เอเจนซีส์ - ฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยฮ่องกงคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเขต หลังจากประชาชนออกไปใช้สิทธิล้นหลามเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณท้าทายที่ส่งถึงคณะผู้บริหารฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ภายหลังการชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อมานานถึง 6 เดือน
ผู้สมัครจากค่ายสนับสนุนประชาธิปไตยกวาดที่นั่งไปได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของสภาเขตซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 452 ที่นั่ง นับเป็นครั้งแรกที่พวกเขาสามารถเอาชนะค่ายโปรปักกิ่งที่มีต้นทุนทางการเมืองและทรัพยากรเหนือกว่าทุกด้าน
ทันทีที่ผลเลือกตั้งเริ่มถูกประกาศตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเป็นต้นมา ประชาชนที่ไปเฝ้ารอคอยอยู่ตามศูนย์นับคะแนนต่างๆ ก็ส่งเสียงเฮลั่น และป่าวร้องสโลแกน “ปลดปล่อยฮ่องกง ปฏิวัติเดี๋ยวนี้” ซึ่งเป็นถ้อยคำที่กลุ่มผู้ประท้วงส่วนใหญ่ใช้ในการรณรงค์เคลื่อนไหวตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา
ผู้สมัครบางคนที่ได้รับเลือกชี้ว่า ผลเลือกตั้งครั้งนี้เทียบได้กับการโหวตสนับสนุนฝ่ายผู้ประท้วง และยังเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อนาง แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง
“นี่คือพลังของระบอบประชาธิปไตย นี่คือคลื่นสึนามิประชาธิปไตย” ทอมมี เฉิง อดีตนักศึกษาแกนนำผู้ประท้วงซึ่งชนะเลือกตั้งสมาชิกสภาเขตหยุนหลง (Yuen Long) ที่อยู่ใกล้ๆ พรมแดนจีน ให้สัมภาษณ์
ล่าสุด สถานีโทรทัศน์วิทยุฮ่องกง (RTHK) รายงานเมื่อช่วงสายวันนี้ (25) ว่า พรรคฝ่ายประชาธิปไตยกวาดที่นั่งสมาชิกสภาเขตไปได้มากถึง 390 จากทั้งหมด 452 ที่นั่ง หรือเกือบ 90% ซึ่งถือเป็นการพลิกขั้วครั้งสำคัญจากการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อนที่ฝ่ายประชาธิปไตยได้ไปเพียง 100 ที่นั่งเท่านั้น
การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ยังมีประชาชนออกไปใช้สิทธิมากเกือบ 3 ล้านคน หรือกว่า 71% ของผู้ที่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งในฮ่องกง
สภาเขตของฮ่องกงนั้นมีอำนาจควบคุมการเบิกจ่ายงบประมาณบางอย่าง และดูแลงานระดับชุมชน เช่น การคมนาคมขนส่ง เป็นต้น ทั้งยังเป็นเวทีที่คนรากหญ้าได้มีโอกาสก้าวขึ้นมามีอิทธิพลทางการเมืองในเกาะศูนย์กลางการเงินของจีนแห่งนี้
“ผมเชื่อว่าการที่ผลเลือกตั้งออกมาเป็นเช่นนี้ก็เนื่องจากประชาชนจำนวนมากหวังที่ใช้การเลือกตั้งและคะแนนโหวตของพวกเขาเพื่อสื่อถึงการสนับสนุนผู้ประท้วง ตลอดจนข้อเรียกร้อง 5 ประการ และประกาศความไม่พอใจที่พวกเขามีต่อรัฐบาลฮ่องกง” เลสเตอร์ ชัม อดีตแกนนำนักศึกษาซึ่งคว้าที่นั่งในสภาเขตได้เช่นกัน กล่าว
กลุ่มผู้ประท้วงฮ่องกงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปเพื่อสร้างระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ และให้ตั้งคณะทำงานอิสระสอบสวนพฤติกรรมป่าเถื่อนของตำรวจ
หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีระบุในบทบรรณาธิการฉบับวันนี้ (25 พ.ย.) ว่า การเลือกตั้งสภาเขต “อาจเป็นโอกาสที่จะทำให้ฮ่องกงกลับคืนสู่ภาวะปกติ” ขณะเดียวกันก็พยายามพยายามลดทอนนัยสำคัญของผลเลือกตั้งที่ออกมา
“การที่มีผู้ใช้สิทธิมากมายกว่าทุกครั้งแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าผู้ประท้วงจะใช้ความรุนแรงขนาดไหน แต่ประชาชนทั่วๆ ไปก็ยังห่วงสวัสดิภาพของตนเอง” ไชน่าเดลี ระบุ
วิลลี ลัม นักวิเคราะห์การเมืองในฮ่องกง ชี้ว่า ผลการเลือกตั้งคราวนี้ “เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติอย่างแท้จริง”
“มันคือการที่ประชาชนออกมาปฏิเสธรัฐบาลฮ่องกง และนโยบายที่ปักกิ่งใช้กับฮ่องกง”
ทั้งนี้ ลัม เชื่อว่าผลเลือกตั้งสภาเขตอาจจะทำให้จีนตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงเร็วขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็อาจกระตุ้นให้การชุมนุมประท้วงลากยาวออกไปอีก
“ผู้ประท้วงอาจจะมองว่านี่คือชัยชนะครั้งใหญ่ และประชาชนได้มอบอาณัติแก่พวกเขาแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงต้องต่อสู้ให้หนักยิ่งขึ้นไปอีก ในขณะที่ปักกิ่งจะไม่ยอมอ่อนข้ออย่างแน่นอน จึงมีความเป็นไปได้ที่สถานการณ์จะยิ่งรุนแรงขึ้น” ลัม ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
ผู้ประท้วงฮ่องกงซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวรู้สึกโกรธแค้นที่รัฐบาลจีนเริ่มใช้อิทธิพลแทรกแซงเสรีภาพของเกาะแห่งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ปักกิ่งยืนกรานปฏิเสธข้อครหานี้ และย้ำว่ายังคงยึดมั่นในสูตรการปกครอง “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ที่เคยรับปากไว้ขณะรับมอบฮ่องกงกลับคืนจากอังกฤษในปี 1997
จิมมี ชัม แกนนำกลุ่ม Civil Human Rights Front ซึ่งจัดการชุมนุมประท้วงรัฐบาลฮ่องกงในบางจุด ได้รับเลือกตั้งเข้าสู่สภาเขตในครั้งนี้ เช่นเดียวกับ เคลวิน ลัม ซึ่งเข้ามาเสียบแทนที่นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยคนสำคัญอย่าง โจชัว หว่อง ซึ่งถูกคณะกรรมการเลือกตั้งตัดสิทธิ์ไม่ให้ลงสมัคร