสงสัยว่า ทำไมถึงไม่ฟ้อง นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในความผิดฐาน “ให้สินบน” ทำไมถึงฟ้องเฉพาะผู้ต้องหาสองคนในฐานะ “ผู้รับสินบน” จำนวน 20 ล้านเท่านั้น
โดยทางอัยการบอกว่าเป็นการฟ้องตามสำนวนที่ทางพนักงานสอบสวนส่งมา โดยมีการแนบท้ายระบุว่า ได้มีการแยกสำนวนการสอบสวนในกรณีของนายสกุลธร ไว้ต่างหากในภายหลัง ในประเด็นที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมว่าเป็น“ผู้เสียหายจริงหรือไม่”
ขณะเดียวกัน เมื่อมาเปรียบเทียบกับคำแถลงของ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่พยายามอธิบายว่าเป็นเรื่องของ “ค่านายหน้า” ไม่ใช่เงิน “สินบน” และเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจ ซึ่งก็กลายเป็นข้อสงสัยตามมาว่า หากเป็นค่านายหน้าจริง ทำไมถึงต้อง “จ่ายก่อนล่วงหน้า” เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการจ่ายหลังจากการเจรจาตกลงซื้อขายกันเสร็จสิ้นในภายหลัง
นอกเหนือจากนี้ กรณีนี้ทางสำนักงานทรัพย์สินฯ จะเปิดให้เช่าที่ดินก็น่าจะเป็นการให้มีการแข่งขันเสนอราคาที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องใช้ “นายหน้า” มาเสนอราคา อย่างไรก็ดี นั่นเป็นคำอ้างของนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ แต่ในคำฟ้องของอัยการ และศาลคดีทุจริตได้ตัดสินจำคุกจำเลยทั้งสอง “ในความผิดลักษณะของการร่วมกันปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม และร่วมกันเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจ หรือได้จูงใจเจ้าพนักงานโดยทุจริต หรือผิดกฎหมาย ให้ทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่” ซึ่งหากให้เข้าใจง่ายก็คือ “เรียกรับสินบน” นั่นแหละ
ถึงได้บอกว่างานนี้ “ไม่เคลียร์” เหมือนกับว่า “ยิ่งแจง ยิ่งรัดคอตัวเอง” มากกว่าเดิม ไม่ได้กลายเป็นบวกเลยแม้แต่น้อย และหากเปรียบเทียบใน “ประเด็นร้อน” กับกรณีของพี่ชายคือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในเรื่องการถือครองหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ที่พยายามสร้างหลักฐานในเรื่องของการเดินทาง ตั๋วใบเสร็จทางด่วน การไปปรากฏตัวในต่างจังหวัด ที่ตรงกับวันเวลาที่อ้างว่าเป็นวันประชุมเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นบริษัท เป็นต้น จนนำไปสู่การล้อเลียนอย่างตลกขบขัน
กรณีของน้องชาย คือ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็เช่นเดียวกัน ที่ถือว่าเอกสารชี้แจงที่ออกมาจำนวน 3 หน้ากระดาษ ยังไม่เคลียร์โดยเฉพาะในปม “จ่ายเงินสินบน” กับ “ค่านายหน้า” สำหรับการขอเช่าที่ดินแปลงหนึ่ง รวมไปถึงข้อสงสัยถึงการเชื่อมโยงตามมากับการที่ทำไม พวก “ม็อบสามนิ้ว” ถึงต้องแสดงเจตนาบุกไปที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เมื่อหลายวันก่อน มันเกี่ยวข้องกันหรือไม่ อย่างไร อีกด้วย !!