ส.ส.ตรัง ปชป. แนะรัฐเปลี่ยนวิธีคิด คิดถึงอนาคตของหนุ่มสาวในระยะยาว รับต้องจริงจังคุยปฏิรูปสถาบันฯ แข่งกับชุดความคิดที่เป็นปฏิปักษ์ ย้ำต้องคงอยู่ด้วยความเชื่อที่ตรงกัน
วันนี้ (27 ต.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ในทุกการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมาไม่มีครั้งไหนจบสวย ส่วนใหญ่จบลงด้วยการรัฐประหาร ไม่มีใครอยากเห็นจุดจบสู่รัฐประหารอีก ผู้ชุมนุมล้วนมีชุดความคิดที่ต่างจากรัฐบาล ความจริง 2 ข้อที่แตกต่างจากอดีต คือ 1. ผู้ชุมนุมเป็นคนหนุ่มสาว 2. หากมองผ่านการแสดงออกที่รุนแรง การชุมนุมอาจเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง ในทุกการชุมนุมของคนหนุ่มสาวเกิดจากความไม่พอใจกับเศรษฐกิจและความสับสนไม่แน่ใจในอนาคต แต่ทางออกที่อาจจะเกิดขึ้นได้คือ การแก้รัฐธรรมนูญที่มีไทม์ไลน์ชัดเจน หรือการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ แต่เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ยังมีอีกเรื่องที่รัฐบาลควรคิดจริงจัง คือ การคิดถึงอนาคตของหนุ่มสาวในระยะยาว โครงสร้างในปัจจุบันอาจจะไม่ทันการเปลี่ยนแปลง รัฐต้องเปลี่ยนวิธีคิด เช่น การศึกษา ระบบราชการ ระบอบการเมือง โครงสร้างอำนาจที่เป็นระบบราชการรวมศูนย์ การวิจารณ์บทบาทของทหาร วัฒนธรรมอำนาจนิยม ปัญหาเศรษฐกิจที่ผูกขาด และความเหลื่อมล้ำ ถ้าจะแก้ปัญหาเหล่านี้ต้องปรับสมดุลในโครงสร้างอำนาจ ลดการผูกขาดของทุนในเศรษฐกิจไทย จำเป็นเช่นเดียวกับความยุติธรรม
ส่วนข้อเสนอเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เราต้องจริงจังในการหาวิธีการพูดคุยด้วยเหตุผล เพียงแต่บรรยากาศที่สร้างความหวาดระแวงอาจยังไม่ใช่เวลาที่พูดคุยเรื่องนี้ แต่เราต้องแข่งขันกับชุดความคิดที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันกษัตริย์อย่างสิ้นเชิงด้วย ทั้งในและต่างประเทศ นำข้อมูลจริงและเท็จมาผสมกันทำเกิดความเชื่อที่ยากจะเปลี่ยนแปลง เราต้องคิดเรื่องเหล่านี้ด้วย สถาบันกษัตริย์ต้องคงอยู่ต่อไป แต่ต้องอยู่ด้วยความคิดและความเชื่อที่ตรงกันของคนทั้งประเทศด้วย และอีกไม่เกินสิบปีข้างหน้าคนรุ่นใหม่ก็จะขึ้นมาเป็นกำลังแรงงานที่สร้างสรรค์ชาติของเราต่อไป