ข่าวปนคน คนปนข่าว
** งานนี้มีหนาว! คดีน้องชายธนาธร “สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ” จ่ายใต้โต๊ะ 20 ล้าน แลกพัฒนาที่ทรัพย์สินฯ กองปราบฯ เคลื่อนไหวแล้ว
แม้สื่อหลายสำนัก รายการดังจะเงียบกริบ แต่ชาวโซเชียลฯ ยังติดตามกันติดๆ กรณี “สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ” น้องชาย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เข้าไปเกี่ยวข้องในฐานจ่ายเงินใต้โต๊ะ 20 ล้านบาท ให้กับ “จำเลย” ซึ่งเป็นคนในของสํานักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ แลกกับการได้สิทธิเช่าที่ดินระยะยาว บริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ย่านชิดลม มูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยไม่ผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอน
เรื่องนี้ชัดแจ้งด้วยคำพิพากษา “สกุลธร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลเอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เข้าไปเกี่ยวข้องเมื่อ 3 ปีก่อน ตอนปี 2560 ระหว่างเดือน มี.ค. 60 ถึงเดือน พ.ย. 60 เมื่อสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ได้ตรวจพบมีการปลอมแปลงเอกสารของสำนักงานทรัพย์สินฯ จึงได้สืบสวนแล้วให้ดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้อง โดยจำเลยในคดีนี้ มี 2 คน คือ “ประสิทธิ์ อภัยพลชาญ” และ “สุรกิจ ตั้งวิทวนิช” คนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทรัพย์สินฯ และอีกคนหนึ่งเป็นเหมือนคนกลางที่คอยประสานงาน
จำเลยให้การสารภาพว่า ได้ทำเอกสารปลอมถึงรายละเอียดที่จะให้เอกชนเข้ามาพัฒนาโครงการพัฒนาที่ดินทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เสนอ “สกุลธร” โดยได้เรียกรับเงินจาก “สกุลธร” 20 ล้านบาท แบ่งจ่ายเป็น 3 งวด งวดแรก 5 ล้านบาท งวดที่สอง 5 ล้านบาท และงวดสุดท้าย 10 ล้านบาท
คดีนี้จำเลยทั้งสองคนถูกตัดสินเป็นความผิดทุจริตต่อหน้าที่ และปลอมแปลงเอกสารราชการ รวมจําคุกคนละ 5 ปี จําเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงลงโทษจําคุกจําเลยทั้งสองคนละ 3 ปี ยังคงเหลือคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน ที่ “สกุลธร” ยังลอยนวล
งานนี้ วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ตั้งคำถามที่เกิดขึ้นว่า หน่วยงานใดควรเป็นผู้รับผิดชอบ ? จะฟ้องน้องชายธนาธรหรือไม่ เห็นว่า วันก่อน (4 ธ.ค.) “วัชระ เพชรทอง” อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ไปยื่นหนังสือถึง “วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์” อัยการสูงสุด ขอให้อัยการสูงสุดชี้แจงเหตุผล เหตุใดอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จึงไม่ฟ้อง “สกุลธร” สังคมก็หวั่นว่าอาจจะซ้ำรอยคดี “บอส กระทิงแดง” และ วันวาน (7 ธ.ค.) “วัชระ เพชรทอง” ยังตามบี้ไปที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยื่นหนังสือถึง “พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” ผบ.ตร. เพื่อสอบถามกรณีที่พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง “สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ด้วยเหตุใด
เรียกว่า ตามติด ขอให้ ผบ.ตร.สอบสวนพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และ ผกก.สถานีตำรวจผู้รับผิดชอบ ว่าเหตุใดจึงสั่งไม่ฟ้อง สกุลธร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการทางกฎหมายต่อสกุลธรอย่างไร ?
ขณะที่ยังไม่มีคำตอบจาก อัยการสูงสุด และ “บิ๊กปั๊ด” ผบ.ตร. ก็มีรายงานจากสำนักข่าวอิศรา แว่วว่า กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) อาจมีการเรียก “สกุลธร” มาแจ้งข้อกล่าวหาในคดีนี้
มีการเปิดเผยว่า การสอบสวนคดีนี้ กองปราบปรามฯ ดำเนินการสอบสวนในทางลับ ตั้งแต่ปี 2560 จนได้ข้อมูลการกระทำผิดที่ชัดเจนของเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ รายดังกล่าว จึงเชิญสำนักงานทรัพย์สินฯ มาเพื่อแจ้งความดำเนินคดีนี้ โดยระหว่างการสอบสวนคดี มี “พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม” (ยศขณะนั้น ปัจจุบันยศ พล.ต.ต. ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองปราบปรามฯ) เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ในระหว่างนั้น มีการถกเถียงว่า จะดำเนินคดีกับ “สกุลธร” หรือไม่ ในฐานะผู้ใช้ หรือผู้จ้างวาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 แต่ในที่สุดก็ไม่มีการดำเนินคดีกับ “สกุลธร” และไม่มีการเรียกสกุลธร มาสอบปากคำด้วย เพราะพยานเอกสารหลักฐานมีเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ สองรายนั้น
ดังนั้น ในการดำเนินการ หรือดำเนินคดีนี้ จึงไม่ปรากฏชื่อของ “สกุลธร” อยู่ในสำนวนเลย แต่ภายหลังเมื่อมีกระแสการวิพากษ์วิจารณ์คดีนี้ ทำไมถึงไม่มีการดำเนินคดีกับ “สกุลธร” ทางกองปราบปรามฯ จึงมีการหารือกันในเรื่องนี้ และเห็นว่า อาจมีการเรียกสกุลธร เพื่อมาแจ้งข้อกล่าวหาในคดีนี้แล้ว
งานนี้ บอกเลย มีหนาว !!
**“สนธิญาณ-เจ๊ปอง-กนก” จูบปากลงตัวกับ นิวทีวี ขณะที่ช่อง “เนฉาย” ได้ “ชูวิทย์” ชูโรง
มาอัปเดตความเคลื่อนไหวของวงการทีวีกันนิด โดยเฉพาะกลุ่มของ “สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม” หลังจากทางใครทางมัน หันหลังให้ เนชั่นทีวี ของ “ฉาย บุนนาค” มาพักใหญ่ พร้อมกับกลุ่มผู้ประกาศ พิธีกร ที่ลาออกมาด้วยกัน เช่น “เจ๊ปอง” อัญชะลี ไพรีรัก, สันติสุข มะโรงศรี, กนก รัตน์วงศ์สกุล, ธีระ ธัญไพบูลย์, วรเทพ สุวัฒนพิมพ์, สถาพร เกื้อสกุล และ อุบลรัตน์ เถาว์น้อย ก็มีภาพปล่อยออกมาในกลุ่มแฟนคลับ เป็นภาพถ่ายรวมหมู่คณะคล้ายๆ เตรียมโปรโมตรายการใหม่ กับช่องใหม่
ว่ากันว่า หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คดีพลิกกันอีก “ต้อย สนธิญาณ” น่าจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์นี้ โดยวงในระบุค่อนข้างแน่นอนว่า ไม่ใช่ช่องไหนให้เซอร์ไพรส์กันอีก นอกจากช่อง “นิวทีวี” ของ “ประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด” หรือ คุณแดง นั่นเอง ที่คราวก่อนเจรจาไม่ลงตัว คราวนี้ หันมาจูบปาก คุยกันลงตัวสักที
ขณะที่ อดีตคนเก่าเนชั่น ได้ที่ทางลงแล้ว ฝั่งของช่อง “เนฉาย” เนชั่นทีวี ของ ฉาย บุนนาค ก็ปรับผังดึงคนหน้าจอที่คิดว่าจะเป็นแม่เหล็กมาแทนที่กลุ่มสนธิญาณได้ โดยมี “ต๊ะ” นารากร ติยายน มาเป็นพิธีกร “เคลียร์ให้จบ” และ แว่วว่าจะได้ “เฮียชู” ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มาเป็นตัวชูโรงอีกคน
เรียกว่า ช่วงนี้วงการทีวีขยับกันคึกคัก ส่วนใครจะทำออกมาเป็นอย่างไร เรตติ้งดีแค่ไหน ต้องจับตาดูกันต่อไป
** คุกหลอน!! “อดัม” แกนนำ 3 นิ้วกระบี่ เผ่นไปฝรั่งเศส หลังเจอ ม.112 “กวิ้น-รุ้ง” ปากกล้าขาสั่น ปลุกม็อบรวมพล สภ.เมืองนนท์ กดดันตำรวจไม่ให้ส่งศาลฝากขัง เมื่อเจ้าหน้าที่เริ่ม “เช็กบิล” แกนนำม็อบ 3 นิ้ว ที่กระทำการจาบจ้วง ล่วงละเมิดสถาบันฯ ด้วย มาตรา 112 ก็ทำเอาวงแตก!!
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก “Adam Singha” ของ “สิงหา ทองเกิด” แกนนำกลุ่มกระบี่ไม่ทน ได้โพสต์ข้อความว่า...กำลังเดินทางไปที่ Paris France ลาก่อนประเทศไทย
ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก “Adam Singha” มักจะโพสต์ข้อความเรียกร้องประชาธิปไตย แต่แฝงไปด้วยการจาบจ้วงสถาบันฯ ต่างกรรม ต่างวาระ เหิมเกริมหนักข้อขึ้นทุกวัน กระทั่งมีการนำรูปภาพที่ไม่เหมาะสมของในหลวง และพระราชินี โพสต์ลงบนโซเชียลฯ จนถูกกลุ่มคนรักสถาบันฯ กระบี่ เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีอาญา มาตรา 112 เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา และทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ “สิงหา” ให้ญาติมาขอเลื่อน เมื่อมีการโพสต์เฟซบุ๊กอีกที ก็เป็นการแจ้งพิกัดว่า ไปปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นบ้านแม่แล้ว
“อดัม” สิงหา ทองเกิด เมื่อครั้งเป็นนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ถือว่าเป็น “คนดัง” ในหมู่นักศึกษา โดยในปีการศึกษา 2559 ทางมหาวิทยาลัย จัดงานท่าพระจันทร์ฟันเฟส มีการประกวด “เดือน-ดาว-ดิน” ซึ่ง “อดัม” ได้รับเลือกให้เป็น “เดือน” ประจำมหาวิทยาลัย
ว่ากันว่า “อดัม” ยังสนิทสนมกับ “อาจารย์คนดัง” ที่มีภรรยาเป็นชาวฝรั่งเศส จึงได้ซึมซับ รับแนวความคิดที่เป็น “ปฏิปักษ์” ต่อสถาบันฯมาด้วยและแสดงออกผ่านทางโซเชียลฯ มีแฟนคลับ 3 นิ้ว คอยติดตามกดไลก์ คอมเมนต์เห็นดีเห็นงามด้วยไม่น้อย ก็เลยฮึกเหิม หนักข้อ จนทะลุเพดาน ...
เมื่อถูกแจ้งความดำเนินคดี ก็ไม่เห็นใครมาดูดำดูดี จึงเกิดภาพหลอน “เดียวดายในห้องขัง” สุดท้ายก็เผ่นดีกว่า!!
การตัดสินใจของ “อดัม” ทำให้แกนนำระดับ “ตัวพ่อ-ตัวแม่” ของม็อบ 3 นิ้ว อย่าง “เพนกวิน” พริษฐ์ ชีวารักษ์ และ “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ก็ออกอาการ “หนาวคุก” ขึ้นมาทันที เพราะถูกแจ้งความดำเนินคดี มาตรา 112 เป็นหางว่าว ในหลายท้องที่
“กวิ้น” ถึงกับโพสต์บอกว่าเป็นข่าวร้าย... วันที่ 8 ธ.ค. เวลา 10.00 น. “กวิ้น-รุ้ง-ไมค์-ไบรท์” ต้องไปรับทราบข้อกล่าวหา คดี 112 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี และตำรวจจะนำตัวไปขอให้ศาลฝากขัง ท่ามกลางข่าวลือว่า จะมีการใช้กำลังกับเราด้วย ... จึงขอแรงทุกคนมาเป็นสักขีพยาน ความอยุติธรรมที่อาจเกิดขึ้น ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรีด้วย
เช่นเดียวกับ “รุ้ง” ก็โพสต์ระดมพลทุกคนนะคะ...ขอให้พี่น้องช่วยมาเป็นหูเป็นตา มาช่วยสังเกตการณ์การสอบสวนในครั้งนี้ โดยมีความหวังว่า ตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรมกับเรา ไม่นำตัวเราไปขอฝากขัง เหมือนที่ สน.ชนะสงคราม ได้ปฏิบัติกับพวกเรา
ชัดเจนว่า เป็นการเรียกระดมม็อบมากดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ให้นำตัวไปขอศาลฝากขัง ระหว่างการรวบรวมพยาน หลักฐาน ทำสำนวนคดี... เพราะถ้าศาลอนุมัติ ก็เป็นอันว่าต้องเดินคอตกเข้าเรือนจำ และเมื่อครบกำหนดฝากขัง หรือเมื่อศาลสั่งปล่อยตัวชั่วคราว ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากท้องที่อื่น มารออายัดตัวไปดำเนินคดี และขออำนาจศาลฝากขังอีก ซึ่ง “กวิ้น” เคยเจอมาแล้ว จึงต้องระดมม็อบมาเป็นโล่ ปกป้อง !!
แต่ไม่ว่าศาลจะอนุมัติให้ฝากขังหรือไม่ ... อนาคตของแกนนำม็อบกลุ่มนี้ก็คงยากที่จะรอดพ้นจากการได้รับโทษ เพราะสิ่งที่พวกเขาได้ทำลงไปนั้น ไม่เพียงเข้าข่ายหมิ่นเหม่ ต่อความผิดตามมาตรา 112 แต่เป็นเจตนาที่ชัดแจ้ง ครั้งแล้วครั้งเล่า
สุดท้ายปลายทางของคนกลุ่มนี้ ถ้าไม่จบลงอย่าง “อดัม” ที่ต้องเผ่นออกนอกประเทศ ...ก็จบคล้าย “โจชัว หว่อง” แกนนำม็อบเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่ง “หว่อง” ถูกศาลพิพากษาจำคุกไปแล้วเป็นเวลา 13 เดือนครึ่ง
แต่อย่าง “กวิ้น-รุ้ง” คงไม่แค่ 13 เดือนครึ่ง เพราะต่างกรรม ต่างวาระ หลายกระทง ยาวเป็นหางว่าว !!