สตง.เปิดผลตรวจสอบ 5 โครงการ วงเงิน 257 ล้าน ตามนโยบายยกระดับท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 หรือกลุ่มล้านนาตะวันออก พบ 3 กิจกรรม วงเงิน 92.5 ล้าน ก่อสร้างเส้นทางจักรยาน 45 ล้าน ปรับปรุงภูมิทัศน์คูเมืองโบราณ 38 ล้าน และติดตั้ง CCTV 8.2 ล้าน ทำให้รัฐเสียโอกาสจัดสรรงบประมาณไปใช้ยกระดับการท่องเที่ยวกลุ่ม แถมประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถเพิ่มรายได้เฉลี่ยร้อยละ 10 ต่อปี ตามเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์
วันนี้ (20 ต.ค.) มีรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า สตง.เผยแพร่รายงานของ สตง.ภูมิภาคที่ 9 (จังหวัดลำปาง) ซึ่งตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพการดำเนินงานยุทธศาสตร์การพัฒนาและสนับสนุนการยกระดับการท่องเที่ยว ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560-2562 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 หรือ “กลุ่มล้านนาตะวันออก” ที่ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย แพร่ พะเยา และน่าน มี จ.เชียงราย เป็นหัวหน้ากลุ่ม ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรวมทั้งสิ้น 257,828,100 บาท เพื่อจัดทำโครงการและกิจกรรมเชิงยุทธศาสตร์ในการเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ภายใต้คุณค่าและอัตลักษณ์ล้านนาตะวันออก โดยกำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายให้รายได้จากการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดฯ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 10 ต่อปี
ประเด็นที่น่าสนใจ สตง.พบว่า โครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาและสนับสนุนการยกระดับการท่องเที่ยวฯ จำนวน 5 โครงการ 11 กิจกรรมหลัก มีการกำหนดรายการค่าใช้จ่ายในกิจกรรม ที่ไม่ส่งผลต่อการเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้ภายใต้ คุณค่าและอัตลักษณ์ล้านนาตะวันออก ตามเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ 7 กิจกรรม งบประมาณรวม 92,557,500 บาท คิดเป็นร้อยละ 35.89 ของงบประมาณทั้งหมด
“จำแนกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ การก่อสร้างเส้นทางจักรยาน งบประมาณ 45,626,000 บาท การปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณคูเมืองโบราณ งบประมาณ 38,731,500 บาท และการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV งบประมาณ 8,200,000 บาท โดยทั้ง 3 ส่วนนี้ทำให้รัฐเกิดค่าเสียโอกาสในการนำงบประมาณไปใช้ในโครงการและกิจกรรมเพื่อพัฒนาและสนับสนุนการยกระดับการท่องเที่ยวของกลุ่ม ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถเพิ่มรายได้ตามเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์”
ประเด็นต่อมา สตง.พบว่า โครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาและสนับสนุนการยกระดับการท่องเที่ยว ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560-2562 จำนวน 5 โครงการ 11 กิจกรรมหลัก โดยจาก 4 กิจกรรม งบประมาณรวม 69,235,975 บาท ไม่เกิดผลลัมฤทธตามตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ที่กำหนด ได้แก่
1. โครงการพัฒนาหมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยว ตามแผนฯปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 งบประมาณรวมทั้งสิ้น 57,597,000 บาท ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย แพร่ และพะเยา 12 หมู่บ้าน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมพัฒนาหมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยว-กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และกิจกรรมการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ชุมชน และส่งเสริมหมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยว งบประมาณรวม 49,499,975 บาท เบิกจ่าย 37,178,800 บาท พบว่า การดำเนินกิจกรรมไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ได้แก่ วัสดุ ครุภัณฑ์ และสิ่งปลูกสร้างบางรายการชำรุด เสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ ไม่มีการใช้ประโยชน์ตั้งแต่จัดซื้อจัดจ้างแล้วเสร็จ กลุ่มเป้าหมายไม่นำความรู้และวัสดุจากการฝึกอบรมมาปรับใช้ ฯลฯ ทำให้ผลการดำเนินงานจึงไม่ส่งผลต่อการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือเพิ่มรายได้ร้อยละ 5 ตามวัตถุประสงค์และตัวชี้วัดของโครงการ เช่นเดียวกับไม่มีการติดตามประเมินผลความสำเร็จ ความคุ้มค่า ผลกระทบ ฯลฯ
2. โครงการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยว Green Tourism งบประมาณรวม 20,736,000 บาท โดยฉพาะโครงการของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงราย-จ.แพร่ งบประมาณรวม 19,736,000 บาท เบิกจ่าย 17,965,458 บาท และสุ่ม 3 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย แพร่ และพะเยา 5 หมู่บ้าน พบว่ากลุ่มเป้าหมายไม่นำความรู้จากการฝึกอบรมและศึกษาดูงานมาปรับใช้ รวมทั้งวัสดุสื่อประชาสัมพันธ์คงเหลือจำนวนมาก ขณะที่ชุมชนที่เข้าสังเกตการณ์ได้รับการสนับสนุนกิจกรรมที่มีลักษณะเดียวกันจากหลายหน่วยงาน เช่น การจัดกิจกรรมอบรมพัฒนาด้าน การท่องเที่ยว การสนับสนุนสื่อประชาสัมพันธ์ เป็นต้น และการดำเนินกิจกรรมในรูปแบบของ การจัดประกวดการท่าอาหาร กิจกรรมการฝึกอบรม ศึกษาดูงาน ผลการดำเนินงานดังกล่าวไม่ส่งผลโดยตรงต่อการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงไม่สามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวและรายได้ จากการท่องเที่ยวร้อยละ 11 ตามวัตถุประสงค์และตัวชี้วัดที่กำหนดไว้
โดย สตง.มีข้อเสนอแนะถึงหัวหน้ากลุ่มจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด กำกับ ควบคุม ดูแลให้หน่วยงานเจ้าภาพหลักและหน่วยร่วมดำเนินการ ประสานงานและ บูรณาการร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.ก.) และให้สำรวจ ตรวจสอบ เพื่อทบทวนการสนับสนุนวัสดุ ครุภัณฑ์ ให้แก่กลุ่ม วิสาหกิจชุมชน กลุ่มอาชีพ และกลุ่มประชาชนอื่นที่มีความจำเป็น และมีศักยภาพเพียงพอที่จะนำทรัพย์สินของรัฐไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่า
ขณะที่กลุ่มครุภัณฑ์ และสิ่งปลูกสร้างชำรุด สูญหาย และไม่มีการใช้ประโยชน์ นับแต่จัดซื้อจัดจ้างแล้วเสร็จ มูลค่ารวม 19,780,757.84 บาท เช่น รถรางไฟฟ้า 18 ที่นั่ง เบิกจ่าย 980,000 บาท เพื่อสนับสนุนให้ ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ จ.เชียงราย ชำรุดเสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ หรืออาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และอาคารห้องน้ำ เบิกจ่ายทั้งสิ้น 3,339,000 บาท ไม่มีการใช้ประโยชน์นับแต่ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 เนื่องจากในพื้นที่ไม่มีการเชื่อมต่อไฟฟ้าและน้ำประปา
รวมถึงกิจกรรมการก่อสร้างเส้นทางจักรยาน ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา เบิกจ่าย 15,296,732.84 บาท ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 โดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพะเยา ผลการตรวจสอบพบว่า เส้นทางจักรยานบางช่วงผู้ประกอบการร้านค้า นำสิ่งของวางเพื่อจำหน่าย และ ประชาชนจอดรถยนต์กีดขวาง ทำให้ไม่สามารถไข้ประโยชน์ได้
ส่วนการตรวจสอบการดำเนินงานยุทธศาสตร์การพัฒนาและสนับสนุนการยกระดับการท่องเที่ยวของกลุ่มฯ พบว่า แผนพัฒนาฯ พ.ศ. 2557-2560 ฉบับทบทวน พ.ศ. 2560, แผนพัฒนาฯ พ.ศ. 2561-2564 ฉบับทบทวน พ.ศ. 2561 และ พ.ศ. 2562 ได้กำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายระดับยุทธศาสตร์ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์
“ทำให้ไม่สามารถวัดผลสำเร็จของเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ได้ เมื่อตัวชี้วัดไม่ชัดเจนจึงไม่สามารถวัดหรือสะท้อนผลการดำเนินงานได้ เนื่องจากตัวชี้วัดรายได้จากการท่องเที่ยวของกลุ่มฯ ปีงบฯ 2560-2562 เป็นผลจากการดำเนินกิจกรรมของหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นผลนอกเหนือจากโครงการและกิจกรรมภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาและสนับสบุนการยกระดับการท่องเที่ยว ปีงบฯ 2560-2562 จำนวน 9 โครงการ
อีกทั้งรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ได้ใช้ข้อมูลจากผลการดำเนินโครงการและกิจกรรมของกลุ่มจังหวัดดังกล่าว และเมื่อสิ้นปีงบประมาณ ทำให้ขาดข้อมูลประกอบการจัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดรอบปีงบประมาณถัดไป ดังนั้น คณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบบูรณาการ (ก.บ.ก.) กลุ่มจังหวัดฯ ควรทบทวนการกำหนดตัวชี้วัด และค่าเป้าหมายให้ชัดเจนตามแผนปฏิบัติงานในแต่ละปี”