xs
xsm
sm
md
lg

น่าคิด! “ไพศาล” จี้ทบทวน ส.ส.ใช้ตำแหน่งประกัน “ล้มเจ้า” เผย “อาชีวะฝั่งธน” ไม่ทน “3 นิ้ว” จาบจ้วง “สถาบัน”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ แกนนำกลุ่มราษฎร 63 หรือ แกนนำม็อบ 3 นิ้ว จากแฟ้ม
ทำเป็นศรีธนญชัย? “ลุงไพศาล” ข้องใจ ส.ส.ใช้ตำแหน่งประกัน “ล้มเจ้า” จี้ทบทวน “บุ๊ง-ท่อน้ำเลี้ยง” เผย “อาชีวะฝั่งธน” ขัดแย้งแกนนำ 3 นิ้ว จาบจ้วงสถาบันแรง จัดแล้ว! แจ้งเอาผิด ม.112 “ผู้พันสู้” อัดยับแกนนำม็อบจ่อลี้ภัย
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (20 พ.ย. 63) เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ของ นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์ข้อความระบุว่า

“ศาลอนุญาตให้ ส.ส.ใช้ตำแหน่งประกันตัวจำเลยได้!!!

ภาพ นายไพศาล พืชมงคล จากแฟ้ม
วัตถุประสงค์ในเรื่องนี้ ก็เพื่อให้ ส.ส.สามารถช่วยราษฎร ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม! โดยสามารถใช้ตำแหน่งประกันตัวได้ แต่มิได้มีวัตถุประสงค์ให้ ส.ส. ใช้ตำแหน่งไปช่วยประกันขบวนการล้มเจ้า ซึ่งเป็นปรปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข!!!

ซึ่งอาจเป็นแรงจูงใจให้ช่วยเหลือผู้กระทำความผิดโดยมิชอบ!!! ดังนั้น สภาก็ควรจะตรวจสอบเรื่องนี้

และศาลย่อมมีอำนาจที่จะตรวจสอบว่า ได้ใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยไปแล้วกี่คน เป็นวงเงินเท่าใด และอาจไม่อนุญาตให้ใช้ตำแหน่งประกันตัวต่อไปอีกก็ได้

ภาพ นายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ “บุ๊ง” จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน นายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ “บุ๊ง” นักเคลื่อนไหวทางการเมืองเครือข่ายคนเสื้อแดง ท่อน้ำเลี้ยงด้านสวัสดิการภายในม็อบ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

“เอาล่ะ... มาอัปเดตเรื่องอาชีวะที่มีปัญหาให้อ่านกันนะครับ หลังจากที่เมื่อคืนอาชีวะฝั่งธนพูดในทำนองว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อ 3 (ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์) ของการเรียกร้องและประกาศจะถอนตัวจากการชุมนุม ถ้ายังมีข้อ 3 ในการเรียกร้อง แล้ววันนี้เมื่อเช้า ได้ข่าวมาว่า มีใครบางคนรับเงินจาก ช เพื่อให้มาปั่นขบวนการให้วุ่นวาย แล้วก็มีแหล่งข่าวมาเล่าคล้ายๆ กันว่า ไอ้ห่านี่น่าสงสัย

ตนจึงตัดสินใจแหกปากโวยเมื่อตอนบ่าย และไปขอคุยกับกลุ่มอาชีวะฝั่งธน จนเมื่อกี้ก็ได้คุยกับน้องที่เป็นแอดมิน กลุ่มฟันเฟืองธนบุรี คำถามแรกเลยคือ... มึงรับเงิน ช มาจริงหรือป่าว น้องมันตอบว่า... ไม่จริงครับ ผมเกลียดพวกมันมาก ผมไม่ขายอุดมการณ์แน่นอน แต่กับคนอื่นผมไม่ทราบ และผมยืนยันฟันเฟืองธนบุรีไม่รับเงิน ช

คำถาม 2 แล้วกลุ่มเราอยากให้พี่จัดการอะไรครับ ผมอยากให้เบาๆ ข้อ 3 ลงหน่อยครับ เน้นเรื่องวิชาการให้มากขึ้น เพราะพวกผมเป็นห่วงผู้ชุมนุม ผมมองว่า ถ้ายังเป็นแบบนี้ เค้ายิงเราแน่นอนครับ ผู้ชุมนุมก็มีแต่วัยรุ่น ผมเป็นห่วงทุกคนครับ แต่พวกผมเรียบเรียงคำพูดไม่เป็น ข้อความที่ออกมามันเลยดูไม่ค่อยดี

แล้วน้องมันก็ขอมาว่า...อย่าเอาพวกผมไปขึ้นกับใครครับ ให้พวกผมไม่ขึ้นกับใคร แล้วพี่คอยดูแลเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ ก็พอ ไม่ต้องให้คนอื่นมาดูแลพวกผมครับ ถ้าพี่ให้ได้และเบาเรื่องข้อ 3 ได้ พวกผมพร้อมลุยต่อครับ... lll

จากนั้น นายปกรณ์ ได้โพสต์เพิ่มเติมอีกว่า เรื่องดูแลคนเจ็บก็อธิบายไปแล้วเมื่อเช้า...ตอนนี้ขอพูดถึงเรื่องทีมการ์ดบ้างนะครับ ตอนนี้เรามีกลุ่มที่ตั้งตัวเองขึ้นมาเป็นการ์ดหลายกลุ่ม มีทั้งการ์ดมวลชน การ์ดอาชีวะ การ์ดเสื้อแดง การ์ดนักมวย การ์ดอื่นๆ ตอนนี้ที่เราทราบรวมๆ แล้วมีกันประมาณ 10 กลุ่มใหญ่ แต่ละกลุ่มมีคนในมือ 50 คนขึ้นไป และทางเราอยากทำความรู้จักกับทุกกลุ่มอย่างเป็นทางการครับ

วันที่ 25 พ.ย.นี้ ที่เราจะนัดชุมนุมใหญ่กัน ผมกับทราย (อินทิรา เจริญปุระ) อยากขอทำความรู้จักกับทุกกลุ่มอย่างเป็นทางการครับ เราสองคนจะเดินไปหาทุกกลุ่มถึงที่ครับ ใครดูแลตรงไหน ผมกับทรายจะไปหาเองครับ จะขอตัวเลขทีมงานที่แต่ละกลุ่มมี แล้วเราจะจัดเตรียมอาหาร น้ำ ไว้ให้ทุกกลุ่มอย่างเต็มที่ มีกัน 100 คนก็จะได้อิ่มครบ 100 คนแน่นอนครับ

แล้วทางเราจะสอบถามถึงความต้องการของทุกกลุ่ม ว่าต้องการอะไรบ้าง คุณอาจจะขอมาร้อย เราอาจจะหาให้ได้ไม่ถึงร้อย แต่เราให้ไม่น้อยแน่นอนครับ แบ่งๆ กันไปครับ

ขอให้ทุกกลุ่ม เปิดบัญชีหลักแต่ละกลุ่มอย่างเป็นทางการด้วยนะครับ เพราะในวันนั้น เราจะแนะนำทุกกลุ่มพร้อมแนบเลข บช.ของกลุ่มนั่นๆให้ผู้ชุมนุมได้รับทราบ ให้คนทางบ้านได้อุ่นใจ และเผื่อมีใครอยากสนับสนุนกลุ่มไหนก็ให้เค้าโอนเงินช่วยกันได้เลยตรงๆ

วันที่ 25 พ.ย.นี้ เจอกันครับหนุ่มๆ”

ด้าน เฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ของ นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความ ระบุว่า คนกลุ่มหนึ่งทำความสกปรกเลอะเทอะไว้บนถนนและกำแพงรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งกำแพงรั้ววัดปทุมวนาราม ด้วยถ้อยคำที่กักขฬะเกินกว่าคนที่เป็นอารยชนจะยอมรับได้

แต่มีคนอีกกลุ่มหนึ่งมาช่วยกันลบข้อความอัปยศเลวทรามหยาบช้าเหล่านั้นด้วยความยากลำบาก ทั้งๆ ไม่ใช่หน้าที่อะไรของตนเอง

นี่คือความแตกต่างระหว่างความเลวทรามกับความดีงาม

นี่คือจิตใจของผู้ที่ไม่เคยได้รับการอบรมบ่มเพาะกับผู้ที่ได้รับการสั่งสอนอบรมมาดี

นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า มารยาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ

นี่คือความรุ่มร้อนที่มีแต่ทุกข์ใจกับความสงบเยือกเย็นที่จิตใจมีความสงบสุข

นี่คือกรรมชั่วกับกรรมดี ที่จะติดตัวผู้กระทำตลอดไปทั้งชีวิต

#กฎแห่งกรรมศักดิ์สิทธิ์เสมอตลอดไป

ภาพ แจ้งความเอาผิด คดี ม.112 จากเฟซบุ๊ก หรั่ง เครา
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น ผู้ใช้นามว่า หรั่ง เครา โพสต์ข้อความพร้อมภาพ การแจ้งความเอาผิด ผู้ชุมนุมที่ทำผิด ว่า

“จัดให้แล้วนะ พนักงานสอบสวนให้ไปกินข้าวก่อนแล้วให้กลับมาให้ปากคำตอน 13.00 ความผิดฐาน 112 (หมิ่นสถาบัน) และ 116 (ยุยงปลุกปั่น) ผมได้รวบรวมหลักฐานต่างกรรมต่างวาระ รวมๆ กันแล้วน่าจะได้ใช้ชีวิตที่เหลือในคุก

จึงเรียนมาเพื่อให้พี่น้องคนไทยผู้รักชาติโปรดเลียนแบบและปฏิบัติหน้าที่ปวงชนชาวไทยพิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (มาตรา 50) และเข้าดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษแก่ผู้ที่คิดร้ายต่อประเทศชาติทุกตัว...”

นอกจากนี้ นายชนินทร์ คล้ายคลึง หรือ “ผู้พันสู้” อดีตนายทหารกองทัพอากาศ และอดีตแกนนำเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ ซึ่งลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chanin Klayklung กล่าวถึงกรณีการ์ดอาชีวะฟันเฟืองธนบุรี ถอนตัวชุมนุมใหญ่ 25 พ.ย.นี้ว่า

กดดันให้กลุ่มอาชีวะลบโพสต์ เอาทัวร์ไปลง นี่แหละคือ สันดานเผด็จการ พวกมึงเตรียมเอกสารลี้ภัยกันไว้แล้ว รอแค่มีคดี 112 มึงก็เผ่นกัน ไม่ได้ต้องการอะไรกันหรอก เอาตัวเองรอดล้วนๆ

“ไปชุบตัวเสร็จ สร้างปัญหาทิ้งไว้ คนที่อยู่ภายในประเทศ หนีไม่ทัน ไม่มีเอกสาร ไม่มีตังค์ ไม่มีเส้น ก็โดนทอดทิ้ง แล้วก็หาแดกหัวคิวกันไป ใครไม่ยอมรับหรือมีท่าทีเป็นปรปักษ์ขัดขวางผลประโยชน์ ก็ปล่อยให้ตายไป และไอ้ที่ฆ่าๆ กันอีกกี่ศพที่ไม่มีชื่อเสียงก็ตายเปล่า จำหน่าย สูญหาย และมีชื่อเสียงหน่อยก็โยนขี้ให้เจ้า“”

นายชนินทร์ โพสต์เพิ่มเติมว่า พอคิดต่างจากพวกมึง ก็ใส่ร้ายเขาเป็นสายบ้าง ย้ายฝั่งบ้าง ล่าสุด กลุ่มฟันเฟืองจะถอนตัว เพราะว่าพวกนักปราศรัยเสือกหาตีนมากไป ก็ไปกล่าวหาพวกเขารับเงิน

แน่นอน, ดูเหมือนวีรกรรมของ “ม็อบ 3 นิ้ว” จากการชุมนุมใหญ่ กดดันการพิจารณารับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ของรัฐสภา เมื่อวันที่ 17-18 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่มีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์อย่างร้ายแรง จนมิอาจพรรณนาได้นั้น

ทำให้แม้แต่กลุ่มแนวร่วมม็อบ 3 นิ้วเอง ก็ยังรับไม่ได้ และถึงกับประกาศถอนตัว ไม่ร่วมชุมนุมในวันที่ 25 พ.ย. ทีเดียว

ยิ่งกว่านั้น อีกด้านหนึ่ง นัยว่า “วีรกรรม” ครั้งนี้มิใช่เหตุบังเอิญที่อารมณ์พาไปแต่อย่างใด หากแต่แกนนำม็อบ “3 นิ้ว” วางแผนเอาไว้แล้ว ที่จะบีบให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ ม.112 ในการเอาผิด และจะได้ใช้เงื่อนไขข้อนี้ขอลี้ภัยทางการเมืองยังต่างประเทศ เรื่องนี้จริงหรือไม่ คนที่รู้ดีที่สุด ก็คือ แกนนำ “3 นิ้ว” นั่นเอง แต่ถึงกระนั้น การที่ฝ่ายเสื้อแดงลี้ภัยเป็นคนแฉออกมา ก็นับว่าน่าฟัง

อย่างไรก็ตาม ที่น่าจับตามองก็คือ การแจ้งความเอาผิดตามกฎหมายอาญา ม.112 โดยประชาชนคนไทย ที่จงรักภักดีต่อสถาบันทั่วประเทศ ถือว่า เป็นงานยากของแกนนำม็อบ “3 นิ้ว” ทันที เพราะอย่าลืมว่า ตราบใดที่ไม่หนี ตราบนั้นก็จะถูกจับกุมขึ้นศาลเป็นว่าเล่น เพราะประเด็นหลักที่ม็อบ “3 นิ้ว” ใช้หล่อเลี้ยงมวลชน ก็คือ การปฏิรูปสถาบัน และการปราศรัยอย่างเผ็ดมันในอารมณ์นั่นเอง

เหนืออื่นใด “วีรกรรม” ของ “ม็อบ 3 นิ้ว” ดังกล่าว ยังทำให้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มตาสว่าง ว่าแท้จริงแล้ว พวกเขาต้องการอะไรกันแน่ ระหว่างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ตามครรลองทางการเมือง กับ ความต้องการ “ล้มเจ้า” อย่างที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตมาตลอด และดูเหมือนม็อบ 3 นิ้ว กำลังขาดความชอบธรรมอย่างมาก ในสายตาของคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะรัฐสภา ก็พร้อมเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามข้อเรียกร้อง เพื่อประชาธิปไตยแล้ว ขณะที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้ขัดขวางรัฐสภา แต่อย่างใด

เมื่อเป็นเช่นนี้ ม็อบใหญ่ในวันที่ 25 พ.ย. ที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ทวงภาษีประชาชนนั้น น่าจับตาว่า ยังมี “วีรกรรม” อะไรอีกที่ยังไม่ได้ทำ และยังทะลุเพดานไม่พอ สำหรับการเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ รวมทั้งจะเกิดอะไรรุนแรงขึ้นหรือไม่ คนไทยรอลุ้นกันเอาเองก็แล้วกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น