ส.ส.เมืองคอน ปชป. ระบุมีการนัดคนใส่เสื้อเหลือง กำลังเข้าสู่การเมืองแบ่งสีเสื้ออีกครั้ง หวั่น เกิดม็อบชนม็อบ วอน เจ้าหน้าที่รัฐคุมม็อบตามกฎหมาย ไม่เลือกปฏิบัติ
วันนี้ (13 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวในวันพรุ่งนี้ (14 ตุลาคม) จะมีมวลชนหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ, กลุ่มอดีตพระพุทธะอิสระ, กลุ่มของ นพ.เหรียญทอง แน่นหนา, กลุ่มของนายสิระ เจนจาคะ และ กลุ่มไทยภักดี มีการนัดรวมตัวใส่เสื้อเหลืองเตรียมรับเสด็จฯ ตลอดเส้นทางถนนราชดำเนิน เริ่มจากลานพระบรมรูปทรงม้า-หน้าวัดพระแก้ว ขณะกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร จะนัดรวมตัว เริ่มกิจกรรมบนเวทีชั่วคราวที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 14.00 น. ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 16.00 น. นั้น
จากการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนทั้ง 2 ขั้วความคิด กำลังเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนในอดีตที่ผ่านมา กำลังมีการแบ่งแยกประชาชนด้วยสีเสื้ออีกครั้งหนึ่ง ทำให้สังคมเกิดความวิตกกังวล และเป็นห่วงว่า เมื่อมีประชาชนนัดใส่เสื้อสีเหลืองกันในวันพรุ่งนี้จำนวนหนึ่ง ในขณะที่กลุ่มมวลชนอีกกลุ่มหนึ่งใส่เสื้ออีกสีหนึ่ง จะเป็นการแบ่งแยกมวลชนกันอย่างชัดเจน เป็นการผลักให้ประชาชนเลือกข้างด้วยสีเสื้อ เพราะคนที่ใส่เสื้อสีอื่นก็จะเฝ้ารับเสด็จฯไม่ได้ และคนที่ร่วมชุมนุมกับกลุ่มประชาชนปลดแอก หรือกลุ่มคณะราษฎร ก็จะใส่เสื้อสีเหลืองไม่ได้ ปรากฏการณ์เช่นนี้กำลังย้อนรอยไปสู่ความขัดแย้งเหมือนในอดีตอีกครั้งหนึ่ง เป็นภาพที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไม่ปรารถนาที่จะให้เกิดขึ้นอีกแล้ว
ส่วนตัวไม่สนับสนุนการแบ่งแยกสีเสื้อ ไม่สนับสนุนให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองถึงขั้นจัดม็อบเผชิญหน้ากัน ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงได้ และการชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ของกลุ่มต่างๆ ที่มีนัดหมายกันอย่างอึกทึกครึกโครม เป็นการสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรง ในลักษณะม็อบชนม็อบได้ เพราะพื้นที่การชุมนุมของแต่ละกลุ่ม จะตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ย่อมอาจจะมีการกระทบกระทั่งกันในหมู่มวลชนที่รวมตัวกัน หรือปะปนกันอยู่ในสถานที่เดียวกันได้
อยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง ได้เข้าไปควบคุมดูแลความปลอดภัยให้กับทุกกลุ่มโดยไม่เลือกปฏิบัติ เพราะไม่อยากเห็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาควบคุมดูแล เข้มงวดเฉพาะการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร หรือกลุ่มประชาชนปลดแอกเท่านั้น ในขณะที่กลุ่มการเมืองอื่นๆ ที่ออกมาชุมนุมเช่นเดียวกัน กลับปล่อยให้เป็นอิสระเสรีในการเคลื่อนไหว ซึ่งจะถูกกล่าวหาว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ หรือใช้วิธีการ 2 มาตรฐานในการปฏิบัติ ต่อมวลชนที่เป็นคนไทยด้วยกัน ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลแต่อย่างใด