xs
xsm
sm
md
lg

"ม็อบราษฎร” หน้าแตก! เยอรมนี ยืนยันกษัตริย์ไทย ไม่ได้ละเมิดข้อห้ามปฏิบัติภารกิจทางการเมือง **เหตุที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ถูกทัวร์ลงหนัก แรงต้านมากกว่าใคร เพราะอะไร?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว




** “ม็อบราษฎร” หน้าแตก! เยอรมนี ยืนยันกษัตริย์ไทย ไม่ได้ละเมิดข้อห้ามปฏิบัติภารกิจทางการเมือง

กรณี “ม็อบคณะราษฎร” ได้บุกไปที่สถานทูตเยอรมนี เพื่ออ่านแถลงการณ์ ยื่นหนังสือถึง “นายจอร์จ ชมิดท์” เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย เรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีตรวจสอบว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ได้ใช้พระราชอำนาจบนดินแดนเยอรมนี ที่เป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยเหนือเขตแดน หรือการกระทำที่ผิดกฎหมายของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี หรือไม่... อย่างเช่น ลงพระปรมาภิไธยในพระบรมราชโองการต่างๆ และพระราชบัญญัติประจำปี ระหว่างที่ทรงประทับในแผ่นดินเยอรมนี
ล่าสุด สื่อนอก “รอยเตอร์” ได้รายงานว่า... เยอรมนีเชื่อว่าจนถึงตอนนี้ พระมหากษัตริย์ของไทยไม่ได้ละเมิดข้อห้ามปฏิบัติภารกิจทางการเมืองขณะประทับอยู่ในเยอรมนี

การชุมนุมที่หน้าสถานทูตเยอรมนี
รอยเตอร์ ระบุว่า หลังการประชุมคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศแห่งสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนี ได้พิจารณาถึงเรื่องนี้ ตามที่รัฐบาลเยอรมนี ได้รายงานสรุปแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เห็นว่า... พระมหากษัตริย์ไทยทรงได้รับอนุญาตให้ตัดสินพระทัยเป็นบางครั้งบางคราว ตราบใดที่ไม่ได้ปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่องบนแผ่นดินของเยอรมนี
สำหรับสถานะของพระมหากษัตริย์ไทย ทางรัฐบาลเยอรมนี บอกกับคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศแห่งสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนี ว่า “พระองค์ทรงมีวีซ่า ที่ได้รับอนุญาตให้ประทับในเยอรมนีในฐานะบุคคลทั่วไป มาเป็นเวลาหลายปี และทรงได้รับเอกสิทธิ์คุ้มกันทางการทูตในฐานะประมุขแห่งรัฐ”
ส่วนข้อเรียกร้องให้ถอนวีซ่าของพระองค์นั้น ถือเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเยอรมนี เพราะการถอนวีซ่าของประมุขรัฐหนึ่งๆ นั้น อาจก่อผลกระทบทางการทูตอย่างใหญ่หลวง... รอยเตอร์ระบุความเห็นของแหล่งข่าวในคณะกรรมาธิการ
เป็นอันว่าบรรดาแกนนำม็อบ และผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ต้อง “หน้าแตก” ไปตามๆ กัน...ไม่เพียงเท่านั้น บรรดาแกนนำยังต้องรับผลกรรมที่ได้ทำเรื่องมิบังควรนี้ด้วย !!

กรกช แสงเย็นพันธ์
...ล่าสุด พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้รวบรวมพยานหลักฐานในการกระทำความผิด ทั้งเอกสาร วิดีโอ และภาพถ่าย เตรียมออกหมายเรียกแกนนำกลุ่มราษฎร 5 คน ประกอบด้วย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ “มายด์”, นายกรกช แสงเย็นพันธ์, นายชนินทร์ วงษ์ศรี, นายชลธิศ โชติสวัสดิ์ และ น.ส.เบนจา อะปัญ ให้มารับทราบข้อกล่าวหา...
...ในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตาม ป.อาญา มาตรา 116 และข้อหาอื่นๆ จากกรณีที่เป็นแกนนำไปชุมนุมดังกล่าว

ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล




**เหตุที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ถูกทัวร์ลงหนัก แรงต้านมากกว่าใคร เพราะอะไร?

เมื่อ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” พระเอกและผู้กำกับรุ่นใหญ่ ออกมาเคลื่อนไหว ดังที่เขาโพสต์ลงเพจว่า ... ถึงเวลาแล้วที่ต้องแสดงให้ฝ่ายโจมตีสถาบันฯเห็นว่า ยังมีคนไทยอีกหลายสิบล้านคนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพวกเขา เช่น ยกนิ้วกลางให้ขบวนเสด็จ ฉีกพระบรมฉายาลักษณ์ เอารูปพระมหากษัตริย์ ไปแปะไว้ข้างบันได เขียนข้อความหยาบคาย ทำคลิปออกมาล้อเลียน พระมหากษัตริย์ จาบจ้วงด้วยถ้อยคำหยาบคาย สกปรก ถ้าขืนเราปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป ให้พวกเขามาทำร้ายจิตใจเราต่อไปหรือ ?
“ผมขอพลังอันเป็นมหาพลังของทุกคนชาวไทยที่ยังมีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในหัวใจ ลุกขึ้นมาปกป้อง และเป็นกำลังใจให้พระองค์ท่าน ผมจะไปทุกที่ ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ถ้ามีการรวมพลังออกมาปกป้องสถาบันฯ ช่วยกัน ถึงเวลาแล้วครับที่ต้องให้เขารู้ถึงพลังของพวกเราอย่ากลัว ถ้าเราทำในสิ่งที่ถูก”
“บิณฑ์” จึงประกาศเชิญชวนประชาชนให้สวมเสื้อเหลือง เสื้อชมพู ออกมาแสดงพลังปกป้องสถาบันฯ นัดเจอกันในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ที่วัดพระแก้ว ยิ่งทำให้อีกฝ่ายเดือดพล่านๆ เกิดปฏิกิริยารุนแรง
จากก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน พระเอก “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ประกาศจุดยืนออกมาปกป้องสถาบันฯ แล้วถูกฝ่ายโจมตีสถาบันฯ จัด “ทัวร์ลง” รุกไล่ คุกคาม ทางโซเชียลฯ อย่างหนักและต่อเนื่อง
ล่าสุด เห็นว่า ฝ่ายตรงข้ามยังโจมตีไม่หยุด แถมโพสต์อ้างผลงาน “จัดทัวร์ลง” ส่งผลให้ยอดติดตาม “เพจบิณฑ์” ที่มีกว่า 9.5 ล้าน ลดลงเป็นล้าน !
แต่ความนี้ ดูเหมือนจะคุยโวไปหน่อย เพราะเมื่อเช็กยอดกันจริงๆ ยอดติดตามเพจของบิณฑ์ อยู่ที่ 9.4 ล้าน หรือหายไปจริงราวๆ แสนเศษเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ก็เกิดกระแสของแฟนคลับ และหมู่ผู้ศรัทธาในตัว “บิณฑ์” ระดมกำลังมากดติดตามเพจพระเอกรุ่นใหญ่ ตีตื้นคืนมา พร้อมกับระบุเป็นการให้กำลังใจสนับสนุนในสิ่งที่เขาได้แสดงจุดยืน
สมรภูมิโซเชียลฯ ที่เดือดระอุบนเพจบิณฑ์นี้ เกิดคำถามกันว่า ทำไม “บิณฑ์” จึงตกเป็นเป้าถูกโจมตีรุนแรง ถูกต่อต้านหนักกว่าใครๆ ในชั่วโมงนี้ ?

 บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
เรื่องนี้ ถ้าจะวิเคราะห์กัน มองได้ว่าบทบาทของ “บิณฑ์” ที่ประกาศตัวเป็น “คนรักสถาบันฯ รักพระมหากษัตริย์” นั้น เป็นสิ่งที่ฝ่ายจ้องล้มเจ้า กลัวว่า “บิณฑ์” จะพัฒนาไปสู่จุดที่จะเป็น “ผู้นำทัพ” ประชาชน มวลชนเสื้อเหลือง และพลังเงียบไปในที่สุด !!
เพราะด้วยความที่ “บิณฑ์” ทำงานช่วยเหลือสังคมมานาน ผ่านการทำงานมูลนิธิร่วมกตัญญู อาสากู้ภัย และด้วยส่วนตัวของบิณฑ์เอง ภาพลักษณ์ไม่มีภาพของการเมือง ไม่มีสี ไม่มีขั้วอำนาจ ปฏิเสธไม่ได้ว่า “บิณฑ์” เป็นคนดังที่มีอิทธิพลต่อสังคมมากที่สุดคนหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ที่ผ่านมาเกิดอุทกภัย บิณฑ์ได้สร้างปรากฏการณ์กระแส “บริจาค” เป็นศูนย์กลางความช่วยเหลือประชาชน มียอดบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยผ่านเพจของเขาล้นหลาม จนรัฐบาลชักชวนให้เข้ามาช่วย
เพราะฉะนั้น หากจะมองกันลึกๆ “บิณฑ์” ถือเป็นตัวเลือกที่สามารถที่จะเป็น “แกนนำ” ของประชาชนกลุ่มใหญ่ ที่ไม่ใช่มวลชนจัดตั้งของแกนนำหน้าเดิมๆ ที่เชียร์ “รัฐบาลลุงตู่” อย่าง ลุงกำนัน อดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ หรือ หมอเหรียญทอง หรือ จัดตั้งโดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่ถูกฝ่ายตรงข้ามเสียดสีเย้ยหยันว่า ไม่มีพลัง เปรียบเป็นกองทัพตัวการ์ตูน “มิลเนียน” กลายเป็นเรื่องตลกขบขันของม็อบคณะราษฎร และกลุ่มสนับสนุน และบางกลุ่มในม็อบมิลเนี่ยน ยังแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมก็ยิ่งถูกนำไปขยายความว่า คนรักสถาบันฯ นิยมความรุนแรง สร้างความเสียหายให้กับประชาชนที่รักสถาบันฯ ด้วยความบริสุทธิ์ “อยู่ไม่เป็น” อึดอัดคับข้องใจ ไปกันใหญ่
จึงน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งต่อคำเชิญชวนของ “บิณฑ์” ในครั้งนี้ จุดประกายความหวังที่จะรวมตัวกันของคนส่วนใหญ่ที่ยังรักสถาบันฯ ให้เป็นพลังต่อกรกับม็อบราษฎร อย่างจริงจังได้หรือไม่
ต้องบอกว่า พลังเงียบที่ไม่เห็นด้วย และเอือมระอากับพฤติกรรม “ม็อบ 3 นิ้ว” ที่ก้าวร้าว โจมตี จวบจ้วงสถาบันฯ นับวันจะมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้พร้อมจะสุกงอม รอเพียง “ผู้นำที่แท้จริง” ที่จะออกมานำเท่านั้น
งานนี้ต้องติดตาม อย่ากะพริบตา.




กำลังโหลดความคิดเห็น