xs
xsm
sm
md
lg

งัดทุก กม.หวดม็อบ จ่อขอถอนประกันแกนนำ “ฟันเฟืองธนฯ”ไม่ร่วม25พ.ย.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“นายกฯ” ออกแถลงการณ์ จำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติ บังคับใช้ กม.ทุกฉบับ เอาผิด "ม็อบ" หลังสถานการณ์ส่อรุนแรงขึ้น ปล่อยไปอาจเสียหายต่อประเทศ ตร.เล็งขอศาลถอนประกันแกนนำราษฎรที่ทำผิดเงื่อนไข "ดี้" กระตุกรัฐใช้ ม.112 จัดการ

จากกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรชุมนุมที่บริเวณโดยรอบรัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ซึ่งมีเหตุการณ์ปะทะกันของผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม พร้อมกับพบการใช้อาวุธปืน และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ต่อเนื่องจนถึงการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่พบพฤติกรรรมผู้ชุมนุมทำการสาดสีและเขียนข้อความใส่ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) บริเวณกำแพง, ป้ายรถเมล์, กล้องซีซีทีวี และพื้นถนน โดยเป็นข้อความจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ และหยาบคาย นั้น

วานนี้ (19 พ.ย.) ตั้งแต่ช่วงเช้า พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก สตช. พร้อมด้วย พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษก สตช. ร่วมลงพื้นที่ สำรวจความเสียหายบริเวณโดยรอบ สตช.พบว่า มีกล้องวงจรปิดถูกพ่นสีทับเพื่อป้องกันการหาพยานหลักฐานเอาผิด รวม 13 ตัว ยังมีป้าย สตช., กำแพง และโคมไฟ ที่ได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง โดยได้มอบหมายให้ตำรวจสันติบาล แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ และความผิดตาม พ.ร.บ.ความสะอาด ที่ สน.ปทุมวัน นอกจากนี้ยังมีตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จากการถูกขว้างปาสิ่งของจากข้างนอก 3 นาย ซึ่งแจ้งความไว้ที่ สน.ปทุมวันแล้วเช่นกัน ส่วนมูลค่าความเสียหาย อยู่ระหว่างการประเมิน

"ขอฝากเตือนไปยังผู้ชุมนุมว่า การชุมนุมเป็นสิทธิตามกฎหมายแต่ขอให้ชุมนุมโดยสันติ ไม่ใช่การทำลายทรัพย์สินราชการที่มาจากภาษีประชาชน" รองโฆษก ตร.ระบุ




นายกฯสั่งใช้กม.ปราบม็อบ

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ออกแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี ในการดำเนินการกับกลุ่มม็อบว่า "จากสถานการณ์การชุมนุมในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลและทุกฝ่ายกำลังร่วมกันหาทางออกโดยสงบและสันติ บนพื้นฐานของกระบวนการตามกฎหมาย และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่สถานการณ์ดังกล่าว ยังไม่มีท่าทีที่จะบรรเทาลง แม้รัฐบาลได้แสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา โดยหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้ใช้ความพยายามปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย รวมทั้งติดตาม และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินการต่างๆ ตามหลักสากล ด้วยความระมัดระวัง แต่สถานการณ์ยังคงไม่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีนัก และมีแนวโน้มจะพัฒนาไปสู่ความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปอาจเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ และสถาบันอันเป็นที่รักยิ่ง รวมทั้งความสงบสุขปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รัฐบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคง จึงจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติ โดยจะบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ ทุกมาตรา ที่มีอยู่ ดำเนินการต่อผู้ชุมนุมที่กระทำความผิด ฝ่าฝืนกฎหมาย เพิกเฉยต่อการเคารพสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยจะดำเนินคดีต่างๆ ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศที่สอดคล้องกับหลักการสากล”




ตร.ไม่หวั่นใช้ มาตรา 112

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เชื่อว่านายกฯได้ถอยทุกก้าวแล้ว ด้วยการใช้ช่องทางต่างๆ ตั้งคณะทำงานเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมแต่กลุ่มผู้ชุมนุมกลับไม่ยอมรับละเมิดกฎหมายมากขึ้นเรื่อยๆ และส่อความรุนแรงมากขึ้น ส่วนหลังจากนี้จะดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างไร กฎหมายระบุไว้แล้วว่า การจะดำเนินคดีกับใครต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบความผิด รวมทั้งจะนำมาตรา 112 มาใช้หรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับพฤติกรรม และเจตนาของบุคคลนั้นด้วยหากมีการกระทำผิดจริง ก็จะนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการ

“ตำรวจไม่ได้กังวลที่จะนำมาตรา 112 มาใช้ เพราะเป็นไปตามหน้าที่ตามขั้นตอน ยืนยันว่าตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับกลุ่มใด แต่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย” พล.ต.ต.ปิยะ ระบุ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ส่วนความรุนแรงที่เกิดขึ้นในการชุมนุมที่แยกเกียกกาย ถนนทหาร ตำรวจมีข้อมูลว่า ชายสวมเสื้อกันฝนสีชมพู ซึ่งคาดว่าเป็นการ์ดของกลุ่มราษฏร และเป็นผู้นำอาวุธปืนมาเปิดฉากยิงใส่กลุ่มประชาชนสวมเสื้อเหลืองก่อน ส่วนจะมีการฝึกฝนการใช้ปืนมาก่อนหรือไม่ อยู่ระหว่างสืบสวน รวมทั้งหลักฐานปลอกกระสุนปืนที่ตกในที่เกิดเหตุ โดยพนักงานสอบสวนจะเก็บหลักฐานดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะโดยมิชอบ และร่วมกันตั้งแต่ 10 คนเป็นต้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง รวมถึงทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และทำให้เสียทรัพย์สิน ทำลายทรัพย์สินทางราชการ




"ดี้" กระตุกรัฐใช้ ม.112 จัดการม็อบ

ทางด้าน "ดี้" นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nitipong Honark เรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 ในทันที โดยข้อความระบุว่า “ตักบาตรอย่าถามพระ...ม.112 อย่าถามในหลวง..#ได้เวลาแล้ว #ได้เวลาแล้ว"

เช่นเดียวกับเฟซบุ๊ก “จุลเจิม ยุคล” ของ ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ “ท่านใหม่” ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “เกินจะทนจริงๆ เลวกว่าเป็นมนุษย์ที่บอกตัวเองว่า เป็นคนไทย อิสรภาพ และเสรีภาพ เกินขอบเขตไปกันใหญ่แล้ว ถึงขนาดเขียนข้อความ สาปแช่ง พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งพระองค์ท่านไม่เคยทำความเดือดร้อนอะไรให้ใคร ตอนนี้ พวกมันไม่ได้ย่ำยีแค่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เท่านั้น ปัจจุบันลามปามไปย่ำยีถึงบุพการี ของพระองค์ท่านกันแล้ว ม.112 ควรนำออกมาใช้ได้แล้ว ก่อนที่จะเหลิงกันมากไปกว่านี้”




เตือน “ม็อบ” เข้ารกเข้าพง

ขณะที่ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ส.ว. ในฐานะประธาน กมธ.พิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา กล่าวถึงการชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง ของกลุ่มนักศึกษาเยาวชน ว่า ปัจจุบันต้องช่วยกันพิจารณาว่า ได้เดินมาถึงจุดที่พ้นความชอบธรรมในการเรียกร้องทางการเมืองไปแล้วหรือไม่ มีข้อชวนคิดว่า การปราศรัยของแกนนำบนเวทีหลัก เวทีย่อย แกนนำที่พูด หรือเขียนชี้นำผ่านโซเชียลฯ คนที่อยู่เหนือแกนนำ ที่โพสต์ข้อความทั้งชี้นำ ชี้แนะ ยุยง ก็ดี ผู้ชุมนุมที่ เขียน พูด ดูหมิ่นจาบจ้วง สถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพรักของคนไทยทั้งมวล ทำให้เราค้นพบว่า สิ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมทำมาแต่ต้น จนถึงปัจจุบัน เป็นการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ มิใช่การปฏิรูปหรือการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความเคารพ สร้างสรรค์ หวังดี

"สิ่งที่กำลังทำหาใช่หนทางของการสร้างอนาคตที่ดีให้กับสังคม ประเทศชาติ หรือตัวเองไม่ แต่กำลังพาเด็กดีๆทั้งหลาย เดินเข้ารกเข้าพง ไม่เห็นอนาคตที่ดีรออยู่ข้างหน้าแม้แต่น้อย คนไทยอยากเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย เศรษฐกิจที่แย่อยู่ จะได้แก้ไขได้ง่ายขึ้น เด็กๆไม่ต้องลงถนนแล้วได้รับผลเสียตามมา คนอื่นทำมาหากินใช้ชีวิตลำบาก ที่สำคัญที่สุด วางสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้เหนือความขัดแย้งทั้งปวง อย่าทำเช่นทุกวันนี้ เราจะไม่มีทางอื่นไป" นายสุวพันธุ์ ระบุ




“นักเรียนเลว” นัดไล่ไดโนเสาร์

ขณะที่ เพจเฟชบุ๊ก "นักเรียนเลว" โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กว่า “ถ้าสภาผู้แทนราษฎร รับบทไดโนเสาร์ ไม่รับ ไม่รู้ ไม่เปลี่ยนแปลง นักเรียนอย่างเราก็จะเป็นอุกกาบาต พุ่งชนความล้าหลังของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เมื่อเรียกร้องเรื่องการศึกษาแล้วไดโนเสาร์ไม่รับฟัง เจอกันราชประสงค์ 21 พ.ย. นี้ นักเรียนจะพูดทุกเรื่อง ทุกเรื่องที่ไดโนเสาร์ไม่อยากฟัง”




"ชวน"แจ้งความถูกใส่ร้าย

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวถึงการชุมนุมของคณะราษฎร ที่หร้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พุดเสมอว่า ยินดีต้อนรับผู้มาเยือน และผู้ชุมนุมมีสิทธิ์เรียกร้องตามรธน.ได้ โดยสงบ และปราศจากอาวุธ และการดำเนินการป้องกันภายนอก ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา เป็นผู้ดูแลความสงบเรียบร้อยในรัฐสภา มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชัดเจน ในการดูแลภายนอก ประธานรัฐสภาไม่มีอำนาจไปสั่งการเจ้าหน้าที่ภายนอกนอกรัฐสภา ปิดถนน หรือดำเนินการอะไร แต่ก็มีผู้ใช้โซเชียลฯ ทั้งทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก บิดเบือนข้อเท็จจริง กล่าวหาใส่ร้ายว่า ประธานรัฐสภา เป็นคนสั่งการให้ทำร้ายประชาชน ซึ่งจากการที่ตนสืบมา พบว่าเป็นกลุ่มของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งมีข้อความลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก โดยตนได้รับรวมไว้หมดแล้ว และได้นำเสนอประธานรัฐสภา เพื่อให้มอบอำนาจไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อบุคคลที่กล่าวหาใส่ร้าย ซึ่งนายชวน ได้ลงนามในหนังสือมอบอำนาจแล้ว โดยในสัปดาห์หน้าตนจะไปแจ้งความร้องทุกข์ข้อหาหมิ่นประมาท ที่ สน.บางซื่อ และที่ ปอท. ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยจะดำเนินการให้ถึงที่สุด

วันเดียวกัน ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "หมูครับ แต่ไม่หมู" หรือนายหมู (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) หนึ่งในแกนนำกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตย แนวร่วมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคณะราษฎร 2563 โพสต์ข้อความระบุว่า “ผมและเพื่อนพี่น้องฟันเฟืองขอประกาศจุดยืน ผมจะเรียกร้องประชาธิปไตยตามแนวทางแบบอาชีวะเท่านั้น ม็อบที่แกนนำไปยุ่งเกี่ยวกับสถาบันเบื้องสูงจนเลยขอบเขตมากเกินไป ไม่ได้ไล่ประยุทธ์และรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ผมและเพื่อนพี่น้องฟันเฟืองอาชีวะจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับม็อบที่ชุมนุมนั้นอย่างเด็ดขาด การชุมนมวันที่ 25 พ.ย.นี้ ผมและเพื่อนพี่น้องอาชีวะฟันเฟืองส่วนใหญ่ขอถอนตัวครับ ใครจะไปสนับสนุน ใครจะไปก็ไปเราไม่บังคับ แต่ขอให้ไปในนามมวลชน อย่าแสดงสัญลักษณ์ปลอกแขนฟันเฟือง ฟันเฟืองลงมติขอเรียกร้องประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ ไม่สนับสนุนยุ่งเกี่ยวกับการจาบจ้วงใดๆ ทั้งสิ้น วันที่ 22 พ.ย. มีการชุมนุมย่อยที่ถนนอักษะ ขอให้เพื่อนพี่น้องฟันเฟืองไปร่วมชุมนุมแสดงพลังและจุดยืนกันที่นั่น ส่วนวันที่ 25 พ.ย. ผมและเพื่อนพี่น้องฟันเฟืองใหญ่ลงมติขอถอนตัว ใครจะไปขอย้ำให้ไปแบบมวลชน อย่าใช้คำว่าฟันเฟือง เราสู้ เราลุยตามแบบวิถีอาชีวะบนถนนประชาธิปไตยเป็นแนวหน้าและแนวหลังให้มวลชน ไม่ได้เป็นแนวป้องกันหรือสนับสนุนให้แกนนำคนใดที่กระทำเกินขอบเขตในระบอบประชาธิปไตย เราเอา 1. ไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี 2. ไม่เอารัฐประหารซ้อน ไม่เอาเผด็จการ คอยปกป้องดูแลประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างถูกต้องในขอบเขตที่อยู่ในที่ชุมนุม โพสต์วันที่ 19/11/63 หมูฟันเฟือง”

อย่างไรก็ตาม ภายหลังผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวลบข้อความออก ต่อมา เฟซบุ๊กเพจ "ฟันเฟืองธนบุรี - Gear Of Red Thonburi" แนวร่วมม็อบ 3 นิ้ว ได้โพสต์เฟซบุ๊กเช่นกันว่ามีคำถามเข้ามามากมายว่าเราจะหยุดสู้จริงรึไม่? เราไม่มีวันหยุดสู้ไม่มีวันที่จะหยุดเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยไม่มีวันที่จะหยุดเคียงข้างประชาชนเพื่อนนักเรียนนิสิตนักศึกษา แต่ในวันนี้มันมีเรื่องราวมากมายที่เราต้องการคำตอบจากขบวนที่เราสอบถามมาเนิ่นนานตั้งแต่วันแรกๆที่ออกมามันไม่ใช่คำถามที่คาใจของเพียงแค่เราตัวแทนแต่มันคือคำถามที่คาใจของเพื่อนพี่น้องอาชีวะหลายๆท่านที่ร่วมเดินทางกันมา เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงคำถามเดียวมันมีคำถามอีกมากมายที่เราไม่เคยได้รับคำตอบ”

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ในการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคณะราษฎร 2563 ได้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ก่อนเคลื่อนขบวนมายัง สตช.ปรากฏว่าหนึ่งในผู้ชุมนุมปีนขึ้นไปยังฐานพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แล้วพ่นข้อความที่ไม่บังควร ในลักษณะอาฆาตมาดร้าย ทำให้ถูกสังคมมองว่าผู้ชุมนุมไม่ได้มีเจตนาที่จะปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่กล่าวอ้าง ขณะเดียวกันทางแกนนำม๊อบราษฎรก็ได้ประกาศนัดชุมนุมใหญ่หน้าสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในวันที่้ 25 พ.ย.ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น