“อนุชา” เผย ครม.วันนี้เตรียมหารือข้อเสนอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญหาทางออกประเทศ ระบุผลประชุมร่วมกับ “ชวน หลีกภัย” วานนี้ ฝ่ายค้าน-รัฐบาลเห็นตรงกันเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ย้อนม็อบขีดเส้นตายบังคับขู่เข็ญไม่ใช่เรื่องถูกต้อง
วันนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีการเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาการเสนอให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อหาทางออกให้แก่ประเทศจะมีการหารือในที่ประชุม ครม.หรือไม่ว่า จากที่ตนเข้าร่วมประชุมกับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ที่ประชุมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์มีความคิดเห็นตรงกันสมควรที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพูดคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ตอนแรกคิดว่าจะมีการล่ารายชื่อเพื่อให้เปิดประชุมหรือไม่ แต่ก็มีทางออกอีกครั้งหนึ่ง และให้นายชวนทำหนังสือเสนอมายัง ครม.เพื่อขอความเห็นชอบเปิดประชุมวิสามัญเพื่ออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 165 โดยเมื่อวานนี้นายชวนได้รีบทำหนังสือส่งมายังนายกฯ เพื่อให้ทันในการประชุม ครม.วันนี้
เมื่อถามว่า ในที่ประชุมมีการกำหนดหรือไม่ว่าจะเปิดประชุมกี่วัน นายอนุชากล่าวว่า มติที่ประชุมเพียงยื่นมาแค่ขอเปิดประชุมรัฐสภาเท่านั้น ไม่ได้ระบุว่าเป็นวันไหนเพราะต้องมีขั้นตอนในการออกพระราชกฤษฎีกาเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ซึ่งยังไม่ทราบขั้นตอนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย โดย ครม.จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้เวลากี่วัน
เมื่อถามว่า รัฐบาลต้องการให้ที่ประชุมรัฐสภาคลี่คลายสถานการณ์ในประเด็นไหนบ้าง นายอนุชากล่าวว่า ก็ต้องไปพูดคุยกัน เรายังไม่ได้สรุปประเด็นว่าเปิดประชุมแล้วจะพูดไปไหนบ้าง จะคุยประเด็นใดบ้าง แต่ทุกปัญหาจะนำเข้าสู่ที่ประชุม
เมื่อถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมอาจจะยังไม่รอการประชุมของรัฐสภา เพราะมีการยื่นเงื่อนไขให้ทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อภายใน 24 ชั่วโมงนี้ นายอนุชากล่าวว่า เป็นความเห็นที่แตกต่าง ยืนยันว่าความเห็นที่แตกต่างจะต้องนำไปพิจารณาในสภาเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในเรื่องของรัฐธรรมนูญ ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นเพียงข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ตนพูดในฐานะสมาชิกรัฐสภา ทั้งนี้ ในสังคมประชาธิปไตยการเรียกร้องเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าการบังคับหรือขู่เข็ญไม่น่าจะใช่เรื่องที่ถูกต้อง และบางเรื่องจุดยืนของแต่ละพรรคมีอยู่แล้ว เช่นเรื่องสถาบันฯ ฉะนั้นจุดยืนแต่ละฝ่ายก็มี จึงอยากฝากถึงผู้ชุมนุมและนักศึกษาว่าสิ่งที่เราพยายามทำนั้นทำเพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่ทุกความเห็นจะต้องไปในทิศทางเดียวกัน คงต้องมาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ทุกคนอยากเห็นว่าเวทีรัฐสภาสามารถแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนได้หรือไม่ ในฐานะนักการเมืองเราอยากทำตรงนั้นให้เกิดขึ้น ส่วนตัวคิดว่าอาจใช้เวลาพูดคุยในสภาประมาณ 1-3 วัน เชื่อว่าคงจะสะเด็ดน้ำแล้วว่าจะไปในทิศทางไหน
“แม้เวลาแค่ 1-2 ชั่วโมง เราก็เห็นตรงกันว่ามีค่าสำหรับการพูดคุยกันเพื่อหาทางออกร่วมกัน เราจะมีมติออกมาร่วมกัน ซึ่งนักการเมืองทุกคนก็อยากเห็นความสงบสุข” นายอนุชากล่าว ส่วนหากการประชุมผ่านไปแล้วแต่ม็อบยังคงอยู่ก็ค่อยว่ากัน หาวิธีที่จะมีบทสรุปร่วมกันอย่างสันติวิธี