“อัญชะลี ไพรีรัก” วอนแฟนคลับอย่าเดาจะไปไหน อีกไม่นานได้พบกันทุกแพลตฟอร์ม ย้ำจุดยืนสื่อมวลชนที่ดีเพื่อชาติ “เสริมสุข” บก.นิว 18 แจงน่าจะออนแอร์ก่อนสิ้นปี “กนก” เอือมเจอพิธีกรบางช่องลีลาเยอะ แต่กลวงก็คือกลวง ของปลอมไม่มีวันเป็นของจริง ซึ้งใจน้องหมิว-อุบลรัตน์ ลาออกปฏิเสธเงินก้อนโต กังขาทำไมสื่อด้อยค่าตนเอง รายงานพลิกขาวเป็นดำ ไม่สนใจศักดิ์ศรี อดีตโปรดิวเซอร์ LINE กนก แจงยังทำต่อแต่ใช้ชื่ออื่น แม้ต้องแบกกล้องถ่ายกันเองก็ยอม
วันนี้ (8 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก Anchalee Paireerak ของ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก อดีตผู้ประกาศข่าวเนชั่นทีวีที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ ได้โพสต์ภาพหมู่ที่นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้ก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย นำทีมผู้ประกาศข่าว อาทิ น.ส.อัญชะลี นายกนก รัตน์วงศ์สกุล นายธีระ ธัญไพบูลย์ ฯลฯ มาถ่ายภาพเพื่อโปรโมตรายการข่าว ระบุว่า “สิ้นสุดการรอคอย อีกไม่นานพวกเราจะกลับมาหน้าจอทีวี ในมือถือ บนเฟซบุ๊กไลฟ์ ในยูทูป ไม่ต้องเดาว่าเราจะไปที่ไหน อย่าร้อนรนว่าเราจะเปิดตัววันใด หรือส่องว่าใครทำอะไรบ้าง เพราะจุดหมายที่เราหลอมรวมกัน คือ การทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีต่อประเทศชาติ เราไม่เถียง เราทำ เราไม่นำพากับคำนินทา เราเดินหน้าต่อไป อีกไม่กี่วัน พบกันในวันแถลงข่าว ตอบหมดเปลือก”
ขณะที่เฟซบุ๊ก Sermsuk Kasitipradit ของนายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ บรรณาธิการบริหารสถานีโทรทัศน์นิว 18 โพสต์ข้อความระบุว่า “มาทานข้าวเที่ยงที่ร้านเก่ง มิตรใหม่ ในคูเมืองเชียงใหม่ เจอแฟนคลับนิว 18 ตามดูแหล่งข่าวเล่ามา เข้ามาทักพร้อมถามความคืบหน้าช่อง 18 กับทีมผู้ประกาศข่าวเนชั่น บอกลือกันจนไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถามคุณเป๊ปซี่หน่อย ล่าสุดเป็นอย่างไรครับ บอกแฟนคลับที่พาคุณพ่อมาทานข้าวด้วยว่า ทางคุณสนธิญาณเตรียมแถลงข่าวประกาศเป็นทางการ น่าจะช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้ ซักต่อว่าตกลงไปช่องไหน เท่าที่ฟังมาน่าจะเป็นช่องนิว 18 แต่ต้องรอการชี้แจงอย่างเป็นทางการจากทางข่องอีกทีครับ ทางนิว 18 ยังไม่ได้ชี้แจงอะไร แล้วออกอากาศเมื่อไหร่ ผมฟังมาว่าน่าจะเริ่มช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ธ.ค.ครับ ผมได้ยินมาประมาณนี้ครับ รอชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกที ขอบคุณที่มาทักครับ แฟนคลับแจ้งกลับ ผมจะได้ไปบอกเพื่อนๆ ที่ตามรอฟังข่าวคืบหน้ากัน”
ส่วนเฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul Fan Page โพสต์ข้อความระบุว่า “ถือเป็นคุณูปการของรายการโทรทัศน์ ที่ถูกจับสังเกตมาตลอดว่า อยู่ข้างสีส้ม สีแดง และอยู่ข้างม็อบ แม้พิธีกรจะมีลีลามากกว่าเนื้อหา มีภาษากาย หน้านิ่วคิ้วขมวดเยอะกว่า สาระอันแหลมคม แม้แขกรับเชิญจะเป็นถึงระดับแกนนำม็อบ ที่ได้รับการยกย่องจากสื่อต่างชาติจอมปลอมว่าเป็นผู้มีอิทธิพล แต่กลวงก็คือ “กลวง” ของปลอมไม่มีวันเป็นของจริง ความสว่างแห่งปัญญา ย่อมเกิดแก่วัยรุ่นหนุ่มสาวที่ได้ชมรายการตอนนี้ จากทีวีที่เป็นสื่อมีบทบาทน้อยลงๆ แต่ก็ปรากฏเป็นคลิป แชร์ต่อในโลกโซเชียลฯ ที่มีบทบาทสูง และเข้าถึงคนวัยนี้ในม็อบ ไม่ว่าเขาจะรับรู้ผ่านช่องทางไหนก็ตาม คนมันกลวง ก็ไม่มีวันเต็ม เพราะไม่ทำการบ้าน จะปิดถนนกี่ครั้ง กี่หน ก็ไม่มีอะไรมากกว่าคำหยาบคายจากแกนนำ ตามพื้นถนน และถ้อยความโกหกทั้งหลาย ที่จะถูกบุคคลอย่างอาจารย์อานนท์ ฝังกลบด้วยความจริง พิธีกร กล้าจัดอีกหรือเปล่า? รอวันให้หนุ่มสาวทั้งหลาย ตาสว่าง เหมือนลูกสาวเพื่อนของท่านทูตนริศโรจน์”
ส่วนอีกโพสต์หนึ่ง กล่าวชื่นชม น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย อดีตผู้ประกาศข่าวเนชั่นทีวีที่ลาออกไปพร้อมกับผู้ประกาศข่าวรุ่นพี่ ระบุว่า “ผมซึ้งใจน้องหมิว อุบลรัตน์มาก อายุแค่ 28 ปี แต่ปฏิเสธข้อเสนอก้อนใหญ่ ออกตามพวกเรามา ผลประโยชน์ก้อนนั้น เด็กสาวอายุแค่ 28 ปี ยังไม่เคยมีแน่ พวกพี่ๆ ทุกคนจะช่วยกันดูแล สนับสนุนเด็กคนนี้ให้เจริญในหน้าที่การงานแน่นอน ในขณะที่คนอื่นๆ อืม (ต้องว่ากันในทางลับ) ยกตัวอย่างผู้ประกาศคนหนึ่ง เราเคยคุยไลน์กันดีๆ พอผมออกมาแล้วทักไลน์ไป น้องคนนี้อ่านแล้วไม่ตอบเลย พวกเราแปลกใจว่าทำไมหนอ สื่อมวลชนจึงด้อยค่าตนเอง ยอมเป็นทาส ยอมรายงานข่าวที่พลิกกลับจากขาวเป็นดำ ขณะที่ยอดคนดูหายไปกว่าค่อน พวกเขาและเธอ ไม่สนใจอะไรเลย แม้แต่ศักดิ์ศรีตัวเอง นับวันก็จะมีคนรู้กันมากขึ้นๆ ว่า ตัวเองนั้น เงินซื้อได้”
ขณะที่อดีตโปรดิวเซอร์รายการ Line กนก ที่ลาออกไปพร้อมกับนายกนก โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “รายการลายกนกไทย” ระบุว่า “จดหมายจากใจ เขียนในนาม ป๊อก โปรดิวเซอร์ ส่งถึงแฟนรายการทุกท่าน คิดไปมาหลายรอบว่าจะเขียนดีไหม เพราะผมไม่ใช่คนดัง ไม่ได้อยู่ในแสงไฟ แต่มีแฟนรายการมากมายถามคำถามเข้ามาตลอดเกี่ยวกับรายการ ซึ่งพวกคุณทุกคนก็เป็นคนที่ผมแคร์ จึงเขียนจดหมายนี้ออกมา ในยุคปัจจุบันนี้ที่มีการแข่งขันกันสูง การที่รายการทีวีใดสักรายการจะมีอายุยืนยาว จะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง ต่อไปนี้ คือ 1. ต้องมีคอนเทนต์ เนื้อหารายการมากพอสมควร พอที่จะออกอากาศได้ระยะเวลายาวๆ 2. ต้องมีผู้สนับสนุนพอสมควร คือ รายการต้องสร้างรายได้ ต้องมีสปอนเซอร์ 3. ต้องมีผู้ชมพอสมควร หรือพูดง่ายๆ ว่า ต้องมีเรตติ้ง
รายการ LINE กนก ออกอากาศยาวนานมาจนมาสู่ปีที่ 7 ออกอากาศ 300 กว่าตอน รายการนี้เกิดขึ้นโดยอิงจากชีวิตของพี่กนก เป็นเรื่องราวความชอบส่วนตัวของพี่กนกทั้งสิ้น ทั้งเนื้อหาและแขกรับเชิญ ผมมีโอกาสได้เข้ามารับงานนี้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ EP.1 จะต้องเริ่มศึกษาความชอบ ความสนใจของพี่กนก แล้วหาเรื่องราวมานำเสนอ โดยจะคัดเนื้อหาที่ผมชอบด้วยเช่นกัน เมื่อพี่กนกคัดเลือก เห็นพ้องตรงกันกับเรื่องไหน เรื่องนั้นก็จะได้ทำเป็นรายการออกอากาศผ่านสายตาคุณผู้ชม โดยเรามีปณิธานในการทำรายการ อิงจาก 3 คอนเทนต์หลักๆ คือ
ชาติ : ทุกเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ของชาติไทย ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต อาหารการกิน และตำนานความเชื่อ
ศาสนา : เรามีหน้าที่ในการช่วยเผยแพร่ศาสนา หลักธรรมคำสอน คุณงามความดี ทั้งจากบุคคล และศาสนสถานต่างๆ
สถาบันพระมหากษัตริย์ : เรามีหน้าที่สืบสานและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องถ่ายทอดเรื่องราวส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้เกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ สร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์
จนกระทั่งวันหนึ่งเหมือนฟ้าผ่า เมื่อมีเหตุให้พี่กนกต้องเดินออกจากบ้านหลังนี้ ในวันที่บรรยากาศที่ทำงานเปลี่ยนไป ผมทราบแทบจะพร้อมทุกๆ คน และก็ตัดสินใจในวันนั้นเลยโดยไม่ต้องรีรอ แม้วันนั้นเรายังไม่รู้เลยว่าจะไปที่ไหน ทำอะไร พี่กนกยังให้คำตอบผมไม่ได้เลย ชีวิตอยู่บนความเสี่ยงมาก การที่จะต้องละทิ้งจากเซฟโซนของเราเอง ความสับสนเต็มไปหมด หลายคนเพิกเฉยกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ บางคนก็ใช้วิกฤตินี้ผลักดันตัวเอง ทุกคนล้วนมีเซฟโซน มีจุดยืนของตนเอง เป็นสิทธิส่วนบุคคลไม่ว่ากัน แต่ส่วนตัวสิ่งเดียวที่รู้ตอนนั้น คือ ผมผูกพันกับรายการนี้ ผูกพันกับพี่กนกและพี่ปุ้ม (นางลักขณา รัตน์วงศ์สกุล) ทั้งสองท่านต้องเดินออกจากเซฟโซนไป โดยที่ยังไม่รู้อนาคตตนเองเลย แล้วผมจะปล่อยให้พี่ที่เคารพทั้งสองออกไปเผชิญกับปัญหาเพียงลำพังได้ยังไง ทีมงานก็ไม่มี ช่างภาพก็ไม่มี การตลาดก็ไม่มี เซลก็ไม่มี นักข่าวคนอื่นก็ไม่มีใคร นอกจาก 7 ท่านตามข่าว เพราะพี่ปุ้มกับพี่กนกไม่ได้ชวนทีมงานโปรดักชันเลย เนื่องจากต้องให้เกียรติสถานที่ทำงานเก่า (ทีมงานข่าวข้นคนเนชั่น และทีมงาน LINE กนกทั้งหมด ยังคงอยู่ที่เดิมทุกคน) แต่อย่างน้อยถ้าผมออกไป อาจจะช่วยอะไรได้บ้าง จึงตัดสินใจลาออกเองด้วยความสมัครใจ ผมไม่รู้หรอกว่าเราจะไปที่ไหน ณ ตอนนั้น แต่รู้ว่ายังไงพี่กนกก็จะยึดมั่นในปณิธานเดิม จะพาไปในที่ที่เราได้แสดงออก ได้เป็นพี่กนกคนเดิม ทำรายการแบบที่เราชอบและคุ้นเคย จริงใจต่อเนื้อหาที่เรานำเสนอให้ผู้ชม
หลายคนพูดกันมากถึงการเป็นสื่อมืออาชีพ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเป็นสื่อมืออาชีพ ที่ตำรา แบบเรียน การสอน การบันทึก จากตักศิลาเล่มไหนๆ ก็ไม่สามารถสอนได้ก็คือ จิตสำนึกของความถูกต้อง ทุกเล่มสอนการเป็นสื่อให้ดีให้เก่ง สอนให้นำเสนอเรื่องจริง แต่เหนือสิ่งอื่นใด บางครั้งก็ต้องฉีกตำราทิ้ง ใช้ใจและจิตสำนึกเลือกสิ่งที่จะนำเสนอ เรื่องที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้สังคมด้วยเช่นกัน มีคนมากมายที่ไม่ได้รู้จักเรา ไม่รู้จักตัวตนพี่กนก แสดงทัศนคติต่างๆ นานา ทั้งแง่บวกแง่ลบ แต่ผมยืนยันได้ว่า ตลอดการทำงานทั้งอาชีพของผม รวมกับ 7 ปีที่ได้คลุกคลีกับพี่กนก ไม่มีพิธีกรคนไหนที่ซื่อสัตย์ ตั้งใจทำงานให้องค์กร และรักชาติ สถาบัน เท่ากับพี่กนกอีกแล้ว
นอกจากเรื่องของการทำงานที่ตั้งใจเต็มร้อย ดั่งที่ทุกคนได้เห็นผ่านหน้าจอตามรายการต่างๆ แล้ว เบื้องหลังใครจะรู้บ้างว่า พี่กนกเป็นคนที่ไม่เคยใช้รายการ หน้าที่ ตำแหน่ง ความมีชื่อเสียง ไปใช้แลกกับอภิสิทธิ์ใดๆ การทานอาหาร พักแรมฟรี ซึ่งรายการทั่วไปมักจะแลกสิทธิกับการถ่ายรายการเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ผิดแต่อย่างใด แต่พี่กนกจะต้องจ่ายเงินทุกครั้ง ไม่รับของฟรี แม้เจ้าของร้านจะคะยั้นคะยอแค่ไหนก็ตาม พี่กนกสามารถพักโรงแรมดีๆ ได้ แต่ก็จะมาเสียเงินพักโรงแรมหลักร้อยเหมือนกับน้องๆ ทีมงาน บ่อยครั้งที่พี่กนกจะควักเงินของตนเอง เพิ่มให้แขกรับเชิญ หรือบำรุงสถานที่ด้วยตนเอง แถมยังให้เงินส่วนตัวกับน้องๆ ทีมงานไว้ทานข้าวอีกด้วย พี่กนกไม่เคยใช้เอกสิทธิ์ใดๆ เหนือคนอื่น และถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม ที่ผมเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสถาบัน เกี่ยวกับบูรพกษัตริย์พระองค์ต่างๆ พี่กนกก็จะรีบตกลงทันที ถึงแม้เราสองคนจะรู้ว่าเรตติ้งตอนนั้นๆ อาจจะไม่สูงมาก ถ้าเทียบกับการทำรายการในเรื่องราวเนื้อหาบันเทิง เป็นเสมือนหนึ่งในปณิธานที่เรารู้กันว่า เราต้องทำ ดังนั้น ไม่ว่าใครจะพูดถึงพี่กนกอย่างไร แง่ไหน แต่ผมเชื่อในสายตาและความรู้สึกที่สัมผัสได้มาตลอด 7 ปี 300 กว่าสัปดาห์ที่เราต้องทำรายการด้วยกัน ความศรัทธาเกิดขึ้นจากการได้สัมผัสจริงๆ
ดังนั้น สรุปตอบคำถาม ที่แฟนรายการหลายท่านถามเข้ามา คือ รายการแนวนี้ ยังคงจะทำต่อไปแน่นอนในชื่ออื่น ในรูปแบบที่แฟนรายการจะต้องชื่นชอบเหมือนเคย จะไปอยู่ที่ไหน รอการแจ้งให้ทราบ เร็วๆ นี้ พิธีกรต้องหาใหม่ มีเพียงน้องหมิว อุบลรัตน์ ที่ออกมาด้วย ส่วนน้องเฟรมและน้องพลอย ไม่ได้ออก โปรดิวเซอร์ลาออก พี่กนกไปที่ไหน ผมไปที่นั่น ด้วยอุดมการณ์ที่ยึดมั่น ตรงกันเหมือนเดิม ยังมีพระราชประวัติของบูรพกษัตริย์อีกหลายพระองค์ที่อยากจะนำเสนอ และทัวร์พิเศษของรายการ ยังคงจะมีเช่นเคย จะยิ่งพิเศษขึ้นไปอีกแน่นอน มีบิ๊กเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน
ขอบคุณที่ติดตามมาตลอด 7 ปี แฟนๆ รายการทุกท่าน คือ คนที่ผมแคร์มากที่สุด วันนี้แม้เราจะลากันในนาม LINE กนก แต่ไม่ต้องกังวล เราจะต้องได้พบกันอีกแน่นอน แม้ว่าจะต้องแบกกล้องถ่ายกันเอง เราก็จะทำรายการต่อไป เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แล้วเจอกัน ตอนนี้ขอเวลาไปหาทีมงานใหม่ก่อน ป๊อก โปรดิวเซอร์ เขียนเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2563 สื่อมืออาชีพอย่างแท้จริงที่ไม่ใช่แฮชแทคสวยหรู ภารกิจใหม่จะนำยานแม่ลำใหม่บินไกลกว่าเดิมสู่กาแลคซี่ ความรักสร้างศรัทธา ชาติเสือต้องไว้ลายชาติชายต้องไว้...ลายกนก”