xs
xsm
sm
md
lg

“ม็อบสามนิ้ว” ป่วนทิ้งทวน-จบไม่สวย !!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา

จะเรียกว่า “จบเกมแบบไม่สวย” เลยสำหรับ “ม็อบสามนิ้ว” เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่พวกเขาประกาศชุมนุมใหญ่ เพื่อกดดันตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อที่มีมาแต่เดิม แต่เมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวในการชุมนุมล่าสุด ถือว่ามี “เจตนาพุ่งตรงไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์” โดยตรงเพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อพิจารณาจากเนื้อในจดหมายที่กระทำในแบบสัญลักษณ์ “ไม่ใช่เจตนาต้องการปฏิรูป” แต่มีเจตนา “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” เพราะถ้อยคำที่เขียนนั้น หากพิจารณากันแบบที่เข้าใจความหมายกัน ก็คือ “ไม่ให้เกียรติ” เลย

อีกด้านหนึ่ง มันก็เหมือนกับมีเจตนา “ท้าทาย” อารมณ์ความรู้สึกของคนไทยอีกมากมาย ที่รักและเทิดทูนสถาบันฯ ดังนั้น อย่าได้แปลกใจที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาไม่พอใจจากสังคมในวงกว้างมากขึ้นกว่าเดิม หลายคนเริ่มแสดงอาการรับไม่ได้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากอาการและพฤติกรรมในการชุมนุมยังคงถูกมองว่าเต็มไปด้วยความ “หยาบคาย” ก้าวร้าว มากกว่าเดิมเสียอีก ที่สำคัญ มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ไม่ได้เป็นการชุมนุมแบบสันติอย่างที่อ้างเอาไว้ ซึ่งพฤติกรรมรุนแรงที่ว่านี้ยังเกิดขึ้นตามเวทีคู่ขนานในต่างจังหวัด เช่น ที่พัทยา ที่เกิดเหตุทำร้ายร่างกายชาวต่างชาติ จนได้รับบาดเจ็บดังที่ปรากฏให้เห็นในภาพข่าวไปแล้ว

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวที่เกิดขึ้น อาจเป็นเพราะคนที่ “ชักใย” อยู่ข้างหลัง หรือในเงามืดใช้ยุทธวิธี “ไม่ให้แกนนำแสดงตัวชัดเจน” เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี แต่ขณะเดียวกัน นั่นก็อาจกลายเป็นจุดอ่อนที่ไม่สามารถควบคุมการชุมนุมได้อย่างทั่วถึง

อีกทั้งหากพิจารณาจากความเป็นจริงในสถานการณ์ม็อบ พิจารณาจากมวลชนที่มาร่วมในครั้งนี้ หากมองให้ละเอียดจะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็น “คนเสื้อแดง” ที่มีรายงานว่า ส่วนใหญ่มาจากพื้นที่ชานเมืองและปริมณฑล ในลักษณะ “หยิบยืม” หรือแบบ “รวมกันเฉพาะกิจ” สำหรับภารกิจเฉพาะทางดังกล่าว หากพิจารณาจากแกนนำหลักที่เข้ารักษาตัวที่ “โรงพยาบาลพระราม 9” และเชื่อมโยงไปถึง “เจ้าของ” มันก็ทำให้มองกันว่าพฤติกรรมการ “กราบ” กันทั้งครัวนั้น แท้จริงแล้วอาจเป็นการ “ลับลวงพราง” ให้ตายใจหรือเปล่า

แน่นอนว่า การชุมนุมครั้งนี้ของ “ม็อบสามนิ้ว” มีเจตนาที่ชัดเจนว่าพุ่งเป้าโจมตี ดิสเครดิตไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก ตามเจตนาของคนที่ชักใยต้องการให้เป็นแบบนั้น เพราะความพยายามหรือเคลื่อนขบวนไปที่พระบรมมหาราชวัง มันก็มีความหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว และที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีการชุมนุมครั้งไหนที่ทำแบบนี้มาก่อน

พฤติกรรมดังกล่าวแบบนี้แหละที่สร้างความขุ่นเคืองให้กับสังคมจำนวนมาก เพราะมองว่าม็อบ “ล้ำเส้น”


ขณะเดียวกัน หากมองในมุมของคนที่เข้าใจม็อบแล้วทำให้พิจารณาได้ว่า เหมือนกับพฤติกรรม “ทิ้งทวน” อะไรประมาณนั้น เหมือนกับว่า มาเพื่อทำภารกิจนี้ให้ได้สักครั้ง เพราะเมื่อพิจารณาจากจำนวนมวลชนที่เข้าร่วม เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ก็ถือว่ามีจำนวนไม่มาก อาจจะน้อยกว่าทุกครั้งที่เรียกว่าการชุมนุมใหญ่ของ “ม็อบสามนิ้ว ”ด้วยซ้ำไป

ส่วนสาเหตุนั้นก็คงไม่ต้องอธิบายกันมาก เชื่อว่า หลายคนคงรับรู้กันอยู่แล้วว่า เป็นเพราะรู้ถึงเจตนาของคนที่ชักใยว่ามีเป้าหมายมุ่งไปที่ล้มล้างสถาบันฯ ไม่ใช่การปฏิรูปตามที่กล่าวอ้าง

อีกทั้งขั้นตอนหลักนับจากนี้จะเข้าสู่โหมดการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเริ่มเดินเครื่องกันอย่างจริงจัง ในวันที่ 16-17 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ความเคลื่อนไหวก็จะเปลี่ยนไปอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นการขับเคี่ยวต่อรองกันในสภาเป็นหลัก แม้ว่าจะมีการชุมนุมคู่ขนานด้านนอกสภากดดันบ้าง แต่สถานการณ์ในเวลานี้ ถือว่าไม่ได้เป็นใจอีกแล้ว สาเหตุหลักมาจากการเคลื่อนไหวตื่นตัวของ “พลังเสื้อเหลือง” ที่เริ่มลุกฮือขึ้นมาทั่วประเทศ ทำให้เกิดการเบรกเกม “ฮึกเหิม” ของม็อบสามนิ้วลงไปมาก ดังจะเห็นกระแสของมวลชนที่อยู่ในวงจำกัด

อีกทั้งที่ผ่านมาได้เห็นแกนนำหลายคนที่ถูกดำเนินคดีในข้อหนักนับสิบๆ คดี และเชื่อว่า คนเหล่านี้ในอนาคตมีแต่ต้องเดินขึ้นโรงขึ้นศาลแทบทุกวัน แม้ว่านาทีนี้ปากจะกล้า แต่รับรองว่าเมื่อมองไปในอนาคตวันข้างหน้าที่อาจต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว เป็นใครก็ย่อม “ขาสั่น” แน่นอน

ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมและการเคลื่อนไหวของ “ม็อบสามนิ้ว” ครั้งล่าสุด ที่แสดงอาการหยาบเถื่อน และพฤติกรรมที่ส่อเจตนาล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ มันก็เหมือนกับการแสดงอาการ “ทิ้งทวน” ก่อนจาก และหากบอกว่านั่นเป็นการเคลื่อนไหวก่อนจบเกม ก็ต้องบอกว่า “จบแบบไม่สวย” เอาเสียเลย !!


กำลังโหลดความคิดเห็น