“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 4 พศจิกายน 2563 ตอน ธนาธร-ปิยบุตร คิดไกล เปิดแผนลึก ชิง อบจ.สร้างอำนาจ ยึดท้องถิ่น
การสมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้ "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" หรือนายก อบจ. และ "สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือ ส.อบจ.ทั่วประเทศ เปิดสมัครไปตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา โดยจะปิดรับสมัครกันศุกร์นี้ และจะมีการเลือกตั้ง 20 ธันวาคมนี้
ตำแหน่งที่คนสนใจก็คือ นายกฯอบจ.ที่เป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเก้าอี้ใหญ่สุด โดยหลายจังหวัด คนเด่น คนดัง ในวงการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่น ตบเท้าไปยื่นสมัครกันหลายจังหวัดกันอย่างคึกคัก
เมื่อไล่สแกน แต่ละภาค แต่ละจังหวัด ในศึกชิงเก้าอี้ นายกฯ อบจ. พบว่า ทุกจังหวัด ไม่ว่าจังหวัดใหญ่หรือเล็ก รอบนี้ถือว่าสู้กันหนัก เพราะแต่ละคนที่สมัคร ส่วนใหญ่ ก็เป็นอดีตนายกฯอบจ.รอบที่แล้ว ที่พ้นจากตำแหน่งมาสดๆร้อนๆ คราวนี้ต้องสู้กับทั้งคู่แข่งเดิมและคู่แข่งใหม่ ที่มารอวัดฝีเท้า ทาบรัศมี
และอีกหลายจังหวัด ที่อดีตนายกฯอบจ. วางมือ การแข่งขันก็เข้มข้นเช่นกัน อย่างที่ จังหวัด ตรัง ที่กิจ หลีกภัย พี่ชาย ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พลันที กิจ หลีกภัย อดีตนายกฯอบจ.ตรัง สี่สมัยวางมือ
เลยทำเอา ประชาธิปัตย์ สายจังหวัด ตรัง แตกคอ กันเองจนมองหน้ากันไม่ติด ระหว่างกลุ่มของสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ที่จะส่ง น้องชาย สาธร วงศ์หนองเตย ลงชนกับ บุญเล้ง โล่สถาพรพิพิธ พี่ชาย สมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.ตรัง ประชาธิปัตย์ หลายสมัย ศึกสายเลือด ประชาธิปัตย์ ที่ตรัง จึงเกิดขึ้น
ความขัดแย้งในศึกชิงอำนาจ เลือกตั้งนายกฯอบจ. ของคนกันเอง คนในพรรคเดียวกัน รวมถึงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง และพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน แบบตัวอย่างที่ จังหวัด ตรัง มีให้เห็นกันหลายพื้นที่ จบศึกเลือกตั้งอบจ. รอบนี้คงได้คิวเคลียร์ปัญหาใจกันต่อ
ข้อปฏิบัติการหาเสียง คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. วางไว้แล้วว่าข้าราชการการเมือง -ส.ส. -ส. ว. -ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ไม่สามารถไปช่วยหาเสียงเลือกตั้ง ช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นได้
หากฝ่าไฟแดง จะมีความผิด ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 ที่มีโทษผู้สมัครอาจถูกจับแพ้ฟาว์ล และคนที่เกี่ยวข้อง ก็เสี่ยงโดนดำเนินคดีอาญาได้
เมื่อ กกต.เคลียร์ชัดๆ แบบนี้ นักการเมืองระดับชาติทั้งหลาย พวกรัฐมนตรี ส.ส.และสว.ทั้งหลาย ที่ส่งเครือญาติ -คนใกล้ชิด ไปลงชิงนายกฯอบจ. จะเปิดหน้าช่วยหาเสียงไม่ได้ ต้องใช้วิธี หลบอยู่หลังฉากแทน ใช้วิธีวางแผนหาเสียงทั้งบนดินและใต้ดิน แทน
ดังนั้น การเลือกตั้งนายฯอบจ. จะมีกลวิธีสู้กันใต้ดิน ที่เข้มข้นอยู่แล้ว จะยิ่งดุเดือดมากขึ้น
ด้วยกฎกติกากกต. ที่ห้ามนักการเมืองเข้ามาเปิดหน้าสนับสนุน คนสมัครอบจ. อย่างเปิดเผย ทำให้ส่งผลบวกอย่างมากกับ คณะก้าวหน้า ของสามอดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ , ปิยบุตร แสงกนกกุล และ พรรณิการ์ วานิช
กลุ่มก้าวหน้า เป็นกลุ่มการเมืองที่เปิดตัว ส่งคน ลงสู้ศึกนายกฯอบจ.มาได้ร่วมๆปี ตั้งแต่ตอนพรรคอนาคตใหม่ยังไม่โดนยุบพรรคด้วยซ้ำ
เพราะทั้งธนาธร -ปิยบุตร-ช่อ พรรณิการ์ ไม่ได้เป็นส.ส.
และแม้จะโดนตัดสิทธิ์เลือกตั้ง แต่คนในกลุ่มก้าวหน้า เชื่อว่า การตัดสิทธิ์ดังกล่าว ไม่มีข้อห้ามว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับ การเลือกตั้งท้องถิ่น โดยเฉพาะที่ทำในนามกลุ่ม ไม่ใช่ในนามพรรค
ทำให้แกนนำกลุ่มก้าวหน้า สามารถไปช่วยผู้สมัครนายกฯอบจ.และส.อบจ.ที่อยู่ในปีกของ ธนาธรและคณะก้าวหน้าได้เต็มที่ เลยกลายเป็นความได้เปรียบของผู้สมัครในสายคณะก้าวหน้า เพราะได้คนดังการเมืองระดับชาติ มาช่วยหาเสียง
โดยศึกเลือกตั้งอบจ.ครั้งนี้ ธนาธร ได้ประกาศมาตลอดว่า จะสร้างพื้นที่การเมืองใหม่ในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น โดยเฉพาะการล้มล้าง เครือข่ายบ้านใหญ่ -หัวคะแนนในพื้นที่
มาตอนนี้ ธนาธร เริ่มยิงแคมเปญออกมา โดยการนำการเมืองระดับชาติ ผูกกับการหาเสียงในท้องถิ่นแล้ว มีข้อความว่า ใช้ผลเลือกตั้งท้องถิ่น 20 ธันวาคม เพื่อแสดงความโกรธของประชาชนต่อระบอบเผด็จการ
เป้าหมายการปักธงสนามเลือกตั้งท้องถิ่นของ ธนาธร ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันก็คือ ยุทธวิธี ในการสร้างฐานการเมืองระยะยาวให้กับ พรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า ที่มีการแบ่งบทกันเล่นอย่างชัดเจน
คือ พรรคก้าวไกล ก็ให้ ขับเคลื่อนการเมืองระดับชาติ งานสภาฯและส.ส. ส่วนคณะก้าวหน้า ก็เล่นการเมืองนอกรัฐสภาและสร้างฐานการเมืองท้องถิ่น
หาก คณะก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ สามารถปักธง จนกุมชัยชนะในการเลือกตั้งท้องถิ่น ได้ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะได้นายกฯอบจ. ของคณะก้าวหน้ามาสักระดับ 25-30 คนจากที่ส่งไปประมาณ 40 จังหวัด รวมถึงได้สมาชิกอบจ.หรือ ส.อบจ. ในกลุ่มตัวเอง มาแบบเป็นกอบเป็นกำพอสมควรในแต่ละจังหวัด
ถ้าทำได้แค่นี้ ก็ต้องถือว่า ธนาธร ประสบความสำเร็จแล้ว ถ้าหากหลายจังหวัดทำได้ตามเป้า
เพราะจะทำให้ ธนาธร มีเครือข่ายการเมืองในระดับฐานราก จนสามารถนำมาต่อยอดขยายผลในระดับชาติ และในส่วนกลางได้
ทุกอย่างจะเข้าล็อก ป่าล้อมเมือง ทำท้องถิ่นให้แข็งแกร่ง เพื่อสร้างกองทัพการเมือง ในส่วนกลาง
ธนาธร จะมีขุมกำลัง กองทัพการเมือง ทั้งในระดับชาติ-ระดับท้องถิ่น รวมถึงมวลชน ผู้สนับสนุนฝ่ายตัวเอง ที่ตอนนี้ก็มีอยู่แล้วในม็อบสามนิ้วและในโซเชียลมีเดีย
ถ้าทุกอย่างเกิดผลเลิศ เดินเข้าล๊อคตามแผนยุทธศาสตร์ ของกลุ่มก้าวหน้า ธนาธร -ปิยบุตร จะกลับมามีอำนาจการต่อรองทางการเมืองมากขึ้น อีกครั้ง
