xs
xsm
sm
md
lg

แอบไม่มิด “ทอน-บูด” โดน!! “อดีตผู้พิพากษา” ไล่ส่ง “หมอวรงค์” ซัด ไม่เหมาะอยู่ไทย “ลุงไพศาล” ชี้ แตกแยกหนัก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล จากแฟ้ม
นับถอยหลังม็อบไล่ “ลุงตู่-ปฏิรูปสถาบัน” “อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา” สุดทน ไล่ “ทอน” ไปอยู่บ้านเกิดบรรพบุรุษ “หมอวรงค์” ซัด “ธนาธร-ปิยบุตร” หาแต่เรื่องในอดีตปลุกระดมเกลียดชัง ไม่เหมาะกับไทย “ลุงไพศาล” ชี้ ทุกฝ่ายแตกแยกหนัก

ภาพ นายชูชาติ ศรีแสง จากแฟ้ม
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (8 ต.ค. 63) นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า

“นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ได้รู้ถึงพื้นฐานของวัฒนธรรมไทย และความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อประชาชนไทยมานานไม่น้อยกว่า 800 ปี เพราะบรรพบุรุษเพิ่งอพยพมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นที่พักพิงทำมาหากินเมื่อไม่นานนี้เอง นายธนาธร จึงไม่มีสิทธิใดๆ ที่จะมาพูดให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ประชาชนคนไทย ซึ่งบรรพบุรุษมีรกรากหลักฐานอยู่ในแผ่นดินนี้ตลอดมาตั้งแต่โบราณกาลให้ความเคารพเทิดทูน

“ถ้านายธนาธรเห็นว่า เมืองไทยไม่มีอะไรดีเลย ก็ควรพาครอบครัวไปอยู่ในประเทศที่นายธนาธรยกย่องชื่นชม หรือมิฉะนั้นก็ควรกลับไปอยู่ในประเทศอันเป็นถิ่นที่อยู่เดิมของบรรพบุรุษของตน”

ภาพ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานกลุ่มไทยภักดี โพสต์หัวข้อ “#ประเทศไทยไม่เหมาะกับธนาธรปิยบุตร”

เนื้อหาระบุว่า “ผมได้ติดตามความคิดของ นายธนาธร และนายปิยบุตร มันสะท้อนได้อย่างหนึ่งคือ

นายธนาธร พยายามขุดอดีต เช่น เหตุการณ์ 2475 เหตุการณ์ 6 ตุลา และ 14 ตุลา รวมทั้งพฤษภาทมิฬ เพื่อให้เกิดความเกลียดชัง และความขัดแย้งในสังคม ปลุกระดมเพื่อการชุมนุม โดยไม่พูดถึงปัญหาจริงๆ ที่เกิดจากนักการเมือง ที่นายทุนบงการผ่านพรรค
ในทำนองเดียวกัน นายปิยบุตร ไปไกลถึงฝรั่งเศสร่วม 200 กว่าปี เรื่องการปฏิวัติฝรั่งเศส เพื่อนำเรื่องบ้านเมืองเขา มาปลุกระดมสร้างความเกลียดชัง ในสังคมไทย ทั้งๆ ที่คนละบริบท แต่เลือกพูด

การที่คนกลุ่มนี้ ต้องพยายามทำแบบนี้ เพราะหาปัญหาของวันนี้ เพื่อมาปลุกระดมไม่ได้ เนื่องจากปัญหานายทุนบงการพรรคการเมือง พวกตนเองก็มีส่วน

วันนี้สังคมไทย ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้รับการพิสูจน์ว่า เราสู้กับภัยคุกคามใหม่ๆ ได้ดีที่สุดในโลก และสอดคล้องกับวิถีแบบไทย อัตลักษณ์ไทย

ถ้าได้นักประชาธิปไตย ที่เอาพวกคุณอยู่ ประเทศไทยจะพัฒนาได้เร็วกว่านี้แน่ สงสัย #ประเทศไทยไม่เหมาะกับธนาธรปิยบุตร จริงๆ”

ด้าน เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ของ นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์หัวข้อ “แผ่นดินแตกระแหง ทั่วทุกภาคส่วน***”
โดยระบุว่า 1. เสื้อแดง ก็แตกเป็น 2 สาย คือ สายเดิม กับสายคุณแรมโบ้ (บอกไปตรงๆ เลยครับว่าปกป้องลุง)

2. สายพันธมิตร และ สาย กปปส. ก็แยกเป็น 2 สาย คือ สายจงรักภักดีต่อสถาบัน กับสายปกป้องนักการเมือง

3. นอกจากสองสายนี้แล้ว ก็แปลกแยกกันทุกหัวระแหงแม้กระทั่งในโรงเรียนหรือในบ้าน!

บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้!!!

อ้อ!! หัวโจกรับจ๊อบล้มเจ้า ทั้งในและนอกประเทศก็กำลังแตกเหมือนกัน ทึ่ง!!!!

สามัคคีผองพี่น้องไทย
*รวมไทย สร้างชาติ*

ที่น่าสนใจ ไม่แพ้กัน วันนี้ที่ท้องสนามหลวง กลุ่ม “คณะราษฎร” นำโดย นายอานนท์ นำภา นำแกนนำคณะราษฎร แถลงถึงการชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค.
ยืนยันข้อเรียกร้อง 3 ข้อ

1. พล.อ.ประยุทธ์ (จันทร์โอชา) ต้องลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี 2. เปิดประชุมวิสามัญทันที เพื่อรับร่างแก้ไขเพิ่มเติม รธน. จากประชาชน และ 3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ กลับมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ตามครรลองระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมในวันที่ 14 ตุลานี้ ว่า

ด้านการข่าวมีข้อมูลว่า มีอดีตนักการเมือง อดีต ส.ส. อดีตพรรคการเมือง ไปชักชวนปลุกระดมจะจ่ายค่ารถ ค่าเรือ ให้มาร่วมชุมนุม แต่หลายคนบอกว่า อยากได้เงิน แต่ไม่สามารถมาร่วมชุมนุมได้ เพราะรู้ว่าการชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตย แต่เพื่อก้าวล่วงสถาบัน จึงไม่เดินทางมากัน

เมื่อถามว่า สามารถเปิดเผยผู้ที่ชักชวนประชาชนได้หรือไม่ นายสุภรณ์ กล่าวว่า เป็นอดีตนักการเมือง อดีต ส.ส. รวมถึง ส.ส.ปัจจุบัน ที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล ซึ่งเรามีหลักฐาน กำลังรวบรวมอยู่ ถ้าถึงขนาดเปิดเผยตัวบุคคลได้จะนำมาเปิดเผย และใครพบเห็นขอให้ถ่ายคลิปถ่ายวิดีโอไว้ด้วย เราจะนำมาเป็นหลักฐานประจานว่าคนเหล่านี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการยุยงปลุกระดมให้ออกมาล้มล้างสถาบัน ส่วนเรื่องการดำเนินคดีจะว่าไปตามกระบวนการ ใครที่อยู่เบื้องหลังเป็นผู้สนับสนุนชักจูงคนที่เกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายจะต้องถูกดำเนินคดี...

แน่นอน, ดูเหมือน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า จะปิดตัวเอง ไม่มิดเสียแล้ว ว่า คิดอ่านอะไรอยู่ เมื่อมีการพูดถึงการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างจริงจัง หลังจากก่อนหน้านี้ มักแค่หยิบประวัติศาสตร์ไทย และประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส มาเปรียบเปรย รวมทั้งแกนนำนักศึกษาปลดแอกหลายคน ก็คือ คนที่มีความใกล้ชิดอดีตพรรคอนาคตใหม่ และพวกตนนั่นเอง

ไม่แปลกที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง จะไม่ทน และบางคนถึงกับไล่ส่งไปอยู่ประเทศอื่น เพราะการปลุกระดมให้เชื่อว่า ประเทศไทยไม่มีอะไรดี ทั้งเรียกร้องให้ปฏิรูปทุกอย่าง แม้แต่สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยที่ไม่สนใจว่า คนไทยคิดอย่างไร ใครเห็นต่างก็ล่าแม่มด แบนสินค้า จนแทบหาที่ยืนในสังคมไม่ได้

ยิ่งการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคม ระบุชัดออกมาแล้วว่า “การปฏิรูปสถาบัน” เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้อง และจะไม่มีการลดเพดานการพูดถึงอย่างแน่นอน นั่นก็เท่ากับว่า ท้ารบกับคนไทยที่ต้องการปกป้องสถาบันอย่างไม่ต้องสงสัย

อย่าลืมว่า ขณะนี้มีการเคลื่อนไหวจากฝ่าย “คนเสื้อแดง” ที่มีความใกล้ชิดกับ “แรมโบ้อีสาน” ทั้งในภาคอีสาน และภาคเหนือ ประกาศชัดเช่นกันว่า พร้อมปกป้องสถาบันอย่างถึงที่สุด และจะไม่เดินทางมาร่วมการชุมนุมครั้งนี้ด้วย

ประเด็นที่น่าสนใจจึงอยู่ที่ว่า การชุมนุมครั้งนี้จะมีความชัดเจน ว่า มวลชนที่เข้าร่วมมาจากไหนเป็นสำคัญ และเป็นคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันกับ แนวคิด “ปฏิรูปสถาบัน” เป็นส่วนใหญ่ใช่หรือไม่ นี่คือ สิ่งที่น่าจับตามองอย่าสูง

เพราะเอาเข้าจริง ถ้าฟังจากแกนนำปั่นกระแส ดูเหมือนข้อเรียกร้องอื่นเป็นได้อย่างดีก็แค่ไม้ประดับให้ดูไม่ “จงใจ” มากไปหน่อยเท่านั้นเอง

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร คงต้องจับตามองในวันที่ 14 ตุลาคมอีกครั้ง ว่า ทั้งปริมาณและคุณภาพของม็อบครั้งนี้จะสมราคาคุย มาเป็นล้านหรือไม่ และม้วนเดียวจบ อย่างที่แกนนำประกาศเอาไว้นั้น จะแค่ราคาคุยหรือทำได้จริง อีกไม่ช้าไม่นานก็คงจะได้รู้กันแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น