“ผศ.ดร.ดุลยภาค” เชื่อม็อบฮ่องกงไม่จบ แม้ผลเลือกตั้งฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยชนะถล่มทลาย ชี้ กลุ่มที่ต้องการความรุนแรงอาจใช้อ้างสร้างความชอบธรรมชุมนุมต่อ หรือต่อให้สลายตัว แต่อนาคตมีอีกแน่ เพราะการต่อสู้ถูกส่งทอดจากรุ่นสู่รุ่น เตือนคนรุ่นใหม่ในไทยใช้สติหากจะเลียนแบบประท้วงรุนแรง เหตุเงื่อนไขประเทศต่างกันมาก
วันที่ 26 พ.ย. ผศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช ผอ.หลักสูตรการจัดการธุรกิจสากล ม.ธรรมศาสตร์ ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “จับชีพจรชุมนุมฮ่องกง หลังฝ่าย ปชต.ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย”
โดย ดร.ดุลยภาค กล่าวว่า หลังเลือกตั้งครั้งนี้โครงสร้างสภาฮ่องกงเปลี่ยนไป ฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยมีที่นั่งในสภามากเป็นประวัติการณ์ การโหวตเลือกผู้ว่าการเกาะก็จะมีผลต่ออิทธิพลของปักกิ่งแน่นอน ซึ่งผลการเลือกตั้งนี้ก็มาจากการประท้วงที่ยาวนานจนมีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามว่าผลการเลือกตั้งจะส่งผลต่อการชุมนุมไหม ดร.ดุลยภาค กล่าวว่า คนที่ไม่พอใจปักกิ่ง ได้สะท้อนเจตนารมณ์ผ่านการเลือกตั้งแล้ว คนบางส่วนพอใจแล้ว อาจจะมีผลให้การประท้วงลดทอนลงไป แต่ในทางกลับกันอาจทำให้กลุ่มที่ต้องการความรุนแรงอ้างผลเลือกตั้งสร้างความชอบธรรมเพื่อชุมนุมต่อ
แต่การชุมนุมต่อไป ก็ต้องมีการประกันความเสี่ยงเหมือนกัน ว่าปักกิ่งจะทนต่อไปไหวหรือไม่ หรือจะค่อยๆ สลายตัว เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นก็ได้แสดงเจตนาไปแล้วก็อาจเป็นไปได้ แต่ต่อให้ยุติชุมนุม การส่งทอดพัฒนาการการต่อสู้จากรุ่นสู่รุ่น มีแน่นอน ยังไม่จบ
ดร.ดุลยภาค กล่าวอีกว่า เมื่อเทียบกับไทย ในยุคโซเชียลมีเดีย อาจเกิดการเลียนแบบได้ ดูผ่านๆ เหมือนจะคนรุ่นใหม่เหมือนกัน ต่อต้านเผด็จการ แต่แบ่งไม่ได้สมบูรณ์ เพราะฮ่องกงไม่ได้แบ่งแยกรุ่นเก่ารุ่นใหม่ บางอย่างพ่อแม่ก็เห็นคล้องกับลูก การแบ่งมีการซับซ้อนมากกว่าสะบั้นแบ่งเป็นขั้วแบบที่สังคมไทยกำลังทำอยู่ การแบ่งแบบนี้ ผลักคนเห็นต่างให้ไปอยู่คนละขั้ว ทำให้สังคมขัดแย้ง ซึ่งไทยต้องเฝ้าระวังตรงนี้
แล้วแง่ลบของการชุมนุมฮ่องคือการใช้ความรุนแรง ไม่เป็นคุณเลยถ้าจะปรับมาใช้ในบางประเทศ ในโครงสร้างการเมืองไทยกับฮ่องกงไม่เหมือนกัน ฮ่องกงเป็นเขตปกครองพิเศษที่อยู่ภายใต้เงาจีน แต่ไทยเป็นเอกราช มีหลายอย่างไม่เหมือนกัน เงื่อนไขต่างกัน เยาวชนที่เฝ้าดูเหตุการณ์ประท้วงอาจต้องมีสตินิดนึง