“ส.ศิวรักษ์” ซัด “ประยุทธ์” ไม่เคยตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาว่าสร้างความเดือดร้อนให้บ้านเมืองขนาดไหน ลั่นถ้ายังไม่เปลี่ยนแปลงแล้วมีเลือกตั้ง “ทักษิณ” กลับมาอีกแน่นอน ชี้ปกป้อง “บิ๊กป้อม” ปมนาฬิกาหรู-สองมาตรฐานชัดเจน คนแบบนี้ปกครองบ้านเมืองได้อย่างไร แนะลาออกเท่านั้นถึงจะกู้วิกฤตศรัทธาได้ เชื่อมีทหารหนุ่มรักชาติรอยึดอำนาจจาก คสช.เพื่อคืนประชาธิปไตยให้ประเทศ
วันที่ 5 ก.พ. 60 อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม ได้ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “นิวส์วัน” ดำเนินรายการโดย นายเติมศักดิ์ จารุปราณ
โดย อ.สุลักษณ์กล่าวในช่วงหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา เขานึกว่าจะอยู่ในอำนาจไปได้ตลอด ไม่รู้เลยว่าเขาสร้างความเดือดร้อนให้แก่บ้านเมืองขนาดไหน ไม่มีคนเตือนสติเขา
อ.สุลักษณ์กล่าวด้วยว่า ที่กังวลว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย 14 ตุลา 16 กับ 16 พฤษภา 35 มันมาแน่ แต่หวังว่าจุดจบของ คสช.จะไม่เกิดความรุนแรง ถ้าเขาฉลาดรีบลาออก อย่างน้อยเปลี่ยนตัวละครก็ยังดี เอาแม่ทัพนายกองคนอื่นก็ยังดี แต่ต้องเปลี่ยน ครม.ชุดนี้ทั้งหมด ชุดนี้คนเบื่อเต็มทีแล้ว
อ.สุลักษณ์กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์มักพูดว่าจะเอาตนหรือเอานักการเมืองชั่วร้าย ประชาชนไม่ควรถูกบีบให้เลือกแค่ 2 แนวทางนี้เท่านั้น อย่างเสื้อแดงไม่ได้เอาทักษิณทั้งหมด แต่คนที่เอาเพราะพวกอื่นเข้าไม่ถึงเขา ทักษิณเอาใจราษฎรแม้ทำรัฐฉิบหายวายป่วง เป็นการแก้ไขให้เกิดความพอใจด้วยการเอาเงินไปละเลง พล.อ.ประยุทธ์ มีทางเลือกอื่นแน่นอน ถ้าสนใจหัดฟังเสียงรากหญ้า เช่น สมัชชาคนจน คนไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ฟังเขา ไม่ใช่ใช้อำนาจจับกุมหมด
อ.สุลักษณ์กล่าวอีกว่า 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลให้แต่ความทุกข์ เผด็จการไม่มีทางให้ความสุขได้เลย อย่างจีนอย่ามองเพียงผิวเผิน คนรวยกับชั้นกลางรวยขึ้น แต่คนชนชั้นล่างทรมานยิ่งกว่าเดิม
คสช.กลัวทักษิณกลับมา ตราบใดที่ยังเป็นแบบนี้ ทักษิณกลับมาแน่ เขาเข้าถึง มอมเมาประชาชนได้เก่งกว่า อันนี้ คสช.ไม่มีทางชนะได้ ประชาธิปัตย์ก็ไม่มีทางทำได้ แต่น่าเสียดายเขาเข้าถึงราษฎรแล้วเอามาเป็นเครื่องมือ
เมื่อถามว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์สืบทอดอำนาจกลับมาเป็นนายกฯ อีก อ.สุลักษณ์กล่าวว่า ตนเชื่อว่าทหารต้องการเปลี่ยนตัว ไม่ยอมสยบให้ พล.อ.ประยุทธ์แน่ พวกทหารหนุ่มๆ ที่รักชาติบ้านเมืองมีไม่ใช่น้อยที่จะเป็นกำลังสำคัญพร้อมปกป้องราษฎร คืนประชาธิปไตยให้ประชาชน
ส่วนกรณีนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร ที่ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เห็นชัดว่าสองมาตรฐาน พวกตัวเองทำอะไรไม่ผิด คนอื่นผิดหมด คนแบบนี้ปกครองบ้านเมืองได้อย่างไร คิดว่าประชาชนโง่หรือ
อ.สุลักษณ์กล่าวอีกว่า โอกาสกอบกู้ศรัทธาต้องลาออก นักการเมืองที่ดีมีอะไรผิดพลาดลาออกทันที กล้าลาออก ถ้าไม่ลาออกโดนถีบออกแน่นอน
คนเคาะข่าว การเมือง - ศาสนา กับความหวังต่อสังคมไทย ในทัศนะ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ 5 ก.พ. 2561
เติมศักดิ์- สวัสดีครับ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการคนเคาะข่าว วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 คนเคาะข่าววันนี้จะพาไปฟัง ทัศนะของปัญญาชนคนสำคัญของเมืองไทย กับความหวังทีท่านมีต่ออนาคตของบ้านเมืองในขณะนี้ พบกับปัญญาชนสยาม อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ สวัสดีครับอาจารย์ศิวรักษ์ครับ
ส.ศิวรักษ์- สวัสดีครับ
เติมศักดิ์- วันนี้จะชวนอาจารย์คุยทั้งเรื่องการเมืองและศาสนา กับความหวังต่ออนาคตสังคมไทยนะครับ ขอชวนอาจารย์คุยเรื่องการเมืองก่อน ตอนนี้คนพูดกันมากเรื่องภาวะขาลงของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ภาวะที่กองหนุนหดหาย อาจารย์คิดว่าภาวะความเสื่อม ภาวะขาลงของรัฐบาลครั้งนี้ เกิดจากเหตุปัจจัยใดบ้าง อาจารย์ครับ
ส.ศิวรักษ์- 1.คุณประยุทธ์ หัวหน้ารัฐบาล เป็นคนซึ่งไม่เคยตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาเลย เขาก็นึกว่าเขาอยู่อำนาจมานี้ จะอยู่ได้เรื่อยๆ ตลอดไป เขาไม่รู้เลยว่าเขาสร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านเมืองขนาดไหน คนไปเผด็จการนั้นไม่มีคนเตือนสติเขา แล้วยิ่งอยู่ในอำนาจนานเท่าไหร่ก็ยิ่งชื่นชม ชื่นชอบ ผลงานของตัวมากเท่านั้น คุณประยุทธ์อาจจะไม่ใช่คนโกงกินอะไรมากมายนัก แต่ก็เปิดโอกาสให้พรรคพวกโกงกินกันไม่ใช่น้อย แต่คนข้างล่างเดือดร้อนมาก ชนชั้นกลางซึ่งเคยพอใจ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเบื่อ กปปส. เบื่อการสู้กันระหว่างเสื้อเหลือง เสื้อแดง เขาสงบไปได้พักหนึ่ง คนก็อาจพอใจไปพักหนึ่ง แต่ยิ่งนานเข้าๆ ระบบเศรษฐกิจยิ่งทรุดโทรมไปเรื่อยๆ คนชั้นกลางก็เริ่มไม่พอใจ และการปิดเสรีภาพ ไม่ให้คนแสดงออก รังแกคนทุกทิศทุกทาง โดยเฉพาะใช้มาตรา 112 นั้น เป็นโทษต่อราษฎรและบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ พระเจ้าอยู่หัวองค์ที่แล้ว มีพระราชดำรัสชัดเจนเลยนะครับ ใครทำเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น เป็นการทำร้ายพระองค์ท่านเป็นส่วนตัว และเป็นการทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เสื่อมคลอน ประยุทธ์ไม่สนใจเรื่องนี้เลย ใช้กฎหมายทุกแบบที่จะเล่นงานประชาชน เพราะฉะนั้นคนเริ่มทนเขาไม่ได้ทุกทีๆ และเขาไม่สนใจเลยครับ เช่น โครงการล่าสุด จะสร้างถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา อันนี้จะเป็นอนุสาวรีย์สร้างความอายที่เลวร้าย ได้กินกัน ได้โกงกัน ไม่สนใจ ทำไมไม่คิดรอบแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหัวใจของเราเลยนะครับ พระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันท่านเริ่มให้จิตอาสาและข้าราชบริพาร ขุดรอบคูคลองต่างๆ เป็นตัวอย่างที่ประเสริฐ ถ้าคุณจงรักภักดี จริงๆ ทำไมไม่รอแม่น้ำเจ้าพระยา รวมกับ กทม. ถวายในหลวงเมื่อราชาภิเษก แม่น้ำนี้จะได้ใสสะอาด กุ้ง ปลา จะได้กับมา ประยุทธ์ไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย สนใจอย่างเดียวจะได้ผลประโยชน์ ไอ้ถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นโครงการที่เลวร้ายที่สุด แต่ไม่ฟัง จะเซ็นสัญญากันเร็วๆ นี้ ถ้าสร้างเมื่อไหร่ เป็นอนุสาวรีย์ขายความอายที่เลวร้ายที่สุด เมื่อคนไม่ฟังคนเนี่ย คนโบราณนะครับ จิ้งจกทักเขายังฟัง นี่คนทักเป็นอันมาก ก็ดื้อรั้น และยิ่งตอนนี้ขาลง คุณทำผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เนี่ย จะช่วยถีบส่งคุณให้ลงไปเร็วๆ ขึ้นนะครับ ผมเตือนด้วยความหวังดี
เติมศักดิ์- เป็นความหลงในอำนาจที่มีมากด้วยใช่ไหมครับ
ส.ศิวรักษ์- ธรรมดา เขาไม่ดูเลยนะครับ เหตุการณ์ 14 ตุลาฯ เป็นตัวอย่าง ถนอม ก็พลาดหลง แต่ถนอม เขาฉลาดกว่าประยุทธ์เยอะด้วยนะครับ
เติมศักดิ์- ยังไงครับอาจารย์
ส.ศิวรักษ์- ประยุทธ์นี่คนกึ่งดิบกึ่งดี ไม่มีสติปัญญาอะไรเลย อยู่ไปวันๆ เป็นคนที่น่าสงสารครับ แล้วก็คิดว่าตัวเองพูดน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง ไม่รู้เลย สิ่งที่ตัวพูดนั้นมันไม่มีสาระ และไอ้โครงการเดินหน้าประเทศไทยทุกวัน วันละ 15 นาที เป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่เลอะเทอะที่สุดครับ
เติมศักดิ์- เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ
ส.ศิวรักษ์- เป็นโฆษณาชวนเชื่อที่เลอะเทอะที่สุด ไม่ได้เรื่องไ ม่ได้ราวอะไรเลย แต่บังคับให้คนต้องฟัง ให้คนต้องดู มันน่าสงสาร
เติมศักดิ์- แต่รัฐบาลคาดหวัง เป็นช่องทางในการทำความเข้าใจระหว่างรัฐบาลกับประชาชน
ส.ศิวรักษ์- ก็คุยโม้ ถ้าคุณทำจริงๆ นะ ต้องเปิดโอกาสสิครับ โครงการจะได้ให้มีคนมาถาม มาเถียง ให้มาวิพากษ์วิจารณ์ ค่อยน่าฟังหน่อย โฆษณาชวนเชื่อ คนมันเบื่อครับ ก็คุณทำมา 3 ปีแล้ว แล้วตัวเองพูด คนเขาเบื่อมานานแล้วนะครับ
เติมศักดิ์- คนเบื่อมานาน
ส.ศิวรักษ์ - เบื่อมานาน นี่ผมพูดด้วยความรัก ด้วยความหวังดี เตือนคุณประยุทธ์ด้วยความหวังดี
เติมศักดิ์- มีการพูดถึงประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย 14 ตุลาฯ 16 , 16 พฤษภา 35 อาจารย์มองอย่างนั้นไหมครับ
ส.ศิวรักษ์- มันมาแน่ครับ มันมาแน่นะครับ มันมาแน่ หวังว่า การจุดจบของคสช. นั้น จะไม่เกิดความรุนแรง หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์นองเลือด ถ้าเขาฉลาดนะครับ รีบลาออกซะ อย่างน้อยเปลี่ยนตัวละครก็ยังดี เอาแม่ทัพแม่กองคนอื่นก็ยังดี แต่ต้องเปลี่ยนชุดนี้ทั้งหมด ชุดนี้คนเบื่อแล้วละครชุดนี้ ชุดนี้เป็นละครน้ำเน่าที่คนเบื่อเต็มทีแล้ว ครม.ชุดนี้เบื่อเต็มทีแล้ว
เติมศักดิ์ - พล.อ.ประยุทธ์เคยพูดให้ทำน้องคนไทย คนไทยเลือก ว่าตกลงจะอยู่ กับเขาแบบนี้ หรือว่าจะกลับไปหานักการเมือง นักเลือกตั้งแบบเก่าๆ
ส.ศิวรักษ์ - คือคุณประยุทธ์เนี่ย นึกว่ามันมีเพียงหนึ่งหรือสอง มันมีทางเลือกอื่นครับ พวกเราส่วนมากไม่ต้องการทักษิณ แล้วเราไม่ต้องการประยุทธ์ และประชาธิปไตย เป็นไปได้ครับ คนไปเชื่อประชาธิปไตยเป็นของฝรั่ง ประชาธิปไตยเป็นไตย ประชาธิปไตยเป็นไปได้ การลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง อันนี้มันเป็นไปปลายเหตุ ประชาธิปไตยเป็นไปได้ ต้องเริ่มให้อิสรภาพ เสรีภาพในการพูด ในการคิด ในการเถียง อันนี้เป็นพื้นฐานเลย แล้วคุณประยุทธ์หวังดีต่อบ้านเมืองจริง เปิดโอกาสอันนี้ครับ ให้มีการพูด มีการเถียงอภิปราย ขอโทษนะครับ มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ ก็เหมือนโรงเรียนทหารครับ ฝึกคนคิดเหมือนกันหมด ทำนอกคอกนิดเดียวนะครับ เนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล ทำผิดอะไรผมไม่รู้ครับ ตัดคะแนน 20 คะแนนเลยครับ และวันที่เขาลงโทษ เนติวิทย์ครั้งแรกผมไปนั่งฟังด้วยนะครับ อาจารย์ 20 คนพูด ไม่รู้เรื่องเลย แล้วก็ไม่ได้บอกทำผิดอะไรบ้าง แต่เขาก็ลงโทษก่อน อำนาจอยู่ในตัวทำอะไรก็ได้ เผด็จการแบบทหาร มันใช้เผด็จการในมหาวิทยาลัยด้วย ต้องเปลี่ยนทั้งหมดครับ เปลี่ยน มีความกล้าหาญ มากขึ้น มีการเจรจา พูดจากันอย่างเปิดเผยโปร่งใส มากขึ้น เคารพคนที่เห็นต่างจากเรามากขึ้น อันนี้เป็นพื้นฐานทางประชาธิปไตย ซึ่งคุณประยุทธ์ไม่ได้ทำเลยใน 3 ปีนี้ ห้าคนประชุมกันทหารก็จับเขาแล้ว แล้วมียัดมาตรา 112 มาตรา 112 เป็นมาตราที่ร้ายแรงมากนะครับ ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง
เติมศักดิ์ - ภาวะแบบนี้จะถือว่าเป็นภาวะ ที่เขาเรียกกันว่าหนีเสือปะจระเข้ อาจารย์สุลักษณ์ครับ
ส.ศิวรักษ์ - โอ้โหอันนี้มันไม่ใช่อภิปรายแล้วนะ ผมว่า คนไทยมีมิติ ทางสติปัญญาที่ลึกซึ้งพอสมควรนะครับ โดยเฉพาะคนข้างล่าง ที่เขาถูกรังแกมานาน พวกสมัชชาคนจนก็ดี คนที่บ่อนอกก็ดี คนที่อุดรฯ ที่เขาต่อต้านเหมืองโปแตชก็ดี คนที่สงขลา คนเหล่านี้ครับ คำตอบอยู่ที่คนข้างล่างเหล่านี้ครับ คนข้างล่างเหล่านี้ถ้าไม่ถูกถีบ ถูกกระทืบ เขาจะแสดงออก การแสดงออกของเขามันจะไปพ้น ถ้าไม่เอาผมจะเอาทักษิณหรอ เอาราษฎรส่วนใหญ่สิครับเป็นไปได้นะครับ แต่คนอย่างคุณประยุทธ์ไม่เคย มีเวลาที่จะมาฟังคนข้างล่างเลย ขอเรามอสัญจรไปก็ไปจัดฉากกัน เปลี่ยนที่ไปเรื่อยเรื่อยๆ นั่นเอง มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าน่าเสียใจ
เติมศักดิ์ - หมายความว่าคนไทยไม่ควร ถูกบีบ เลือกสองแนวทางที่ชั่วร้ายพอๆ กัน
ส.ศิวรักษ์ - ถูกต้อง แล้วคนไทยฉลาดพอ ไม่ต้องเลือกครับแม้กระทั่งพวกเสื้อแดง ผิดจำนวนมากเขาก็ไม่เอาทักษิณนะครับ เราจะเหมาพวกเสื้อแดงเป็นทักษิณไปหมด พวกทักษิณก็มีครับ ก็ต้องเข้าใจด้วยทำไมเขาเป็นพวกทักษิณ ที่เป็นเขาพวกทักษิณก็เพราะว่าอื่น เข้าไม่ถึงเขา แม้กระทั่งประชาธิปัตย์จะไปเอา ราษฎร แบบประชาธิปัตย์พึ่งข้าราชการมากเกินไป ทักษิณเขาตรงไหนเลยครับ เขาตรงและเขาพร้อมที่เอาใจราษฎร แม้จะชิบหายเงินแผ่นดิน เช่น จำนำข้าว เป็นต้น ชาวบ้านพอใจครับ แต่ว่าแน่นอนรากฐาน ชิบหายวายปวง หมด โกงกินกันสารพัดเลย ฉะนั้นวิธีทักษิณเป็นวิธี แก้ไขให้เกิดความพอใจในพวกเขา ด้วยเอาเงินแผ่นดินไปละเลง เราต้องเลือกวิธีนี้ครับ เลือกวิธีทักษิณ แล้วก็ต้องเลือกวิธีประยุทธ์ด้วย หาทางออกสายกลางได้ครับ
เติมศักดิ์ - ประชาชนมีทางเลือก ที่สามที่สี่นอกจากรัฐบาลตั้งที่เลวร้าย รัฐบาลทหารที่ไม่ฟังเสียงประชาชน เขามีทางเลือกอื่นนอกจาก 2 ทางนี้ใช่ไหมครับ
ส.ศิวรักษ์ - มีแน่นอน ถ้าคุณสนใจนะครับ หัดฟังเสียงรากหญ้า หัดฟังเสียงจากคนสมัชชาคนจน หัดฟังเสียงคนที่บ่อนอก คนที่เค้าไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ถ้าเขาต่อต้านคุณก็จับเขาหมดแล้ว เขามีเหตุผลดีนะครับ ฟังเขาสิครับ ถ้าฟังเขาสติปัญญาจะเกิด เรามาบริหารบ้านเมืองต้องรับใช้คนข้างล่างส่วนใหญ่ ไม่ใช่เอาแต่รับใช้คนข้างบนเอาเปรียบคนข้างล่าง คิดมิตินี้มันจะเป็นสัมมาทิฏฐิ ไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ดังพวกบริหารบ้านเมืองอยู่เป็นราวๆ นี้
เติมศักดิ์ - สามสี่ปีที่ผ่านมาที่เขาสัญญาจะ คืนความสุขให้คนไทยรัฐบาลทำตามสัญญาได้มากน้อยแค่ไหน ตามมุมมองของอาจารย์
ส.ศิวรักษ์ - เขาเพิ่มความทุกข์ให้คนไทยมากเลย เผด็จการไม่มีทางคืนความสุขได้ เหตุการณ์ให้แต่ความทุกข์ ไม่มีความสุขครับ เผด็จการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือเมืองจีนนะครับ ตอนนี้จีนค้าขายแข่งกับสหรัฐฯ แล้ว ตีตลาดโลกได้แล้ว ก็คนชั้นกลางเมืองจีนเป็นอันมากลืมตาอ้าปากมาเที่ยวเมืองไทยกันเป็นแถวเลย แต่คนข้างล่างเมืองจีนนี้ทนทุกข์ทรมานกว่าเดิมนะครับ เพราะไม่มีสหพันธ์กรรมกร กรรมกรถูกรังแกมลพิษ แม้ปักกิ่งเองมลพิษเลวร้ายยิ่งกว่ากรุงเทพฯ อีก เพราะฉะนั้นเวลาเรามองประเทศอื่นอย่ามองเผินๆ มองให้ลึกซึ้งครับ ต้องมองให้ลึกซึ้ง แม้ว่าประเทศสิงคโปร์ที่อ้างว่า เป็นประเทศที่รวยที่สุดในอาเซียน สิงคโปร์เขาก็เต็มไปด้วยสัตว์เศรษฐกิจนะครับ คนที่สิงคโปร์เป็นคนที่ไม่สามารถมีอิสระภาพ มีเสรีภาพในการพูด การเขียนได้ มนุษย์ที่สำคัญที่สุดประการแรกคือ อิสระภาพ อิสระภาพในการแสดงออก ในการพูด ในการเขียน อันนี้เป็นพื้นฐานของมนุษย์ ถ้าไม่เข้าใจพื้นฐานของมนุษย์อันนี้ คุณก็สอนให้คนเป็นสัตว์เศรษฐกิจอย่างสิงคโปร์ สอนให้คนเป็นทหารไปหมดในเมืองไทยมันไปไม่รอดหรอกครับวิธีนี้
เติมศักดิ์ - การเป็นเผด็จการไม่เคยมอบประชาธิปไตย
ส.ศิวรักษ์ - ถูกต้อง
เติมศักดิ์- ดูเหมือนรัฐบาลพยายามจะทำให้การเลือกตั้ง ที่เรียกว่า โรดแมป มันไกลออกไปเรื่อยๆ เลื่อนไปเรื่อยๆ อาจารย์กังวลเรื่องนี้แค่ไหนครับ
ส.ศิวรักษ์- รัฐบาล คสช. สิ่งที่เขากลัว เขากลัวพวกทักษิณจะกลับมา ถ้าตราบใดที่คุณยังเป็นแบบนี้ ตราบใดที่มีเลือกตั้ง แบบคุณทักษิณกลับมาแน่ครับ เพราะทักษิณเขาสามารถเข้าถึงประชาชนเก่งกว่า เขาสามารถมอมเมาประชาชนได้เก่งกว่า เขาสามารถใช้วาทะศิลป์และใช้กำลังเงินเข้าหาชาวบ้านได้เก่งกว่า อันนี้ คสช. ไม่มีทางเอาชนะทักษิณได้ ประชาธิปัตย์ก็ไม่มีทางทำได้ เพราะว่าทักษิณและพวกเขาเข้าถึงราษฎร แต่เป็นที่น่าเสียใจ เขาเข้าถึงราษฎรแล้วเขาเอาราษฎรมาเป็นเครื่องมือเพื่ออำนาจของเขา ถ้าเผื่อเรากลับกลับตาลปัตร เข้าถึงราษฎรแล้วอยู่ฝ่ายราษฎรฟังราษฎร อันนี้จะเปลี่ยนมาก ที่น่าเสียใจประชาธิปัตย์ก็ทำอันนี้ไม่ได้ ยิ่งพวกทหาร คสช. ยิ่งทำไม่ได้ใหญ่ เพราะลึกๆ เรายังถือเราฉลาดกว่าราษฎร
เติมศักดิ์- อาจารย์มองว่าการบริหารประเทศแบบทุกวันนี้ แบบที่ทหารทำอยู่ทุกวันนี้ แบบที่ คสช. ทำอยู่มันจะไม่ทำให้คนไทยลืมทักษิณ มีเลือกตั้งทักษิณก็กลับมาชนะอยู่ดี
ส.ศิวรักษ์- แน่นอน เพราะพวกนี้เขาไม่ถนัดในการปกครอง เขาไม่ถนัดในรัฐประศาสโนบาย เขาคิดอย่างเดียว ให้พวกเขาอยู่รอดไปวันๆ แล้วพวกเขาโกงกินกันเขาไม่ว่าอะไร คุณจะใส่นาฬิกาเครื่องละกี่หมื่นกี่แสนก็ไม่เป็นไรใส่แหวนวงกี่หมื่นกี่แสนก็ไม่เป็นไร ปกป้องกันหมด แต่คนอื่นทำผิดพูดผิดนิดเดียวเอามาตรา 112 เข้าคุก มันเห็นชัดเลยครับว่าความอยุติธรรมในสังคมมันยิ่งชัดขึ้นและกว้างขวางขึ้นทุกๆที คนก็รับไม่ได้มากขึ้นทุกที นี้ผมเตือนนะ เตือนคุณ ประยุทธ์ และผู้ปกครองบ้านปกครองเมืองด้วยความหวังดี
เติมศักดิ์- บ้านเราผ่านเผด็จการมาหลายยุคหลายสมัย มีข้อแตกต่างระหว่างเผด็จการยุคนี้กับเผด็จการยุคก่อนๆ ไหมครับอาจารย์ ศิวรักษ์
ส.ศิวรักษ์- สุจินดา คราประยูร เป็นเผด็จการเลวร้ายแต่เขาฉลาด บิ๊กสุ เขายก บิ๊กจ๊อด เป็นหัวหน้าเชิด แล้วก็สามารถไปดึงคุณ อานันท์ ปันยารชุน มาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เขาก็มีอำนาจเด็ดขาดอยู่เบื้องหลัง เขาฟ้องผมเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แล้วไล่ยิงผมด้วยจนผมต้องหนีออกนอกประเทศ แต่ผมยังเห็นว่า สุจินดา คราประยูร เก่งกว่าประยุทธ์ มากมาย ประยุทธ์เป็นคนซึ่งไม่มีกึ๊น เป็นคนกึ่งดิบกึ่งดี ไม่กล้าตัดสินใจ เพียงจะรักษาอำนาจตัวไว้วันๆ เท่านั้นเอง ไม่แสดงความวิเศษ มหัศจรรย์ในทางหนึ่งทางใดออกมาให้ปรากฏเลย
เติมศักดิ์- ถ้า หลังการเลือกตั้ง เกิดการสืบทอดอำนาจ พลเอกประยุทธ์กลับมาเป็นนายก อีกครั้งหนึ่ง จะเกิดอะไรขึ้นครับอาจารย์ ศิวรักษ์
ส.ศิวรักษ์- คุณประยุทธ์ ก็คงหวังอย่างนั้นนะครับ แต่ผมไม่เชื่อถึงทหารจะอยู่ได้ ทหารก็ต้องการเปลี่ยนตัวครับ คุณอย่านึกว่าทหารเขาจะยอมสยบอยู่กับคุณประยุทธ์ ผมเชื่อเลยทหาร และผมเชื่อเลยครับทหารหนุ่มๆ นายพลหนุ่มๆ ที่รักชาติ รักบ้าน รักเมือง ที่ไม่โกงไม่กินมีไม่ใช่น้อยครับ ผมหวังถึงนายพลเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญในการเลิกนับถือทุนนิยม บริโภคนิยม กลับมาเป็นชายชาติทหารที่พร้อมจะปกป้องราษฎรและพร้อมที่จะคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน ผมเชื่อคนอย่างนี้มี อย่าลืมนะครับ 2475 นายพันเอกเพียง 4 คนเท่านั้นนะครับ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองได้เลยและผมว่าเวลานี้ถ้าเราได้นายพลหนุ่มๆ 4-5 คน เท่านั้นเองครับมีความกล้าหาญที่จะทำรวมตัวกัน ปลดไอ้พวกน้ำเน่าต่างๆ นี้ออกได้เลย และนายพลเหล่านี้อาจจะยึดอำนาจทางทหาร แต่จะยึดอำนาจไว้ชั่วคราวเพื่อคืนประชาธิปไตยให้เมืองไทย นายพลเหล่านี้จะเป็นวีรบุรุษของเรา จะเป็นคนที่เป็นอมตะไม่แพ้กับพระยาพหล พระยาทรง พระยาฤทธิ พระประศาสน์ ซึ่งนำมาแล้วใน 2475 ผมเชื่อจะมีคนอย่างนี้ครับ
เติมศักดิ์- หมายความว่าอาจารย์ไม่เชื่อว่า กองทัพจะยอมเป็นเครื่องมือของอำนาจกลุ่มนี้ กลุ่มของ พลเอก ประยุทธ์ ตลอดไป
ส.ศิวรักษ์- กองทัพประกอบไปด้วยคนที่ฉลาดไม่ใช่น้อยนะครับ อย่านึกว่านายพันจะต้องเชื่อนายพลตลอดเวลา อย่านึกนะครับ และผมเผอิญมีโอกาสในทางส่วนตัว เคยพบนายทหารในระดับพันเอกที่มีความสามารถ พูดจาคุยกับผมลึกซึ้ง และผมเคยพบนายพลตรีหนุ่มๆ ที่เคยมากราบอกผมเลยนะครับแล้วก็บอกเลยว่าเขานิยมชมชอบปัญญาชน เขานิยมชมชอบประชาธิปไตย คนอย่างนี้มีครับแล้วผมก็หวังกับคนเหล่านี้จะรวมตัวกันและไม่เปิดโอกาสให้นายพลแก่ๆ เหลาๆ ที่คิดแต่ประโยชน์ส่วนตัวยึดอำนาจเอาไว้นานเกินไป เพื่อศักดิ์ศรีของกองทัพ เพื่อศักดิ์ศรีของทหารไทย ซึ่งผมเห็นทหารไทยมีศักดิ์ศรี กองทัพไทยมีคุณสมบัติที่วิเศษเกินกว่าที่จะให้คนไม่กี่คนมาจูงจมูกเราจนนานเกินไป
เติมศักดิ์- คือในกองทัพก็ยังมี คนเก่ง คนดี คนที่มีหัวคิดก้าวหน้า
ส.ศิวรักษ์- ผมเชื่ออันนี้มาก แล้วผมเคยพบบางคนมาแล้วด้วย
เติมศักดิ์- เรื่องนาฬิกาหรูของพลเอก ประวิตร มันสะท้อนอะไรในทางการเมือง พลเอก ประยุทธ์ บอกว่านี้เรื่องส่วนตัว
ส.ศิวรักษ์- คือถ้าเกิดว่าการทุจริตประพฤติมิชอบเป็นเรื่องส่วนตัว ก็แน่นอนครับพูดเรื่องนาฬิกา แหวน อะไรพวกนี้ มันเห็นชัดเลยนะครับ มี 2 มาตรฐาน ถ้าพวกเราแล้วทำอะไรไม่ผิด คนอื่นอะไรทำผิดหมดแล้วคนอย่างนี้ปกครองบ้านเมืองได้อย่างไรครับ ผมจะเล่าให้ฟังนะครับ สมัยรัชกาลที่ 3 สมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่ สมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อยเป็นมือซ้ายมือขวารัชกาลที่ 3 ลูกสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย ทำความผิดนิดเดียวไปลอบรักกับเจ้าจอมข้างใน โทษประหารชีวิตนะครับ รัชกาลที่ 3 ท่านมีพระราชดำรัสเลยว่าสมเด็จองค์น้อยมาทูลขอโทษ ท่านจะยกโทษประทานลูกคนรักของท่าน สมเด็จองค์ใหญ่บอกสมเด็จองค์น้อยครับ เราพี่น้องต่างพระเนตร เพราะการปกครองบ้านปกครองเมือง ลูกคนอื่นทำผิดถูกประหารชีวิต ลูกเราทำผิดไม่ถูกประหารชีวิตแล้วเราจะปกครองบ้านปกครองเมืองได้อย่างไร เลือดก้อนเดียวยอมเสียซะเถอะ สมเด็จองค์น้อยเชื่อพี่ครับ ขังตัวเองสามวันถูกประหารชีวิต ถ้าไปขอทานก็ให้ นี่ชีวิตเลยนะครับแล้วนี่ตอนนี้กินกัน โกงกัน ปกป้องกันตลอดเวลาและคนอย่างนี้จะปกครองบ้านเมืองได้อย่างไรครับ คุณนึกว่าราษฎรเขาโง่หรือ คุณปิดสื่อสารมวลชนส่วนมาก สื่อออนไลน์มีสื่อสารพัดครับ คุณจะปกครองบ้านปกครองเมือง โดยปิดหูปิดตาคนตลอดได้หรือ คุณทำความชั่วแล้วจะให้คนยอมรับความชั่ว ของคุณเป็นของดีได้หรือ นี่เป็นพื้นฐานแห่งจริยธรรมแห่งการปกครองบ้านปกครองเมืองเลยนะครับ
เติมศักดิ์- ยังพอมีโอกาสที่จะพลเอกประยุทธ์จะกอบกู้ที่ศรัทธาที่ประชาชนมีต่อรัฐบาลคสช. กลับมาได้ไหมครับ ช่วงเวลาที่เหลืออยู่
ส.ศิวรักษ์- มีครับ แต่คุณประยุทธ์มีความกล้าหาญทางจริยธรรม คุณประยุทธ์ก็ลาออกสิครับ นักการเมืองที่ดีเป็นอย่างนั้นทั้งนั้นครับ เมื่อมีอะไรผิดพลาดขึ้นลาออกทันที นี่ผมจะพูดให้ฟัง ก่อนคุณป๋วยมาเป็นผู้ว่าการแบงค์ชาติ ผู้ว่าการคนหนึ่งนะครับ ลูกน้องทำธนบัตรปลอม ท่านลาออกทันทีเลยจากผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นไหมครับนี่ขนาดธนาคารแห่งประเทศไทย หน่วยงานเดียวนะครับความผิดข้างล่างผู้ใหญ่สูงสุดลาออกเลย นี่ลูกกระเดือกคุณเองเลยโกงกินขนาดนี้แล้วคุณกลืนน้ำลายตัวเองปกป้องพรรคพวกคุณ คุณไม่มีความชอบธรรมในการปกครองบ้านปกครองเมือ ถ้าคุณมีความกล้าหาญลาออกสิครับอย่างน้อยเนี่ยช่วงปลายคนจะนึกถึงคุณประยุทธ์ เค้าไม่ได้เลวร้ายตลอดนะถึงแม้บั้นปลายเขากลับมาเป็นคนดีได้เหมือนกัน
เติมศักดิ์- หมายความว่า ณ ตอนนี้ทางเดียวที่เหลืออยู่ ที่จะกอบกู้ศรัทธา กลับมาได้ก็คือลาออก เหรอครับอาจารย์ครับ
ส.ศิวรักษ์- เพราะว่าถ้าคุณไม่ลาออก ด้วยความเคารพคุณต้องถีบออกแน่นอน และคนที่ถีบคุณออกก็จะเป็นทหารหนุ่มๆ ที่ผมพูดนี่แหละครับ นายทหารหนุ่มๆ และถ้าเผื่อได้ทหารหนุ่มๆ ที่รักชาติ รักประชาธิปไตย ไม่ได้ต้องการเพียงมาสืบอำนาจ บ้านเมืองนี้จะพลิกผันเลย และผมเชื่อเมืองไทยจะพลิกผันได้ เมืองไทยเนี่ยเราอย่าไปนึกว่าคนไทยจะโง่บัดซบเดินตามกันไปหมด แม้ในกองทัพเองผมเชื่อเลยทหารที่ดีที่มีความสามารถ ที่มีสติปัญญามีความกล้าหาญ จริยธรรมเนี่ยมี
เติมศักดิ์ - เงื่อนไขสุกงอมพอหรือยังครับตอนนี้
ส.ศิวรักษ์- ผมเชื่อว่าพอแล้ว เกินพอด้วยซ้ำ ไม่เป็นไรนะผมอาจจะผิดนะฟังผมไม่ต้องเชื่อนะครับใช้สติ วิจารณญาณดูแล้วถ้าเผื่อมีสื่อไหนๆ ฟังรายการนี้แล้ว ไปแพร่หลายที่เราพูดกันวันนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยนะครับ แม้โจมตีที่เราพูดวันนี้ นั่นแหละประชาธิปไตย ที่เกิดขึ้น ที่เราพูดแล้วมีคนไม่เห็นด้วย เห็นด้วย ให้เขาได้ออกความคิด เสรีมากเท่าไหร่ อันนี้แหละครับบ้านเมืองเราจะเดินไปสู่ประชาธิปไตยได้มากเท่านั้น
เติมศักดิ์- หมายความว่าหัวใจของประชาธิปไตยจริงๆเนี่ยคือสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน
ส.ศิวรักษ์- นี่สำคัญที่สุดครับ พระพุทธศาสนาต่างจากศาสนาอื่นตรงนี้ พระพุทธเจ้าท่านให้สาวกเถียงท่านได้ตลอดเวลา และท่านสอนไม่ให้เชื่อ ฟังท่านแล้วไม่ต้องเชื่อ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเชื่อ ครั้งหนึ่งเป็นประธานเทศนาลึกซึ้งมาก รับสั่งถามพระสารีบุตรอักครสาวก ว่าสารีบุตรเชื่อไหมที่สิทธัตถะเทศ ตอบไม่เชื่อพุทธเจ้าค่ะ ข้าพเจ้าฟังแล้วจะไปประพฤติปฏิบัติเห็นอานิสงส์แห่งพระดำรัสแล้วข้าพเจ้าจะเชื่อตาม พระพุทธเจ้าตรัสดูก่อนภิกษุทั้งหลายไปให้ดูสารีบุตรเป็นตัวอย่าง สิ่งที่พูดไม่จำเป็นต้องเชื่อนะเอาไปคิดไตร่ตรองดู เห็นดีเห็นชอบ เอาไปประพฤติปฏิบัติ นี่สำคัญมากนะ คนไทยแม้จะบกพร่องในทางพระพุทธศาสนาไปมากแล้ว แต่พระพุทธยังอยู่กับคนไทยทั่วไปไม่ใช่น้อย
เติมศักดิ์- แต่ว่าการได้โต้แย้งถกเถียง แสดงเหตุผลจะทำให้เกิดปัญญา
ส.ศิวรักษ์- เป็นพื้นฐานประชาธิปไตยทั่วไป เป็นพื้นฐานของการเจริญงอกงาม ของทุกคน ของทุกสังคม ของทุกประเทศชาติ
เติมศักดิ์- อาจารย์ครับ ประชาชน ควรจะสรุปบทเรียนอย่างไรกับกรณีที่ชุมนุมขับไล่ รัฐบาลชั่วร้ายแต่กลับได้ การยึดอำนาจที่ไม่เห็นหัวประชาชน ไม่ฟังเสียงประชาชน และประชาชนจะสรุปบทเรียนอย่างไร
ส.ศิวรักษ์- ประชาชนจะลุกฮือขึ้นเรื่อยๆ ผมอยากจะเตือนคนที่ปกครองบ้านปกครองเมือง คุณอย่านึกว่าคนเอามาตราโน้นมาตรานี้มาเล่นงานเขา จับเขา อย่างนี้มันตายหนึ่งเกิดเป็น 100,000 นะครับ คุณดูเผด็จการที่ล้มกี่แห่งกี่แห่งเป็นอย่างนี้ทั้งนั้น คุณต้องปิดตาดูประวัติศาสตร์โลกเป็นอย่างนี้ทั้งนั้น เมืองไทย เองก็เช่นเดียวนะครับ คนขึ้นมาสู้ตลอด อย่านึกว่าคุณกดขี่เขาเอาชนะเขาได้ คุณเอาชนะได้ในระยะสั้นอำนาจชนะอธรรมได้ แต่ถ้าธรรมมะเป็นอธรรมะ ธรรมมะชนะอธรรมไม่ได้ ธรรมมะ จะต้องไปอยู่ฝ่ายได้ชัยชนะในขั้นสุดท้าย โดยสันติวิธี
เติมศักดิ์- แล้วกองทัพล่ะครับ สักครู่ถามถึงประชาชน และกองทัพเองควรสรุปบทเรียนอย่างไร กับการมาแทรกแซงทางการเมือง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ส.ศิวรักษ์- ผมเชื่อในกองทัพ มีแม่ทัพนายกอง ที่มีความหวังดี แม่ทัพนายกองเหล่านั้นหลายคนก็ลูกชาวนาลูกชาวบ้าน แต่ระบบของเราไม่ใช่กองทัพอย่างเดียวแม้กระทั่งระบบการศึกษา มหาวิทยาลัยสอนให้คนเป็นคนลืมตีน สอนให้อยากเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ แต่ผมเชื่อแม้ในกองทัพ คนเค้ามีจิตสำนึก ไม่ลืมตีน กลับไปหาว่าคนสำคัญคือพ่อแม่พี่น้องเขา ที่เป็นชาวไร่ชาวนา ที่ถูกเอาเปรียบมา และคนในกองทัพไม่จำเป็นต้องมีจำนวนมากเท่านี้ครับ มันจะเกิดจิตสำนึกขึ้น จิตสำนึกในการแก้ไขบ้านเมือง แก้ไขสังคม เราอาศัยคนไม่ต้องจำนวนมากมีจำนวนน้อย ที่มีความกล้าหาญที่จะทำและผมว่าทำได้ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองได้
เติมศักดิ์- เมื่อสักครู่อาจารย์พูดถึงประชาธิปไตย ที่เป็นไปได้ใช่ไหมครับ มีการพูดว่าประชาธิปไตยของบ้านเรา มันไม่จำเป็นต้องเป็นสากลเหมือนที่อื่นๆ เรามีประชาธิปไตยแบบไทยไทยบางคนไปนิยาม ว่านี้คือประชาธิปไตยไทยนิยม อาจารย์มองอย่างไรกับการพูดแบบนี้ครับ
ส.ศิวรักษ์- เรื่องการตีฝีปากอันตรายมากนะครับ สิงคโปร์เขาบอกเขาเป็นประชาธิปไตยครับ แต่เลือกตั้งทุกครั้งพรรคพีไอพีก็อยู่ตลอดเวลา แน่นอนคนสิงคโปร์มีความร่ำรวยขึ้นทางเศรษฐกิจ ตลอดเวลาแต่ ขาดความเป็นมนุษย์ขาดเสรีภาพในการแสดงออก เป็นสัตว์เศรษฐกิจทำตามๆ กัน แต่คนหลายคนอยากไปเยือนสิงคโปร์ มาเลเซียก็เหมือนสิงคโปร์ มาเลเซียก็เป็นประชาธิปไตย มหาเธร์อยู่ในอำนาจ 20 ปีเลยครับ ในขณะที่เขาเลือกกันทุก 5 ปี เอาแบบนั้นหรือ ทำไมเราไม่กลับมาดูของเราละ เมื่ออาจารย์ปรีดีเริ่ม 2475 ทั้งๆ ที่มีเผด็จการ ทั้งที่มีญี่ปุ่นมารุกรานครอบครองเราอยู่ประชาธิปไตยเบ่งบานนะครับ เผด็จการเนี่ยจอมพล ป. หลุดจากตำแหน่งเพราะแพ้เสียงในสภาผู้แทนราษฎรนะครับเรื่องพุทธมณฑลบุรีเรื่องย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เพชรบูรณ์ ทุกคนลืมไปแล้ว ให้อำนาจรัฐสภาครับทำได้เลยประชาธิปไตยแบบไทยหมายความว่าแบบฝรั่งมันมีประโยชน์เหมือนกันแต่ให้ลึกซึ้งต้องกลับไปหารากของเรา เรื่องนี้อาจารย์ปรีดีได้คุยกับอาจารย์พุทธทาสถึง 3-4 วัน กลับไปหารากเดิมของเรา รากเดิมของเรานะ คณะสงฆ์ที่มีประชาธิปไตยเป็นแห่งแรกในโลกเลยนะครับ คนที่พูดอันนี้ ดร.เอ็มเบดการ์ เป็นคนที่เขียนรัฐธรรมนูญในอินเดีย รัฐธรรมนูญ 60 ปี ยังไม่เคยถูกล้มเลยครับ เอ็มเบดการ์เป็นจัณฑาลและเขาบอกว่าศาสนาพุทธมีประชาธิปไตยแห่งแรกคนที่เข้ามาไม่ว่าวรรณะสูงต่ำเท่ากันหมด พื้นฐานนะครับ มีภราดรภาพเป็นพื้นฐาน สำคัญคือ เสรีภาพจากความโลภโกรธหลง คณะส่งเป็นตัวอย่างของประชาธิปไตยอาจารย์ปรีดีพยายาม ที่จะเอามาประยุกต์ใช้กับเมืองไทย และท่านเห็นด้วยว่าสิ่งสำคัญคือ สนฺตุฏฺฐี ให้มีความสันโดษเป็นเจ้าเรือน ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวองค์ก่อน ท่านเน้นเลยเศรษฐกิจพอเพียง เราไม่เข้าใจวาทะของท่าน เศรษฐกิจพอเพียงหรือสนฺตุฏฺฐี เป็นพื้นฐานประชาธิปไตยบวกกับ เสรีภาพในการแสดงออก อันนี้เป็นแบบไทยเลย ที่ไปตีฝีปากว่าเผด็จการเป็นประชาธิปไตยผมว่าตอแหล
เติมศักดิ์ - เป็นแค่วาทกรรมใช่ไหมครับ
ส.ศิวรักษ์ - ใช่ๆ
เติมศักดิ์ - จากการเมือง มาเรื่องศาสนา นี้ที่เราพูดถึง เรื่องการปฏิรูปศาสนา เราเห็นวงการสงฆ์เหลวแหลกบางส่วน ก็พูดถึงเรื่องการปฏิรูปศาสนาแต่การปฏิรูปศาสนาในมุมมองอาจารย์สุลักษณ์ เป้าหมายที่สำคัญที่สุด เป็นอย่างไรและมีความจำเป็นแค่ไหนที่เราต้องปฏิรูปวงการศาสนา ณ ตอนนี้
ส.ศิวรักษ์ - คำว่าศาสนานะครับเราไปนึกถึง Religion ใส่ภาษาอังกฤษใช่ไหมครับ ซึ่งรวมถึง พุทธ คริสต์ อิสลาม มันเป็นลัทธิ เป็นพิธีกรรมเป็นความเชื่อ นี้เราต้องให้เสรีภาพทุกคน ในเรื่องนี้ตราบที่ การที่ศาสนานั้นไม่ไปเอาเปรียบศาสนาอื่น เราก่ศาสนาอื่น นายอ้างว่าเป็นพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมากนั้น เข้าใจต้องไม่เอาเปรียบ คริสเตียนซึ่งมีจำนวนน้อย เปรียบอิสลามโดยเฉพาะทางภาคใต้ ซึ่งถูกเอาเปรียบมาก พื้นฐานรัฐต้องให้ความมั่นใจ ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน แต่ต่างศาสนานั้นเราต้องดูว่าวิถีทางเขาเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างศาสนาพุทธเราถามไหมครับ รัฐเอามาเป็นเครื่องมือของรัฐ รัฐเอาศาสนามาเป็นเครื่องมือ ทำอย่างไรเราถึงจะปล่อยให้ศาสนาพ้นจาก อำนาจของรัฐ นี้หนังสือเล่มใหม่เพิ่งออกมาเลยนะครับน่าสนใจมาก หนังสือศาสนาพุทธให้ไปพ้นอำนาจรัฐ โดยเฉพาะศาสนาพุทธพระพุทธเจ้าท่านสอน อันนี้กลับมาหาเอ็มเบดการ์ อีกนะครับ เอ็มเบดการ์ บอกพระพุทธเจ้าสอน ศาสนาพุทธ 1. เพื่อความเป็นไทยส่วนบุคคล นี่สำคัญมาก
เติมศักดิ์ - ความเป็นไทยนะครับ
ส.ศิวรักษ์ - ส่วนบุคคล คือสังคมอินเดียมันกดขี่วรรณะมันกดขี่กัน ถ้าถือพุทธต้องมีความเป็นไทย เท่าเทียมกัน เป็นไทยส่วนบุคคล 2. ความเป็นไทยทางสังคม ต้องจัดระเบียบสังคม ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบกัน ศีล มีการจัดระเบียบสังคมไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบกัน ศีลแปลว่าปกติ แปลว่าสังคมปกติไม่เอารัดเอาเปรียบกัน และความเป็นไทยในทางบ้านเมืองทั้งหมด คือพระพุทธเจ้าท่านไปทั้งโลกในความเป็นไทย ถ้าเข้าใจอันนี้แล้ว รัฐหรือพวกเราที่สนใจเรื่องศาสนา ต้องหาทางให้ศาสนา คนที่ประพฤติปฏิบัติเรื่องศาสนาเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด และไม่ให้ใช้ศาสนามอมเมาคน ที่มาร์ก บอกศาสนา เลวร้าย เท่ากับเป็นจริงครับ ศาสนาเมืองไทย นี่เป็นฝิ่นชนิดหนึ่งเลย ตอนนี้พุทธพาณิชย์เข้าไปทุกแห่ง ธรรมกายเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ฝิ่น เป็นเฮโรอีนรายใหญ่เลย คนถูกมอมเมา คนแทบทุกแห่งครับ วัดต่างๆ สร้างรูปพระพิฆเนศไว้บูชา สร้างรูปหลวงปู่ทวดให้บูชา ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเหลวไหล ไร้สาระกันทั้งนั้น นี่ต้องเข้าใจนะครับ ว่าต้องทำอย่างไร ถึงจะปลุกคนให้ตื่น สำคัญมาก พุทธะ นี่แปลว่า ตื่น คุณเป็นศาสนาคริสต์ก็ได้ คุณไปนับถือศาสนาคริสต์ก็ได้ แต่ทุกคนต้องตื่น ตื่นจากไหน ตื่นจากความเห็นแก่ตัว เพื่อรับใช้เพื่อนมนุษย์ทั้งหมด อันนี้สำคัญถ้าเราเข้าใจจุดศาสนาตรงนี้ได้ จับประเด็นนี้ได้เราจะเข้าใจชัด เมืองไทยตอนนี้ครับ มีพระพุทธรูป มากที่สุดในโลก มีวัดมากขึ้นไปทุกทีๆ จำนวนพระน้อยลงไปเรื่อยๆ จำนวนเณรน้อยลงไปเรื่อยๆ นี่ปริมาณนะครับ ไม่ต้องพูดถึงคุณภาพ คุณภาพตกต่ำขนาดไหน ถ้าคิดตรงนี้ต้องกลับมาแก้ไข กลับมาแก้ไขตรงไหน แก้ไขตรงการศึกษา การศึกษาทั้งระบบโรงเรียน ระบบมหาวิทยาลัย ให้คนเข้าใจในเรื่อง ศีล ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน เข้าใจเรื่องสมาธิ เพราะการศึกษาแบบตะวันตก มันใช้หัวสมองอย่างเดียว ทำอย่างไรจะใช้หัวใจ หัวสมองสัมพันธ์กัน เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต คือลมหายใจ แต่เราลืมไป ฝึกลมหายใจ ลมหายใจ สอนให้เราเชื่อง ให้เราลดความเห็นแก่ตัว เกิดปัญญา เมื่อปัญญามันสะอาด ก็เห็นทุกคนสำคัญหมด เมื่อความเห็นแก่ตัวลดน้อยลง ปัญญาก็กลายเป็น กรุณา จะรักสรรพสัตว์ทั้งหมด นี่คือหัวใจของศาสนาอยู่ตรงนี้ เมื่อจับประเด็นนี้ได้เนี่ย ศาสนาจะเป็นหัวใจ ในการช่วยการเมือง ช่วยสังคม ช่วยปัจเจกบุคคล ช่วยได้สารพัดเลย
เติมศักดิ์- อะไรที่เป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการปฏิรูปศาสนาครับ ตอนนี้
ส.ศิวรักษ์- เพราะตอนนี้ สิ่งที่เรียกศาสนานั้น มันเป็นสถาบันการเมือง มหาเถรสมาคม มันเป็นสถาบันการเมืองที่รับใช้รัฐฐะ และมหาเถรสมาคมนั้น พระเหล่านั้นก็ไม่รู้ตัว ตัวรับใช้ทุนนิยม บริโภคนิยม เดี๋ยวนี้มีองค์สมเด็จที ถวายเป็นแสนนะครับ และสมเด็จมีรถยนต์โก้ๆ ไม่รู้สึกผิดอะไรเลยนะครับ คือเราห่างไกลศาสนามาถึงเพียงนี้แล้ว แล้วหลายต่อหลายวัดเลยนะครับ มี ทีวีดู ดูหนังโป๊กันเปิดเผยเลย มันๆ เลวร้ายถึงเพียงนี้แล้ว เพราะฉะนั้นประการแรกให้คนตื่น อะไรคือสาระของศาสนา อะไรคือของแท้ อะไรคือของเทียม แล้วค่อยๆ แก้เอาของเทียมออก เอาของปลอมออก ที่โบราณบอกเอาน้ำฝน ปนน้ำท่า หักพร้าด้วยเข่า ไม่ได้หรอกครับ ค่อยๆ แก้ เดี๋ยวก็แก้ได้ ถ้ามีคนซึ่งมีสติปัญญาพอสมควร คิดร่วมมือร่วมใจกัน สามารถทำได้ครับ
เติมศักดิ์- ผ่านระบบการศึกษา
ส.ศิวรักษ์- การจัดการศึกษา ใช่ เพราะเดี๋ยวนี้ก็มีกลุ่มพระสงฆ์ ที่น่าสนใจ กลุ่มเสขิยธรรม เป็นพระรุ่นใหม่ที่สนใจในเรื่องปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา สนใจในการสร้างกัลยาณมิตรซึ่งกันและกัน สนใจเห็นว่าการเป็นพรหมจรรย์นั้นสำคัญมากกว่าการเป็นชีวิตครอบครัว จำนวนน้อยแต่เข้มแข็ง เดี๋ยวนี้ภิกษุณี ก็เกิดขึ้นในเมืองไทย คณะสงฆ์ไทยไม่ยอมรับ รัฐบาลไม่ยอมรับ แต่พระภิกษุณีก็เกิดขึ้นแล้ว มีจำนวนกว่า 100 แล้ว ภายใน 10 ปีนี้ และท่านเหล่านี้ เมื่อมีคุณธรรมมากๆ จะช่วยมากเลยนะครับ ไต้หวัน นี่ภิกษุณีมีมากว่า ภิกษุสงฆ์ 6 เท่าครับและภิกษุณีไม่มีข้อครหา ในเรื่องเงิน ในเรื่องเพศและทำงานเพื่อปรับปรุงสังคมอย่างเข้มแข็ง มากเลยครับ เห็นไหมครับเราควรจะดูตัวอย่าง แม้พม่า ศาสนาพุทธ เราจะได้ยินพระหัวรุนแรงโจมตีมุสลิม แต่พระในพม่าโดยส่วนใหญ่เข้มแข็งมากกว่าพระไทย เพราะไม่มีศูนย์รวมอำนาจ ไม่ติดในยศถาบรรดาศักดิ์ เนี่ย สมณศักดิ์ มันถึงได้ซื้อกัน ติดสินบนกันเลยนะครับ ยื่นกับตำรวจ เนี่ยถ้าเข้าใจความจริงเหล่านี้ เราจะแก้สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ จะแก้ก็อย่าหักพร้าด้วยเข่า ค่อยๆ แก้ ค่อยๆ ปลด ค่อยๆ ปล่อย ค่อยๆ เปลี่ยน ทำได้ครับ
เติมศักดิ์- ทวนอีกปัญหาหนึ่งคือการรวมศูนย์อำนาจเหรอครับ อาจารย์ครับ
ส.ศิวรักษ์- ครับ รวมศูนย์อำนาจ และก็ไม่เข้าใจว่าทุนนิยม บริโภคนิยม มันมีอำนาจเหนือ ไอ้ไสยศาสตร์ต่างๆ มันไปทางพุทธพาณิชย์ ทุนนิยมแทบทั้งนั้นครับ ต้องเข้าใจประเด็นนี้
เติมศักดิ์- จากเรื่องการเมืองและศาสนาที่อาจารย์ได้ สนทนากับเรา สุดท้ายอาจารย์มีความหวังกับบ้านเมืองเราแค่ไหน มีความหวังกับอนาคตประเทศเรา แค่ไหน
ส.ศิวรักษ์- คือความหวัง เนี่ย ถ้าหวังลมๆ แล้งๆ ไม่มีประโยชน์นะครับ ความหวังของผมเนี่ย ผมว่า 1.พื้นฐานของสังคมไทย สังคมสยามก็ได้ เพราะว่ารวมถึงเพื่อนเราที่เป็น มุสลิมมลายู เนี่ย เขาก็มีพื้นภูมิธรรมที่สำคัญของเขา ชาวเขาเผ่าต่างๆ เขามีพื้นภูมิธรรมสำคัญเขา ถ้าเรารู้จักคนเหล่านี้นะครับ แม้กระทั่งสมัชชาคนจน คนที่ต่อสู้ที่บ้านกรูดหิน โอ้โห ถ้าเราเข้าใจเขา เขามีพื้นภูมิธรรมดั่งเดิมครับ เรียนรู้จากเขา เรียนรู้จากเขาเนี่ย ไม่รู้เสื้อเหลือง เสื้อแดง ยังอยู่หรือเปล่า เสื้อเหลือง อย่าไปสอนเขา ไปเรียนรู้จากเขา เนี่ยพื้นที่1. 2.เด็กรุ่นใหม่ เด็กรุ่นใหม่ แม้กระทั่งโรงเรียนจะสอนให้เขาคิดเหมือนๆ กัน มันมีคนแหวกแนวออกมามากขึ้นทุกทีแล้วนะครับ เนี่ยโอกาสคนเหล่านี้ครับ โดยเฉพาะคนทำสื่อ สื่อทางเลือก เปิดโอกาสให้คนเหล่านี้ได้แสดงความคิดความอ่าน เปิดโอกาสให้คนเล็ก คนน้อย ได้ออกความเห็น และเมื่อเพิ่มพลังทางเสรีภาพมากขึ้นเท่าไหร่ ขบวนการเคลื่อนไหว มากขึ้นเท่าไหร่ คำตอบอนาคตอยู่ที่นั่น คำตอบไม่ใช่ท็อปดาว คำตอบมันก็ต้องอัป
เติมศักดิ์- ความหลากหลาย การเปิดพื้นที่ เสรีภาพ ในการเขียน ในการออกความเห็น ที่สนใจ
ส.ศิวรักษ์- เคารพคนข้างล่างสำคัญที่สุด เราลืมหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร ท่านเป็นลูกพระองค์เจ้า เป็นหลานพระเจ้าแผ่นดิน เป็นนักเรียนอังกฤษรุ่นแรก เป็นอธิบดีกรมที่ใหญ่ที่สุด แต่ท่านเห็นว่าอนาคตของไทยอยู่ที่ชาวไร่ ชาวนา ท่านออกไปเป็นชาวไร่ ชาวนา เองเลย ท่านติดคุกถึง 11 ปี ท่านห่วงใยชาวไร่ ชาวนา ที่สุด ผมตามท่านสิทธิพร อันนี้ โอ้โห วิเศษที่สุด ท่านบอกคุณป๋วย อึ้งภากรณ์ คุณป๋วย เป็นผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ท่านบอกคุณป๋วย เงินตรา เป็นของมายานะ ข้าวปลาเป็นของจริง กลับมาหาข้าวปลาเถอะครับ กลับมาหาชาวไร่ ชาวนา คำตอบอยู่ตรงนี้ครับ ท่านสิทธิพร ป๋วย อึ้งภากรณ์ ปรีดี พนมยงค์ นี่ผมเอ่ยถึง 3 คน เท่านั้น แต่เราเนรคุณ ปรีดี พนมยงค์ เราเพิ่งจัดงานป๋วย 100 ปี ไปเมื่อปีกลาย นี้เอง คนก็ลืมไปแล้ว ท่านสิทธิพร นี่คนลืมสนิทเลย ผมต้องดูปูชนียบุคคลเหล่านี้ครับ เขานำทางให้เราและเราสามารถเดินตามรอยเท้าท่่านเหล่านี้ได้ เพื่อมองอดีต มาหาปัจจุบัน เพื่อสร้างอนาคตให้สดใส
เติมศักดิ์- ในทางกลับกัน หน้าที่รวมศูนย์ ความรู้ที่รวมศูนย์ มันจะทำลายตัวเองใช่ไหมครับอาจารย์
ส.ศิวรักษ์- มันไปไม่รอดครับ เศรษฐกิจกระแสหลักก็ไปไม่รอดครับ การเมืองกระแสหลักก็ไปไม่รอด แม้ในตะวันตกเวลานี้ก็เห็นชัดเลยนะครับ ที่ประชุมกันที่ดาวอส ทุกๆ ปี โห นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำ ทุกคนก็รู้ว่าไปไม่รอดครับ เพราะ ทรัพยากรในโลกมีจำกัด จะคิดแบบตะวันตก จะเอาเปรียบซึ่งกันและกัน มันไปไม่รอดแล้วครับ ต้องกลับมารักซึ่งกันและกัน เราลืมไป ทะไลลามะ นี่เป็นตัวอย่างที่สำคัญเลยนะครับ ท่านถูกจีน ยึดครอง ประเทศทิเบต 50 ปี 60 ปี ท่านสอนให้เรารักจีน ท่านบอกว่าความรักเนี่ยคือคำตอบ ไม่ใช่ความเกลียด พระพุทธเจ้าตรัสว่า เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก นะครับ ในเมตตาการุณสูตร นั้นมีคาถาบอกเลย มารดายอมคร่าชีวิตเพื่อปกป้องลูกน้อยคนเดียวฉันใด พึงเจริญเมตตาไปยังสรรพสัตว์ฉันนั้น คาถานี้ใช้ได้ยันปัจจุบัน ความรักเป็นพื้นฐานแก้ทั้งหมด ความเกลียดแก้ไม่ได้ อำนาจแก้ไม่ได้ ปืนแก้ไม่ได้ ความรักแก้ได้ครับ และผมเชื่อด้วยว่าคนไทย แม้กระทั่งคนมุสลิม มาเลย์ ในเมืองไทย เขามีความรักเป็นพื้นฐานส่วนใหญ่้เลย และพื้นภูมิธรรม นี้ยังไม่หายจากเขาไป พวกเราชนชั้นกลาง คนกันเองกับเขา อย่าดัดจริตเอาอย่างคนชั้นสูง คนชั้นสูงก็คนกันเองกับเขา อันนี้ครับคือคำตอบ
เติมศักดิ์- เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ส.ศิวรักษ์- เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และกลับมาหาตัวความรัก อหิงสาวิธี ที่คุณป๋วย เขาใช้คำว่า สันติประชาธรรม
เติมศักดิ์- ครับ วันนี้ ขอบคุณมากนะครับ ที่มาให้ทัศนะกับเราทั้งทางเรื่องการเมืองและศาสนา กับอนาคตของบ้านเมืองไทยนะครับ
ส.ศิวรักษ์- ยินดีมากครับ
เติมศักดิ์- ขอบคุณมากครับ อาจารย์ ศิวรักษ์
ส.ศิวรักษ์- สวัสดีครับ
เติมศักดิ์- และคนเคาะข่าวลาไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ