ผู้จัดการรายวัน360-แกนนำม็อบราษฎร โดนหมายเรียก ม.112 กันถ้วนหน้า “เพนกวิน-รุ้ง” นัดมวลชนมารวมตัวที่ สภ.นนทบุรีวันนี้ หวั่นตำรวจส่งฝากขัง ทำให้เสียอิสรภาพ “อานนท์” ทำนายเข้าข้างตัวเอง ใช้ ม.112 จะนำไปสู่การล้มเจ้า ประชาชนลุกฮือต่อต้าน จนชนชั้นนำอยู่ไม่ได้ “สมยศ”ลั่นแม้ต้องจ่ายด้วยต้นทุนทั้งชีวิต จะไม่ยอมปล่อยให้ม.112 เป็นภาระของคนรุ่นต่อไป “ฟอร์ด-มายด์-อั๋ว” เลื่อนพบตำรวจ ตามหมายเรียก “เอกชัย” รายงานตัวร่วมจัดชุมนุม ปัดแค่ไปยื่นหนังสือให้ ส.ส. แกนนำ 3 นิ้วกระบี่หนีแล้ว โพสต์อยู่ฝรั่งเศส หลังโดนคดี ม.112
วานนี้ (7 ธ.ค.) ทวิตเตอร์แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้โพสต์ข้อความระบุว่า รุ้ง ปนัสยา ถูกแจ้ง ม.112 โดยนางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.)
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2563 สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ออกหมายเรียก น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และนายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร กระทำผิดตามมาตรา 112 ตามที่นางแน่งน้อย ได้แจ้งจับในท้องที่ สภ.เมืองพิษณุโลก โดยให้นายอานนท์ และน.ส.ปนัสยา เดินทางไปรายงานตัวกับพ.ต.ท.มนู หรศาสตร์ รองผกก. (สอบสวน) ในวันที่ 21 ธ.ค.2563 เวลา 10.00 น.
นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำคณะราษฎร ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงหมายเรียกออกโดย สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2563 ข้อหาดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ โดยระบุว่า นางแน่งน้อย แจ้งความ ม.112 กับผม ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก และยังโพสต์อีกข้อความว่า วันนี้ (8 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ผม รุ้ง พี่ไมค์ และพี่ไบรท์เมืองนนท์ จะต้องเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาคดี 112 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี ซึ่งตำรวจได้โทรมาแจ้งกับทนายผมล่วงหน้าว่าจะนำตัวพวกผมไปขอให้ศาลฝากขัง ซึ่งอาจทำให้พวกผมต้องเสียอิสรภาพอยู่ในเรือนจำ ท่ามกลางข่าวลือว่าจะมีการใช้กำลังกับเรา
ส่วนน.ส.ปนัสยา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สรุปว่า ขอระดมพลทุกคนนะคะ ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยมาเป็นหูเป็นตา มาช่วยเราสังเกตการณ์การสอบสวน โดยมีความหวังว่าตำรวจ จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรมกับเราและไม่นำตัวเราไปขอฝากขังดังที่ สน.ชนะสงคราม ได้ปฏิบัติอย่างยุติธรรมกับพวกเรา
ด้านนายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร 2563 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สรุปว่า คำทำนายของผม จดไว้ข้างฝาบ้านได้ แล้วคอยดูว่ามันจะจริงมั้ย หลังการใช้มาตรา 112 อย่างหนัก รัฐจะเลือกขังคนที่โดน 112 เพื่อไม่ให้มีการเปิดประเด็นอื่นๆ อีก เพราะเท่าที่โดนเปิดแผลมา ก็สาหัสแล้ว จากนั้นจะตามคุกคามคนที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ ใช้เจ้าหน้าที่ไปกดดันที่บ้านบ้าง ใช้กฎหมายบ้าง ต่อมากระแสจะตีกลับ กลายเป็นว่า สิ่งที่เราเปิดแผลไว้มันถูกขยายไปในขบวนทางโซเชียลอย่างรวดเร็ว เกิดขบวนย่อยๆ ลงท้องถนนและถกเถียงเรื่องสถาบันกษัตริย์อย่างกว้างขวาง เกิดขบวนปฏิวัติประชาชนขั้นปฐมภูมิ ไฟจะลามไปถึงการเสนอให้ยกเลิกสถาบันกษัตริย์ ถึงตอนนั้นรัฐจะปราบปรามอย่างรุนแรง การยึดอำนาจโดยทหารจะเกิดขึ้น พร้อมการต่อต้านจากประชาชนทุกรูปแบบ เน้นย้ำว่า “ทุกรูปแบบ” ส่งผลให้ชนชั้นนำไทยต้องเดินทางลี้ภัยนอกประเทศ ขนสมบัติเท่าที่จะขนได้ไป และไม่ได้กลับมาเมืองไทยอีกเลย จากนั้นรัฐไทยจะถูกปกครองด้วยทหารสักระยะ แล้วจะค่อยๆ กลายเป็นรัฐประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ภายใน 5 ปี หลังจากนั้น ถ้าชนชั้นนำไทยเลือกเดินทางนั้น เราจะเหนื่อย จะเจ็บ แต่จะจบอย่างแน่นอน
ที่ สน.บางโพ พ.ต.ท.ธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางโพ ได้รับการประสานผ่านโทรศัพท์จากทนายความของนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือฟอร์ด น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ และ น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรืออั๋ว แกนนำกลุ่มคณะราษฎร เลื่อนวันนัดรายงานตัวตามหมายเรียกในความผิดตาม ม.112 กรณีการชุมนุมปราศรัยที่หน้ารัฐสภา แยกเกียกกาย ซึ่งมีเนื้อหาพาดพิงถึงสถาบัน เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยทนายความผู้ถูกกล่าวหาจะยื่นหนังสือเพื่อกำหนดวันเข้าพบใหม่อีกครั้ง
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารวอยซ์ ออฟทักษิณ และแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ที่เคยร่วมชุมนุมกับกลุ่มราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ได้หมายเรียกไปกับเขาด้วย ก็ถือโอกาสให้กำลังใจตัวเองไปด้วย อย่างน้อยก็ยังไม่น้อยหน้ากว่าไปกว่า ไผ่ ดาวดินที่โดนคดี ม.112 เป็นครั้งที่ 2 ไม่ว่าจะต้องจ่ายด้วยต้นทุนทั้งชีวิตก็จะไม่ยอมปล่อยให้มาตรา 112 เป็นภาระของคนรุ่นต่อไปอีก
ด้านนายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมการเมือง ได้เดินทางมารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน ตามหมายเรียกในความผิดฐานเป็นผู้จัดการชุมนุมและไม่แจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ จากการชุมนุมที่รัฐสภา แยกเกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พ.ย. โดยมีนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เดินทางมาเป็นพยาน โดยยืนยันว่าไม่ได้ไปร่วมการชุมนุม และจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสิงหา ทองเกิด หนึ่งในแกนนำกลุ่มกระบี่ไม่ทน ที่ถูกนายขจิต ผลอินทร์ ตัวแทนชาวบ้านในนามคนรักสถาบันจังหวัดกระบี่ และนายมะโน เครือแก้ว กำนันตำบลกระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ แจ้งความ ม.112 และถูกหมายเรียก แต่นายสิงหาได้ให้ญาติมาขอเลื่อนพบพนักงานสอบสวน ล่าสุดนายสิงหา ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า อยู่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นบ้านแม่ของนายสิงหา จึงเชื่อว่านายสิงหาได้เดินทางหลบหนีไปแล้ว
วานนี้ (7 ธ.ค.) ทวิตเตอร์แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้โพสต์ข้อความระบุว่า รุ้ง ปนัสยา ถูกแจ้ง ม.112 โดยนางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.)
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2563 สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ออกหมายเรียก น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และนายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร กระทำผิดตามมาตรา 112 ตามที่นางแน่งน้อย ได้แจ้งจับในท้องที่ สภ.เมืองพิษณุโลก โดยให้นายอานนท์ และน.ส.ปนัสยา เดินทางไปรายงานตัวกับพ.ต.ท.มนู หรศาสตร์ รองผกก. (สอบสวน) ในวันที่ 21 ธ.ค.2563 เวลา 10.00 น.
นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำคณะราษฎร ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงหมายเรียกออกโดย สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2563 ข้อหาดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ โดยระบุว่า นางแน่งน้อย แจ้งความ ม.112 กับผม ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก และยังโพสต์อีกข้อความว่า วันนี้ (8 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ผม รุ้ง พี่ไมค์ และพี่ไบรท์เมืองนนท์ จะต้องเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาคดี 112 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี ซึ่งตำรวจได้โทรมาแจ้งกับทนายผมล่วงหน้าว่าจะนำตัวพวกผมไปขอให้ศาลฝากขัง ซึ่งอาจทำให้พวกผมต้องเสียอิสรภาพอยู่ในเรือนจำ ท่ามกลางข่าวลือว่าจะมีการใช้กำลังกับเรา
ส่วนน.ส.ปนัสยา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สรุปว่า ขอระดมพลทุกคนนะคะ ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยมาเป็นหูเป็นตา มาช่วยเราสังเกตการณ์การสอบสวน โดยมีความหวังว่าตำรวจ จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรมกับเราและไม่นำตัวเราไปขอฝากขังดังที่ สน.ชนะสงคราม ได้ปฏิบัติอย่างยุติธรรมกับพวกเรา
ด้านนายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร 2563 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สรุปว่า คำทำนายของผม จดไว้ข้างฝาบ้านได้ แล้วคอยดูว่ามันจะจริงมั้ย หลังการใช้มาตรา 112 อย่างหนัก รัฐจะเลือกขังคนที่โดน 112 เพื่อไม่ให้มีการเปิดประเด็นอื่นๆ อีก เพราะเท่าที่โดนเปิดแผลมา ก็สาหัสแล้ว จากนั้นจะตามคุกคามคนที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ ใช้เจ้าหน้าที่ไปกดดันที่บ้านบ้าง ใช้กฎหมายบ้าง ต่อมากระแสจะตีกลับ กลายเป็นว่า สิ่งที่เราเปิดแผลไว้มันถูกขยายไปในขบวนทางโซเชียลอย่างรวดเร็ว เกิดขบวนย่อยๆ ลงท้องถนนและถกเถียงเรื่องสถาบันกษัตริย์อย่างกว้างขวาง เกิดขบวนปฏิวัติประชาชนขั้นปฐมภูมิ ไฟจะลามไปถึงการเสนอให้ยกเลิกสถาบันกษัตริย์ ถึงตอนนั้นรัฐจะปราบปรามอย่างรุนแรง การยึดอำนาจโดยทหารจะเกิดขึ้น พร้อมการต่อต้านจากประชาชนทุกรูปแบบ เน้นย้ำว่า “ทุกรูปแบบ” ส่งผลให้ชนชั้นนำไทยต้องเดินทางลี้ภัยนอกประเทศ ขนสมบัติเท่าที่จะขนได้ไป และไม่ได้กลับมาเมืองไทยอีกเลย จากนั้นรัฐไทยจะถูกปกครองด้วยทหารสักระยะ แล้วจะค่อยๆ กลายเป็นรัฐประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ภายใน 5 ปี หลังจากนั้น ถ้าชนชั้นนำไทยเลือกเดินทางนั้น เราจะเหนื่อย จะเจ็บ แต่จะจบอย่างแน่นอน
ที่ สน.บางโพ พ.ต.ท.ธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางโพ ได้รับการประสานผ่านโทรศัพท์จากทนายความของนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือฟอร์ด น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ และ น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรืออั๋ว แกนนำกลุ่มคณะราษฎร เลื่อนวันนัดรายงานตัวตามหมายเรียกในความผิดตาม ม.112 กรณีการชุมนุมปราศรัยที่หน้ารัฐสภา แยกเกียกกาย ซึ่งมีเนื้อหาพาดพิงถึงสถาบัน เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยทนายความผู้ถูกกล่าวหาจะยื่นหนังสือเพื่อกำหนดวันเข้าพบใหม่อีกครั้ง
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารวอยซ์ ออฟทักษิณ และแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ที่เคยร่วมชุมนุมกับกลุ่มราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ได้หมายเรียกไปกับเขาด้วย ก็ถือโอกาสให้กำลังใจตัวเองไปด้วย อย่างน้อยก็ยังไม่น้อยหน้ากว่าไปกว่า ไผ่ ดาวดินที่โดนคดี ม.112 เป็นครั้งที่ 2 ไม่ว่าจะต้องจ่ายด้วยต้นทุนทั้งชีวิตก็จะไม่ยอมปล่อยให้มาตรา 112 เป็นภาระของคนรุ่นต่อไปอีก
ด้านนายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมการเมือง ได้เดินทางมารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน ตามหมายเรียกในความผิดฐานเป็นผู้จัดการชุมนุมและไม่แจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ จากการชุมนุมที่รัฐสภา แยกเกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พ.ย. โดยมีนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เดินทางมาเป็นพยาน โดยยืนยันว่าไม่ได้ไปร่วมการชุมนุม และจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสิงหา ทองเกิด หนึ่งในแกนนำกลุ่มกระบี่ไม่ทน ที่ถูกนายขจิต ผลอินทร์ ตัวแทนชาวบ้านในนามคนรักสถาบันจังหวัดกระบี่ และนายมะโน เครือแก้ว กำนันตำบลกระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ แจ้งความ ม.112 และถูกหมายเรียก แต่นายสิงหาได้ให้ญาติมาขอเลื่อนพบพนักงานสอบสวน ล่าสุดนายสิงหา ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า อยู่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นบ้านแม่ของนายสิงหา จึงเชื่อว่านายสิงหาได้เดินทางหลบหนีไปแล้ว