“แกง” อีกแล้วหรือไม่ ... คงยังไม่สามารถสรุปแบบฟันธงได้ทันที หลังมีความเคลื่อนไหวของแกนนำม็อบคณะราษฎร เมื่อคืนวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ประกาศเปลี่ยนพื้นที่การชุมนุมจากเดิมที่นัดหมายจะไปชุมนุมที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ในวันนี้ (25 พ.ย.) ไปเป็นที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ หรือ SCB PARK ย่านรัชโยธินแทน แต่แม้จะยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่าการนัดหมายจะเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่ ก็มีเสียงแสดงความเห็นด้วยออกมาจากหลายฝ่าย
อดีตแกนนำกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. และเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้รณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2560 คนหนึ่ง แสดงความเห็นว่า การตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่ชุมนุมเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง โดยเฉพาะเมื่อจะมองเป้าหมายใหญ่ คือ “ความฝันอันสูงสุด” ที่อาจต้องเคลื่อนไหวต่อสู้กันไปอีกยาวนานพอสมควร โดยเฉพาะในกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เขาให้เหตุผล 2 ข้อ ที่เชื่อว่า เป็นหลักการที่ม็อบคณะราษฎร ตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่
ข้อแรก พื้นที่หน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็นพื้นที่ปิด ในแง่ของชัยภูมิที่จะใช้เป็นพื้นที่ชุมนุมถือว่าไม่ดีนัก เพราะเป็นถนนเส้นทางเดียว ถ้าเข้าไปแล้ว ต้องกลับออกทางเดิมเท่านั้น หรือต้องผ่านไปออกอีกฟากหนึ่งเลย และเห็นได้ชัดเจนว่า สถานที่นี้เป็นพื้นที่อ่อนไหวที่ฝ่ายรัฐจะไม่ยอมให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปถึงด้านหน้าสำนักงานอย่างเด็ดขาด ตลอดเส้นทางจึงถูกวางแนวกั้นอย่างแน่นหนาทั้งลวดหนามและตู้คอนเทนเนอร์หลายชั้น ดังนั้น ถ้าม็อบคณะราษฎร ยังยืนยันจะไปที่เดิม จะต้องเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่อย่างแน่นอน รวมทั้งยังมีมวลชนฝ่ายตรงข้ามนัดชุมนุมกันที่วัดมกุฏกษัตริยารามด้วย ซึ่งก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการปะทะทางฝั่งท้ายขบวนอีกด้าน
ข้อสอง อดีตแกนนำกลุ่มต้าน คสช. จึงมองว่า หากเกิดการปะทะขึ้นจริงๆ มีแนวโน้มว่าอาจจะรุนแรงกว่าเหตุการณ์ที่หน้ารัฐสภาเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยซ้ำ เพราะมีความอ่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์ค่อนข้างมาก ก็จะเป็นเงื่อนไขสำคัญให้ฝ่ายรัฐประกาศใช้กฎอัยการศึกได้ ตามที่นายกรัฐมนตรีออกประกาศมาแล้วว่าจะบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ ซึ่งจะทำให้สามารถใช้กำลังทหารเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ไม่ต่างจากการรัฐประหาร และในทางการข่าวก็พบว่า การประกาศกฎอัยการศึกเป็นแนวทางที่มีสัญญาณว่ามีความเป็นไปได้สูง หากการชุมนุมยังมุ่งหน้าไปที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และอาจลุกลามไปถึงการก่อรัฐประหารได้ด้วย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย
ด้วยเหตุผล 2 ข้อนี้ อดีตแกนนำกลุ่มต้าน คสช.คนนี้ จึงเห็นด้วยที่ม็อบคณะราษฎร ตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่การชุมนุม ส่วนที่แกนนำ 12 คน กำลังจะถูกดำเนินฐานหมื่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 ก็เป็นประเด็นที่ม็อบคณะราษฎร จะต้องขบคิดว่าจะจัดการขบวนต่อไปอย่างไร ซึ่งเชื่อว่า มีแนวทางอยู่แล้ว
อดีตแกนนำกลุ่มต้าน คสช. วิเคราะห์ด้วยว่า การตัดสินใจของม็อบที่เปลี่ยนสถานที่ชุมนุมในวันนี้ ก็ทำให้ชี้ชัดได้ว่า แกนนำคณะราษฎร ไม่ต้องการให้เกิดการปะทะ ไม่ต้องการให้มวลชนบาดเจ็บ และไม่ต้องการให้การชุมนุมถูกนำไปใช้เป็นข้ออ้างในการทำรัฐประหาร แม้ว่าหากมีรัฐประหารจริง ก็น่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเคลื่อนไหวที่เข้มข้นขึ้นด้วยซ้ำ
