ม็อบ “ราษฎร 63” ติดลมบน หยุดไม่อยู่ “หมอเหรียญทอง” จี้นักการเมืองชัดเจนคุกคามขบวนเสด็จฯ “พุทธะอิสระ” เห็นแล้วปวดใจ! แฉ หน.ก้าวไกล งับ “Fake News” ภาพจับม็อบฮ่องกง กล่าวหารัฐบาล “ภูมิธรรม” ส่งสารถึงเพื่อน เลิกอุ้ม “ลุงตู่”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (17 ต.ค. 63) สถานการณ์การชุมนุมของม็อบ “ราษฎร 63” ซึ่งต้องการปฏิรูปสถาบันฯ ยังคงร้อนแรงขึ้นเป็นลำดับ ท่ามกลางกระแสความคิดเห็นจากสองฝ่าย
ที่สำคัญ เฟซบุ๊ก พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ของ “หมอเหรียญทอง” พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความระบุว่า
“เรียน หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ขอให้พรรคฝ่ายค้านแสดงความชัดเจนต่อกรณีการคุกคามขบวนเสด็จฯพระราชินี และกรณีการชุมนุมด่าทออาฆาตมาดร้ายพระเจ้าอยู่หัว ที่เกิดขึ้นว่า นี่คือ การแสดงออกที่ถูกต้องตามสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้วหรือ???...
พรรคฝ่ายค้านสนับสนุนการชุมนุมด่าทออาฆาตมาดร้ายพระเจ้าอยู่หัว ถึงขนาดโพสต์ข้อความแขวนคอ...กระนั้นหรือ???...
พวกคุณเป็นนักการเมืองฝ่ายค้านรัฐบาล หรือค้านพระมหากษัตริย์กันแน่...ตอบหน่อยไอ้นักการเมืองจัญไรทั้งหลาย”
ขณะเดียวกัน อดีตพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “ปวดใจนัก”
โดยระบุว่า “หลังจากจบภารกิจร่วมน้อมถวายการรับเสด็จฯจบ ก็เดินทางกลับวัด พอมาถึงวัดก็ได้ข่าวที่ทำให้ปวดหัวใจยิ่งนัก
ขบวนรถพระที่นั่งของสมเด็จพระราชินี ถูกพวกใจเดรัจฉานขัดขวาง แล้วแสดงพฤติกรรมเถื่อน ถ่อย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าบรรพบุรุษของคนพวกนี้ เขาสอนกันมายังไง ถึงได้ชั่วร้ายย่ำยีหัวใจคนไทยได้ขนาดนี้
ก็อยากถาม พวกที่หนุนอยู่เบื้องหลังม็อบพวกนี้เหมือนกันว่าเห็นด้วยกับการขัดขวางขบวนเสด็จฯใช่ไหม รู้หรือไม่ว่าประเทศที่เรียกว่า มีประชาธิปไตยที่เจริญ อย่างสหรัฐฯ ถ้าประธานาธิบดีของเขากำลังเดินทาง แล้วมีผู้แสดงพฤติกรรม ถ่อย สถุน อย่างที่ทำกับองค์พระราชินีของไทย
อยากถามว่า พวกเจ้าหน้าที่ที่อารักขา เขาจะปล่อยเอาไว้ไหม
และหากเป็นขบวนเสด็จฯขององค์พระราชินีอังกฤษ แล้วมีผู้ไปทำพฤติกรรมถ่อย สถุนอย่างที่เป็นข่าว เจ้าหน้าที่อารักขาเขาจะปล่อยมันเอาไว้ไหม
แม้ในราชอาณาจักรเดนมาร์ก ซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญเดนมาร์ก เขากำหนดไว้ชัดเจนว่า พระมหากษัตริย์ และ สมเด็จพระราชินี จะถูกกล่าวละเมิด จาบจ้วงมิได้ และห้ามผู้ใดฟ้องร้องกล่าวโทษต่อองค์พระประมุข พระราชินี รัชทายาท
ไม่เห็นมีคนเดนมาร์ก บังอาจตีเสมอเรียกร้องสิทธิ์ให้เท่าเทียมกับองค์ประมุขของเขาเลย
ราชวงศ์ญี่ปุ่น ศาลสูงสุดได้วินิจฉัยว่า ศาลใดๆ ก็จะใช้อำนาจทางกฎหมายอยู่เหนือองค์พระจักรพรรดิมิได้ เพราะว่า พระองค์เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน แบบนี้เรียกว่า สิทธิเท่าเทียมกันไหม
แม้แต่ประเทศมาเลเซีย ศาลสูงสุดก็ยังมีคำวินิจฉัยว่า สมเด็จพระราชาธิบดี ได้รับการปกป้อง ใครจะล่วงละเมิดมิได้ และไม่มีอำนาจใดๆ เอาผิด ทางกฎหมายแก่องค์ประมุขของประเทศได้ เช่นนี้เรียกว่าสิทธิเท่าเทียมกันไหม
ยังมีอีกหลายประเทศบนโลกใบนี้ที่เขามีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ล้วนแต่มีรัฐธรรมนูญปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ของพวกเขากันทั้งนั้น ไม่เห็นผู้คนในประเทศนั้นๆ เขาเหิมเกริมยกตนเสมอพระประมุขของเขาเลย อย่าแกล้งโง่ทำหูหนวกตาบอดไม่รับรู้
อยากถามพวกที่หนุนม็อบล้มเจ้าอยู่ในเวลานี้ ว่าไหนคุยว่าเป็นพวกรักประชาธิปไตยและมีความรู้ กลับไม่สำเหนียกเลยรึ ว่าประเทศที่เขามีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขนั้น เขาปกป้ององค์ประมุขของพวกเขาอย่างไร
พวกคุณกำลังจะร่วมหัวกันทำลายสถาบันก็บอกมาตรงๆ เถิด อย่าทำตัวเป็นอีแอบ และแพร่เชื้อร้ายใส่หัวคนในสังคม
ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า เรื่องเลวร้ายแบบนี้พวกเราคนไทย ผู้มีหัวใจรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะไม่ยอมปล่อยให้เงียบหายไปเฉยๆ แน่
และหากรัฐบาลยังไม่คิดดำเนินการใดๆ พวกเราจะดำเนินการตามวิถีของลูกไทยด้วยสองมือของตนเอง
วันจันทร์นี้จะให้ทนายนำหลักฐานการละเมิดสถาบันไปแจ้งความ เอาผิดกับพวกต้นตอเชื้อชั่ว ที่บ่อนทำลายสังคมอยู่ทุกวันนี้”
นอกจากนี้ ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง ยังโพสต์เฟซบุ๊ก อย่างน่าสนใจว่า
“เอาภาพตำรวจฮ่องกงจับม็อบให้นั่งคุกเข่าหันหลัง มาอ้างว่า เป็นเหตุการณ์ในไทย แล้วประกาศผ่านสื่อแบบนี้เพื่ออะไรครับ?
เป็นผู้แทนราษฎร และเป็นถึงขนาดเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ที่เรียกตัวเองว่า “ก้าวหน้า/ก้าวไกล” ต้องมีคำตอบให้สังคมว่า สร้าง Fake News แบบนี้ขึ้นมาทำไม?
โดย อ้างโพสต์เฟซบุ๊ก ของ เตชะ ทับทอง ประกอบ ซึ่งระบุว่า
“ก่อนที่ท่าน ส.ส. จะไปถามความโปร่งใสใดๆ จากคนอื่น ....ผมขอถามความโปร่งใสในการใช้ภาพในมือถือที่โชว์ให้สื่อดู และสื่อถ่ายทอดไปยังผู้คนทั่วประเทศ ทั่วโลกได้ไหมครับท่าน
ดูภาพนั้นคล้ายภาพการจับม็อบฮ่องกงเมื่อปลายปีที่แล้วที่ฮ่องกงนะครับ มันเหมือนจนแทบจะกลายเป็นภาพเดียวกัน
ยังไงดี ....ต้องไปแจ้งความตรงไหนหากท่านเจตนาบิดเบือนข้อมูลขนาดนี้
เราจะไปกันอย่างนี้หรือครับประเทศไทย ....ศักดิ์ศรีผู้แทนประชาชน ท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
สื่อนางนี้เองก็อ้างประสบการณ์ตลอด เคสนี้รับผิดชอบยังไงดีครับ ....ต้องไปตะโกนถามต่อหน้าไหม ชักสงสัยหลายอย่างละในคุณภาพและจรรยาบรรณ
ภายในวันอังคาร ผมจะขอใช้สิทธิของประชาชนเพื่อให้ จนท.ตรวจสอบกรณีนี้นะครับ”
ที่มา https://web.facebook.com/TheReportersTH/videos/398550291535748/
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำ “กลุ่มแคร์” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai หัวข้อ “สารจากเพื่อนถึงเพื่อน”
โดยระบุว่า ถึง…ท่านอนุทิน ชาญวีรกุล, ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, ท่านวราวุธ ศิลปอาชา : หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล
“สถานการณ์บ้านเมือง เป็นถึงขั้นนี้แล้ว…ท่านจะทนนิ่งเฉยอยู่ได้หรือ?”
ท่านต้องตัดสินใจ…เลิกอุ้ม เลิกสนับสนุน รัฐบาลที่ใช้ความรุนแรงต่อเด็ก, เยาวชนและประชาชน ที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ได้แล้ว
“รัฐบาลที่ใช้ความรุนแรง …ต่อประชาชนต้องพิจารณาตัวเอง”
“พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ต้องลาออก”
แน่นอน, สิ่งที่ “หมอเหรียญทอง” อยากได้ความชัดเจนเรื่อง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตกลงบรรดานักการเมืองทั้งหลาย ที่ถือว่าเป็นปากเสียงประชาชน โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้าน คิดเห็นอย่างไร ต้องการอย่างไร จะแก้อย่างไรหรือไม่ ต่อความขัดแย้งระหว่างม็อบกับสถาบัน บนพื้นฐานที่คนไทยส่วนใหญ่รับไม่ได้ ต้องแสดงออกอย่างจริงจัง เพื่อให้เห็นทางออกของปัญหา
ประเด็นต่อมา สรุปว่า จะเอาอย่างไรกับ “ม็อบปฏิรูปสถาบัน” จะปล่อยให้มีการชุมนุมยืดเยื้ออย่างไม่มีวันจบสิ้นจนกว่าจะได้ตามข้อเรียกร้องทั้งหมด ทั้งที่รู้ดีว่า หนึ่งในข้อเรียกร้อง คือ ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แต่ก็ยังมีหลายคนออกมาปกป้องม็อบ เห็นใจม็อบ ยืนข้างม็อบ...
แล้วตกลงคืออะไร จะเอาอย่างไร จะไม่พัฒนาประเทศกันแล้ว ไม่ฟื้นฟูเศรษฐกิจกันแล้ว ปล่อยให้คนจน คนหาเช้ากินค่ำต้องตกระกำลำบากทุกข์ทนช่างมันอย่างนั้นหรือ???
เพราะอย่าลืมว่า ถ้าความขัดแย้งเรื่องนี้ ไม่จบลงง่ายๆ รัฐบาลก็คงไม่มีเวลา หรือ สมาธิที่จะบริหารประเทศ ไม่ว่ารัฐบาลไหน ต่อให้เก่งกล้าสามารถขนาดไหนก็ตาม และถ้า 5-10 ปี ยังไม่จบ จะทำอย่างไร อย่าคิดว่า เป็นไปไม่ได้ นี่ยังไม่นับว่า สังคมไทย จะแตกเป็นเสี่ยงๆมากมายแค่ไหน บ้านเมืองจะอ่อนแอ แตกสามัคคีกัน จนอาจไม่มีใครเคารพซึ่งกันและกันแล้ว จะทำอย่างไร???
นี่ต่างหากที่น่ากลัวสำหรับสถานการณ์ในประเทศไทยขณะนี้ เพราะว่านี่คือ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า คนไทยคิดอ่านอะไรเอาไว้สำหรับเรื่องนี้หรือยัง ถ้ายังก็จบกัน รอวันล่มสลายกันทั้งประเทศสถานเดียว ไม่เชื่อคอยดู!!!