xs
xsm
sm
md
lg

กกต.เตือน ส.ส.-ส.ว.-จนท.รัฐ ช่วยหาเสียงท้องถิ่นเจออาญา-ฟันวินัย แนะเลี่ยงไลก์แชร์ผู้สมัคร

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองเลขาฯ กกต.แจง ขรก.การเมือง-ส.ส.- ส.ว.-จนท.อื่นของรัฐช่วยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นมีสิทธิ์เจออาญาได้ ซ้ำอาจเจอโทษทางวินัย-ผิดมติ ครม.วางตัวไม่เป็นกลาง แนะเลี่ยงกดไลก์-กดแชร์ผู้สมัคร เหตุสุ่มเสี่ยงถูกร้อง

วันนี้ (4 พ.ย.) นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  กล่าวในระหว่างร่วมพบปะสื่อมวลชนในกิจกรรมประชุมชี้แจงการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ว่าการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้มีผู้สมัครค่อยข้างคึกคัก เนื่องจากว่างเว้นจากการเลือกตั้งมาถึง 8 ปี ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ยังเป็นการเลือกตั้งตามกฎหมายใหม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจัดการเลือกตั้ง กฎระเบียบต่างๆ โดยหากไม่มีการร้องเรียน กกต.ก็จะประกาศผลภายใน 30 วัน แต่ถ้ามีเรื่องร้องเรียนก็จะประกาศภายใน 60 วัน โดยไม่ตัดสิทธิ กกต.ในการพิจารณาเรื่องทุจริตที่มีอยู่

สำหรับผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งจะต้องได้คะแนนโหวตสูงสุด และต้องได้คะแนนมากกว่าคะแนนของผู้ไม่ประสงค์เลือกผู้สมัครใด ทั้งนี้ ในกรณีมีผู้สมีครน้อยกว่า หรือน้อยกว่าจำนวนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่พึ่งมี ผู้ชนะต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น และมากกว่าคะแนนเสียงไม่เลือกผู้ใด

ส่วนการหาเสียง กกต.ได้มีมติห้าม ข้าราชการการเมือง ส.ส. ส.ว. เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ไม่สามารถหาเสียงเลือกตั้งช่วยผู้สมัครได้ ซึ่งถ้ามีผู้ฝ่าฝืน แม้มาตรา 34 พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น จะกำหนดให้ ผอ.กกต.เพียงสั่งระงับการกระทำนั้น แต่ กกต.เห็นว่าสามารถใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญในการดำเนินการสืบสวนไต่สวนเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมได้ส่วนในทางคดีอาญาบทบัญญัติของมาตรา 34 กฎหมายท้องถิ่นถูกเขียนไว้ในระเบียบการหาเสียงท้องถิ่น ข้อ 18 ที่ออกตามมาตรา 66 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งผู้ฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษตามมาตรา 129 คือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน

โดยตำแหน่งเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ทาง กกต.จะยึดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่วางบรรทัดฐานไว้ ว่าต้อง 1. ได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย 2. มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือปฎิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และปฎิบัติงานประจำ 3. อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐ 4. มีเงินเดือนข้าจ้าง ค่าตอบแทนตามกฎหมาย ซึ่งจะต้องมีองค์ประกอบครับทั้ง 4 ข้อ หากมีไม่ครบจะไม่ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ แต่อย่างผู้ช่วย ส.ส.เข้าองค์ประกอบทั้งหมด จึงไม่สามารถที่จะไปช่วงหาเสียงหรือลงสมัครได้

ส่วนถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถ้าใช้เวลาราชการไปช่วยหาเสียงก็จะผิดฐานละทิ้ง หรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ หรือมีความผิดฐานไม่เป็นกลางทางการเมืองตามมติ ครม. ซึ่งทั้งสองอย่างถือเป็นความผิดทางวินัย และถ้าเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปช่วยก็จะผิดมาตรา 69 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น

“อย่างนายอำเภอมีน้องชาย ลงสมัครรับเลือกตั้ง นายอำเภอเรียกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แล้วบอกให้กำนันผู้ใหญ่บ้านไปเลือกน้องชาย อย่างนี้ถือเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ เพราะเป็นคนที่มีอำนาจเรียกประชุม แต่ถ้านายอำเภอไปกินก๋วยเตี๋ยว แล้วเจอชาวบ้านก็บอกให้ไปเลือกน้องชาย อย่างนี้ไม่ใช่เป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ แต่วางตัวไม่เป็นกลาง ซึ่งเราคิดว่าผู้สมัคร เคยสมัครกันมาหลายครั้งคงจะเข้าใจเรื่องเหล่านี้พอสมควร แต่เมื่อกฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงก็ควรศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และปฏิบัติให้ถูกต้อง”

ส่วนพรรคการเมืองกฎหมายไมได้ห้ามที่จะสนับสนุนหรือส่งผู้สมัคร โดยมาตรา 87 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง กำหนดให้พรรคสามารถใช้จ่ายเพื่อการหาเสียงเลือกตั้งของสมาชิกพรรคได้ ถ้าหากพรรคส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นก็สามารถที่จะออกเงินค่าใช้จ่ายให้ได้ รวมทั้งผู้สมัครสามารถใช้โลโก้พรรคหาเสียงได้ ซึ่งพรรคการเมืองหากจะสนับสนุนผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่นก็ต้องทำให้ถูกทั้งกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นและ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ส่วนผู้สมัครบางคนที่เคยเป็นอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรี สามารถนำตำแหน่งดังกล่าวไปหาเสียงได้

นายแสวงยังกล่าวอีกว่า ในเรื่องของการให้ทรัพย์สิน หรือเงินซองงานบุญต่างๆ กกต.ยึดหลักเพื่อการปฎิรูปทางการเมืองมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 ว่าไม่ว่าจะให้กี่บาท แก่ตัวคน มูลนิธิ วัด หรือให้ตามประเพณีปกตินิยม ถือว่ามีความผิด และส่งศาลดำเนินคดีทุกราย และยังคงยึดมาตรฐานนี้ ไม่ว่าศาลจะพิจารณาอย่างไรก็ตาม

ด้าน ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนงานสืบสวนสอบสวน สำนักงาน ชี้แจงถึงการคัดค้านการเลือกตั้ง อบจ.ว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 2 คน หรือผู้สมัคร ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอในเขตเลือกตั้งนั้น มีสิทธิยื่นคัดค้านต่อ กกต.ได้ในเขตเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งการยื่นคำร้องคัดค้านฯ ยื่นที่สำนักงาน กกต.จังหวัดดีที่สุด เพราะหากยื่นที่ กกต.ส่วนกลางก็จะต้องส่งให้ กกต.จังหวัดเหมือนเดิม โดยระยะเวลาในการยื่นคัดค้านได้ตั้งแต่วันที่ประกาศให้มีการเลือกตั้ง 26 ต.ค. จนถึง 30 วันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง

ส่วนการคัดค้านเรื่องค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง จะมีเวลาตั้งแต่วันเลือกตั้ง จนถึง 180 วันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง ส่วนการคัดค้านเกี่ยวกับการนับคะแนนให้คัดค้านระหว่างเวลาที่ยังนับคะแนนไม่แล้วเสร็จ หรือในกรณีคัดค้านการรวมคะแนน ให้คัดค้านก่อนประกาศผลการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้ง ไม่ใช่ประกาศผลเลือกตั้งแล้ว ผู้สมัครพบว่ามีคะแนนสูสีกัน แล้วจึงมาร้องคัดค้าน โดยที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งนี้เมื่อ กกต.ได้รับคำคัดค้านการเลือกตั้งแล้ว ก็จะดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวน เพื่อหาข้อเท็จจริง และพิจารณาดำเนินการต่อไป

เมื่อถามว่ากรณีข้าราชการการเมือง ส.ส. ส.ว. ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ กดไลค์กดแชร์โพสต์หาเสียงของผู้สมัครเลือกตั้ง จะถือเป็นกรณีตามมาตรา 34 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หรือไม่ ร.ต.อ.มนูญกล่าวว่า การแชร์ถือเป็นการหาเสียงให้ผู้สมัครอยู่แล้ว ซึ่งการกดไลก์กดแชร์ไม่ควรกระทำ เพราะเป็นเหตุให้ถูกร้องได้ ดังนั้นจึงไม่ควรเสี่ยงที่จะกระทำ ส่วนผู้ที่จะชี้ว่าผิดหรือถูกคือ กกต.




กำลังโหลดความคิดเห็น